หุ้นกันซื้อถูกที่ 1 ศาลไม่รออาญา อีกคดีรอตัดสิน
ศาลอาญาพิพากษาคดีป้าติ้น แจ้งเท็จกุเรื่องหุ้นซื้อลอตเตอรี่ กับป้าติ๋ว แล้วโมเมถูกรางวัลที่ 1 ก่อนแจ้งจับป้าติ๋วยักยอกเงินรางวัล 30 ล้าน ศาลพิจารณาหลักฐานแล้ว สั่งจำคุก 1 ปี 6 เดือน แต่คำให้การมีประโยชน์อยู่บ้าง ลดโทษ 1 ใน 3 คงจำคุก 12 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ก่อนทนายยื่นคำร้องใช้เงิน 1 แสนบาท ขอปล่อยตัวชั่วคราว ศาลอนุมัติตามคำร้อง
ศาลอาญาสั่งจำคุก “ป้าติ้น” แจ้งความเท็จ กุเรื่องโดนยักยอกถูกหวย 30 ล้าน เปิดเผยเมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 14 ส.ค. ที่ห้องพิจารณาคดี 716 ศาลอาญา ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 9 เป็นโจทก์ฟ้องนางเรวดี หรือป้าติ้น หาแก้ว อายุ 54 ปี เป็นจำเลยฐานแจ้งข้อความอันเป็นเท็จแก่เจ้าพนักงานซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นหรือประชาชนเสียหายรู้ว่ามิได้มีการกระทำความผิดเกิดขึ้น, แจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวนหรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่าได้ มีการกระทำความผิดอันเป็นการแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษฯ
สำหรับการอ่านคำพิพากษาวันนี้ นางเรวดี หรือป้าติ้น เดินทางมาศาลด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ขณะที่ฝ่ายผู้เสียหายมีนางจรูญ หรือป้าติ๋ว เฮก ที่ถูกนางเรวดีอ้างว่ายักยอกสลากฯรางวัลที่ 1 ไป มาฟังคำพิพากษาพร้อมกับนายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม
บรรยายโจทก์ฟ้องว่า ระหว่างวันที่ 12 เม.ย.60 ถึงวันที่ 8 พ.ค.60 จำเลยแจ้งข้อความอันเป็นเท็จ เกี่ยวกับความผิดอาญาแก่ ร.ต.อ.คะนอง โสมทอง พนักงานสอบสวน สภ.ดงเย็น จ.อุดรธานี (ผู้เสียหายที่ 1) ว่า เมื่อวันที่ 29 มี.ค.60 จำเลยได้ซื้อสลากกินแบ่งรัฐบาลร่วมกับนางจรูญ หรือป้าติ๋ว เฮก (ผู้เสียหายที่ 2) ที่วัดศิริสุทโธ (คำชะโนด) อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี สลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 392785 จำนวน 5 ใบ เป็นเงิน 500 บาท โดยออกเงินกันคนละ 250 บาท ตกลงกันว่าเมื่อถูกรางวัลจะแบ่งคนละครึ่ง โดยมอบสลากกินแบ่งรัฐบาลให้นางจรูญเก็บรักษา
...
