วันหยุดสุดสัปดาห์ คนกรุงหายใจได้โล่งขึ้นหน่อย หลังค่าฝุ่นพิษจิ๋ว “พีเอ็ม 2.5” คลี่คลายลงบ้าง ตามสภาพลมที่พัดเข้าออก ด้านแบบจำลองสภาพอากาศ (วาฟ-รอม) คาดเปิดทำงานวันจันทร์ จะมีกระแสลมมาช่วยพัดฝุ่นละอองสะสมให้คลี่คลาย ขณะที่นายกฯกำชับแก้ฝุ่นละอองเข้มข้นจนกว่ากลับเป็นปกติ โดยทุกภาคส่วนร่วมใจจัดกิจกรรมพัฒนา Big Cleaning Day “อุ่นไอรัก” ทุกพื้นที่เช้าจดเย็น วันที่ 20 ม.ค.นี้ ระดม “จิตอาสา” ร่วม 7 พันคน ฉีดน้ำทำความสะอาดถนนลดปริมาณฝุ่นละออง

จากปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะค่าฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กกว่า 2.5 ไมครอน (PM2.5) ที่ปกคลุมหลายพื้นที่ใน กทม.และปริมณฑล อันจะส่งผลกระทบต่อสุขภาพประชาชน ซึ่งรัฐบาลพยายามหาวิธีแก้ปัญหาในเบื้องต้น ทั้งฉีดพ่นละอองน้ำทำฝนหลวง กวดขันรถยนต์ปล่อยควันดำ ฯลฯ มาตลอดสัปดาห์ ต่อมาเมื่อวันที่ 19 ม.ค.ซึ่งเป็นวันหยุดสุดสัปดาห์ กรมควบคุมมลพิษ (คพ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) รายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM2.5 ในภาพรวมค่อนข้างดี โดยช่วงเช้าอากาศลอยตัวได้ดี แต่ไม่มีฝน ความเร็วลม 10-30 กม./ชม. ส่งผลทำให้คุณภาพอากาศในภาพรวมอยู่ในระดับ “ดี” ปริมาณฝุ่นละอองมีแนวโน้มลดลง โดยพื้นที่ริมถนน คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับปานกลาง มีค่าเกินมาตรฐาน หรือ 50 ไมโครกรัม (มคก./ลบ.ม.) 2 พื้นที่ คือ ริมทางคู่ขนานพระราม 2 อ.เมืองสมุทรสาคร และริมถนนรัชดา-ท่าพระ เขตธนบุรี สาเหตุมาจากการจราจร พื้นที่ทั่วไป (ห่างจากริมถนนสายหลัก) คุณภาพอากาศโดยรวมอยู่ในระดับดี มีค่าเกินมาตรฐาน 1 พื้นที่

...

แต่ในช่วงเที่ยง พื้นที่ริมถนน มีปริมาณฝุ่น PM 2.5 เกินมาตรฐาน เพิ่มขึ้นเป็น 6 พื้นที่ คือ ริมทางคู่ขนานพระราม 2 อ.เมืองสมุทรสาคร และริมถนนรัชดา-ท่าพระ เขตธนบุรี เขตปทุมวัน ริมถนนลาดพร้าวซอย 95 เขตวังทองหลาง ริมถนนพระราม 3-เจริญกรุง เขตบางคอแหลม และริมถนนเจริญนคร เขตคลองสาน ส่วนพื้นที่ทั่วไปยังอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานทุกพื้นที่ และคาดการณ์ว่าคุณภาพอากาศในวันรุ่งขึ้นจะอยู่ในระดับ “ปานกลาง” ถึง “เริ่มมีผลกระทบต่อสุขภาพ” ในบางพื้นที่ และจากแบบจำลองการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา พื้นที่ กทม.ในวันที่ 20 ม.ค.อุณหภูมิจะเพิ่มขึ้นเล็กน้อย ทำให้เกิดสภาวะอากาศปิด ทำให้ฝุ่นละอองอาจเพิ่มขึ้นได้