ต่อมาวันที่ 1 เม.ย.60 สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลประกาศผลรางวัลที่ 1 ปรากฏว่า สลากหมายเลข 392785 ที่ตนและนางจรูญร่วมกันซื้อถูกรางวัลที่ 1 เป็นเงิน 30 ล้านบาท เมื่อทวงถามนางจรูญได้บ่ายเบี่ยง แจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับนางจรูญข้อหายักยอกทรัพย์ การแจ้งข้อความดังกล่าวของจำเลยเป็นความเท็จทั้งสิ้น ความจริงจำเลยรู้อยู่แล้วว่าจำเลยมิได้ร่วมกับนางจรูญซื้อสลากหมายเลขดังกล่าว และนางจรูญ ผู้เสียหาย ไม่ได้ถูกรางวัลที่ 1 การที่จำเลยแจ้งความเท็จดังกล่าวทำให้นางจรูญเสียหาย แกล้งให้ต้องรับโทษทางอาญา
ศาลพิเคราะห์แล้ว โจทก์มีพนักงานสอบสวน สภ.ดงเย็น เบิกความสอดคล้อง หลังรับแจ้งความพนักงานสอบสวนตรวจสอบการรับรางวัลของผู้ถูกสลากฯงวดดังกล่าวพบว่า หมายเลขชุดทั้งหมด 5 ชุด ที่จำเลยอ้างว่าซื้อไว้นั้น มีผู้มาขึ้นรับรางวัล โดยหมายเลขชุดดังกล่าวที่จำเลยอ้าง ไม่ได้รวมอยู่ในชุดเดียวกันตามที่จำเลยอ้าง อีกทั้งลายมือชื่อที่จำเลยอ้างว่าลงลายมือชื่อไว้หลังสลากฯ ตรวจสอบแล้วไม่พบการแก้ไขหรือร่องรอยการขูดลบ พยานหลักฐานจำเลยมีน้ำหนักน้อย ไม่อาจหักล้างพยานหลักฐานโจทก์ได้ อีกทั้งนางจรูญ หรือป้าติ๋ว ผู้เสียหายที่ 2 ไม่ได้ซื้อเลขรางวัลที่ 1 ไม่ได้รับรางวัล 30 ล้าน ตามที่จำเลยแจ้งความกับพนักงานสอบสวน ผู้เสียหายที่ 1 การกระทำของจำเลยบิดเบือนข้อเท็จจริง ต่อมาพนักงานสอบสวน สภ.ดงเย็น มีคำสั่งไม่สมควรฟ้องนางจรูญ หรือป้าติ๋ว ผู้เสียหายที่ 2
พิพากษาว่าจำเลยมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 137, 173 ประกอบมาตรา 174 วรรคสอง เป็นการกระทำความผิดกรรมเดียวผิดต่อกฎหมายหลายบท ให้ลงโทษฐานแจ้งข้อความแก่พนักงานสอบสวน หรือเจ้าพนักงานผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญาว่า ได้มีการกระทำความผิด เพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษหรือรับโทษหนักขึ้น อันเป็นบทลงโทษหนักที่สุด ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 1 ปี 6 เดือน คำให้การของจำเลยมีประโยชน์อยู่บ้างลดโทษให้ 1 ใน 3 คงจำคุกเป็นเวลา 12 เดือน
หลังศาลอ่านคำพิพากษาจำคุกนางเรวดี หาแก้ว หรือป้าติ้น เป็นเวลา 12 เดือน ไม่รอลงอาญา จากนั้นญาติและทนายของนางเรวดีได้ยื่นหลักทรัพย์ เป็นเงินสด 1 แสนบาท เพื่อขอประกันตัว ศาลได้มีคำสั่งอนุญาตให้ประกันปล่อยตัวชั่วคราวนางเรวดี หรือ ป้าติ้น โดยไม่กำหนดเงื่อนไข
ส่วนคดีที่นางเรวดี หรือป้าติ้น และนางวิไลพร รัตนติสร้อย หรือป้าเล็ก อายุ 59 ปี เป็นจำเลยในข้อหาแจ้งความเท็จลักษณะเดียวกัน กรณีเมื่อปี 2559 นางเรวดีและนางวิไลพรแจ้งความตำรวจ สน.ประเวศ ถูกนางสุดารัตน์ น้อยนิตย์ หรือป้าดา ผู้เสียหายซึ่งเป็นเพื่อนสนิท ยักยอกสลากกินแบ่งรัฐบาลหมายเลข 066720 จำนวน 5 คู่ ถูกรางวัลที่ 1 ประจำงวดวันที่ 1 เม.ย.2559 มูลค่า 30 ล้านบาท ศาลอาญามีนบุรีนัดฟังคำพิพากษาวันที่ 30 ก.ย.นี้