ด้านแบบจำลองสภาพอากาศ (วาฟ-รอม) ของสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำและการเกษตร (สสนก.) ระบุว่า ช่วงเช้าของวันที่ 20-21 ม.ค. ความกดอากาศสูงยังคงอ่อนแรง ปริมาณฝุ่นสะสมในบรรยากาศอาจจะเพิ่มขึ้นและเห็นผลชัดในช่วงเช้าวันที่ 21 ม.ค. ซึ่งเป็นช่วงวันทำงาน มีการใช้รถ ใช้ถนนกันมากตามปกติ แต่ในช่วงกลางวันของวันที่ 21 ม.ค. ความกดอากาศสูงก็เริ่มส่งกระแสลมเข้ามามากขึ้น คาดว่าความแรงของลมจะอยู่ที่ 20 กิโลเมตร ต่อชั่วโมง เป็นต้นไป ซึ่งจะทำให้ฝุ่นละอองที่สะสมในช่วงเช้าคลี่คลายได้

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้ตระเวนสำรวจหมอกฝุ่นในบริเวณเกาะรัตนโกสินทร์และพื้นที่ใกล้เคียงพบว่า ปริมาณหมอกฝุ่นบางตาลงไปอย่างมาก เมื่อเทียบกับช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา โดยเฉพาะเมื่ออยู่บนตึกสูงจะสามารถมองเห็นทิวทัศน์ของกรุงเทพมหานครได้ไกลขึ้น

ส่วนที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย โฆษก ตร. กล่าวว่า กรณีที่กรมควบคุมมลพิษรายงานสถานการณ์ฝุ่นละอองในอากาศเกินค่ามาตรฐานเนื่องมาจากสภาพอากาศและการจราจรที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ กทม.และปริมณฑล ศูนย์อำนวยการใหญ่ โครงการจิตอาสาพระราชทาน พร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ เหล่าทัพ กระทรวงมหาดไทย ฝ่ายปกครอง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กำหนดการจัดกิจกรรมพัฒนา Big Cleaning Day “อุ่นไอรัก” ทุกพื้นที่ในวันอาทิตย์ที่ 20 ม.ค. ตั้งแต่เวลา 08.30-17.30 น. มุ่งเน้นทำความสะอาด ฉีดน้ำ เพื่อร่วมกันลดฝุ่นละอองในอากาศ โดยมีพื้นที่จุดรวมพลดังนี้ 1.สนามม้านางเลิ้ง 2.สนามหลวง 3.วงเวียนใหญ่ 4.รพ.สมเด็จพระปิ่นเกล้า 5.ศูนย์เยาวชนใต้ทางด่วน สะพานพระราม 9 6.พระประแดงอาเขต และ 7.สวนสุขภาพคลองลัดโพธิ์ ตามแนวเส้นทาง Bike อุ่นไอรัก จุดที่ 5 6 และ 7 อยู่ในความรับผิดชอบของ ตร.

พล.ต.ท.ปิยะกล่าวว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. สั่งการให้ทุกหน่วยใน กทม.และปริมณฑล ร่วมกันปฏิบัติภารกิจ “จิตอาสา” รวมทั้งเชิญชวนจิตอาสาในพื้นที่ร่วมกันทำกิจกรรม พร้อมทั้งสนับสนุนเครื่องมือ อุปกรณ์ และรถน้ำเพื่อใช้ฉีดพ่นลดฝุ่นละอองในอากาศ เน้นหนักในพื้นที่ที่มีมลภาวะสูง เช่น ถนนแจ้งวัฒนะ ถนนลาดพร้าว ถนนรามคำแหง บนทางพิเศษทางด่วนขั้นที่ 1 ทางด่วนขั้นที่ 2 พื้นที่ก่อสร้างขนาดใหญ่ และก่อสร้างรถไฟฟ้า เป็นต้น ใช้กำลังพลข้าราชการตำรวจทุกหน่วยงานในส่วนกลาง 22 หน่วยงาน จำนวน 1,190 นาย ประชาชนจิตอาสา 5,710 คน รวมทั้งหมด 6,900 คน รถฉีดพ่นน้ำ 11 คัน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังเป็นหน่วยงานนำร่องในการฉีดพ่นละอองน้ำในอากาศเพื่อบรรเทาปัญหาฝุ่นละออง บริเวณที่ตั้งหน่วยงานต่างๆ จุดที่มีปัญหาฝุ่นละออง ได้แก่ อาคารสำนักงานตำรวจแห่งชาติ รพ.ตำรวจ บริเวณถนนพระราม 1 แยกราชประสงค์ อาคารสำนักงานตรวจค้นเข้าเมือง และอาคารกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ตำรวจจะบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดตรวจสอบรถควันดำ รถที่สภาพไม่สมบูรณ์ก่อให้เกิดมลภาวะบนถนน โดยจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง ร่วมกับหน่วยงานกระทรวงอุตสาหกรรมตรวจตราโรงงานปล่อยมลพิษใน กทม.และปริมณฑล รวมทั้งพื้นที่ภูมิภาคตรวจสอบกลุ่มบุคคลที่ลักลอบเผาพืชไร่

...

วันเดียวกัน นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีเปิดเผยว่า ปัญหาฝุ่นละอองใน กทม.และปริมณฑล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กำชับทุกหน่วยที่เกี่ยวข้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มข้นจนกว่าปัญหาคลี่คลายและกลับเข้าสู่สภาวะปกติ ขณะที่ในระยะนี้สภาพอากาศมีกลุ่มเมฆค่อนข้างน้อยและความชื้นน้อยลง จึงยังปฏิบัติการฝนหลวงไม่ได้ และในวันที่ 20 ม.ค. กทม.จะมีอุณหภูมิสูงขึ้นเล็กน้อยและสภาพอากาศปิด อาจทำให้ฝุ่นละอองเพิ่มขึ้นได้ จึงขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพของตนเอง ที่ผ่านมาการดำเนินงานของทุกหน่วยเป็นไปตามแผน ทั้งการทำฝนเทียมส่งผลให้สภาพอากาศโปร่งใส เข้มข้นตรวจจับควันดำ 20 จุด ควบคุมกิจกรรมการก่อสร้างรถไฟฟ้าไม่ให้มีฝุ่นละออง ห้ามรถองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่มีควันดำออกวิ่ง ส่วนพื้นที่ปริมณฑลผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งห้ามเผาวัชพืชหรือขยะในที่โล่งจนถึงสิ้นเดือน ก.พ.หรือจนกว่าเหตุการณ์กลับเป็นปกติ

ด้านนายสมศักดิ์ ห่มม่วง อธิบดีกรมเจ้าท่า เปิดเผยในเวลาต่อมาว่า ได้สั่งการเร่งด่วนให้หน่วยที่เกี่ยวข้องกำหนดนโยบายและมาตรการเพื่อสนับสนุนการบรรเทาปัญหาฝุ่นละอองที่เกินมาตรฐาน โดยแจ้งให้ผู้ประกอบการเรือ เปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง ไส้กรองอากาศ หัวฉีด บำรุงรักษาเครื่องยนต์เรือ เพื่อลดการปล่อยควันดำ และจากการออกตรวจสอบ ให้คำแนะนำแก่ผู้ประกอบการเรือในการปรับปรุง แก้ไขปัญหามลพิษจากท่อไอเสีย ตั้งแต่เมื่อวันที่ 17 ม.ค.ที่ผ่านมา ได้ตรวจสอบเรือประเภทต่างๆไปแล้ว 95 ลำ และสั่งให้เรือ 10 ลำหยุดการใช้งานจนกว่าจะปรับปรุงให้เป็นไปตามที่เจ้าพนักงานของกรมเจ้าท่ากำหนด นอกจากนั้น กรมเจ้าท่ายังจะร่วมกับคณะวิศวกรรมศาสตร์ ม.เกษตรศาสตร์ ในการพัฒนาเรือไฟฟ้าต้นแบบเพื่อลดควัน คลื่น และเสียง นำมาใช้ทดแทนเรือแบบเดิม ซึ่งจะช่วยเพิ่มความสะดวก แก่ประชาชน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากยิ่งขึ้น

...