จับขบวนการสวมทะเบียนรถรายใหญ่ ของกลางรถที่ประกอบเสร็จสมบูรณ์แล้ว 30 คัน และซากรถ-ชิ้นส่วนกว่า 300 ชิ้น ตรวจยึดจาก 6 จังหวัดทั่วประเทศ ซื้อรถขโมย หนีไฟแนนซ์ และหนีภาษีมาสวมซาก ขายราคากว่าครึ่งล้าน ทำรายได้อู้ฟู่เดือนละหลายล้านบาท ออกหมายเรียก 6 ผู้ต้องหามาดำเนินคดีแล้ว เหลืออีกกว่า 20 คนที่เส้นทางการเงินเกี่ยวข้อง ความแตกเพราะผู้เสียหายจำรถที่พี่ชายแอบเอาไปจำนำได้ ร้อง ศปจร.ก.ตามแกะรอยจนทลายขบวนการได้ในที่สุด

ตำรวจทลายแก๊งสวมซากรถรายใหญ่ เปิดเผยขึ้นที่กองบังคับการปรามปราบ (บก.ป.) เมื่อเวลา 14.00 น. วันที่ 15 ม.ค. พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. พ.ต.อ.สันติ ชัยนิรามัย รอง ผบก.ป. พ.ต.อ.บุญลือ ผดุงถิ่น ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ท.รัชภูมิ กุสุมาลย์ รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล รอง ผกก.3 บก.ป. ร.ต.อ.หญิง กัญจิรา นรสาร รอง สว.กก.3 บก.ป. และเจ้าหน้าที่ ศปจร.ก. แถลงข่าวจับกุมขบวนการสวมซากรถยนต์ พร้อมของกลางรถยนต์ต้องสงสัย 30 คัน ประกอบด้วย รถกระบะโตโยต้าและอีซูซุ รวม 24 คัน รถโตโยต้า โคโรลลา 5 คัน และรถฮอนด้า ซีวิค 1 คัน ซากรถยนต์ฮอนด้า แจ๊ซ 2 คัน รถมาสด้า 2 คัน เครื่องยนต์ 18 เครื่อง และชิ้นส่วนรถยนต์ 291 ชิ้น ของกลางทั้งหมดตรวจยึดมาจากพื้นที่ 6 จังหวัด ทั้งในกาฬสินธุ์ นครปฐม ระยอง ปทุมธานี สมุทรปราการ และอุบลราชธานี

พ.ต.ท.วิวัฒน์ จิตโสภากุล กล่าวว่า สืบเนื่องจากวันที่ 20 ก.ย.2561 นายประเสริฐ ฤทธิ์หวี อายุ 34 ปี อยู่บ้านเลขที่ 63/7 หมู่ 5 ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี พบเห็นรถกระบะฟอร์ด เรนเจอร์ สีน้ำเงิน ติดแผ่นป้ายทะเบียน 5878 ร้อยเอ็ด เหมือนรถของตน เพราะจำสติกเกอร์ที่ติดอยู่หน้ารถได้ จอดอยู่บริเวณกลางซอยรัชดา 36 แยก 9-1 แขวงจันทรเกษม เขตจตุจักร กทม. เข้าไปสอบถามพบว่า ผู้ครอบครองรถคือนายหาญ พันธ์พรม แสดงหลักฐานกรรมสิทธิ์รถว่าซื้อมาอย่างถูกต้องตามกฎหมายตรงกับทะเบียนตัวรถคันดังกล่าว ชุด ศปจร.ก.จึงเข้าตรวจสอบรถอย่างละเอียด พบว่าภายในรถมีใบเสร็จส่งงวดรถของนายประเสริฐอยู่ในช่องเก็บของด้านหน้า อีกทั้งนายประเสริฐยังมีกุญแจสำรองของรถด้วย เป็นเหตุให้เชื่อว่ารถเป็นของนายประเสริฐ

...

“เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงตรวจสอบขยายผล พบแก๊งดังกล่าวทำเป็นขบวนการใหญ่แบ่งเป็น 4 ขั้นตอน คือขบวนการหาซากรถยนต์ จากรถที่เกิดอุบัติเหตุและไม่ได้แจ้งกรมการขนส่งทางบกว่าหยุดการใช้รถ หลังจากนั้นขบวนการจะหารถที่ถูกโจรกรรม หนีไฟแนนซ์และหนีภาษีมาสวมซากรถยนต์ที่มีทะเบียนถูกต้องแล้วส่งขายในตลาดรถมือสอง สำหรับขบวนการนี้ซื้อรถหรือซากรถมาราคาเพียง 100,000-200,000 บาท นำมาประกอบใหม่โดยไม่ได้จดทะเบียนถูกต้องแล้วนำออกขายในราคา 500,000-600,000 บาท ใน 1 เดือนสามารถประกอบได้ 5-6 คัน ทำรายได้เข้าแก๊งเดือนละหลายล้านบาท” พ.ต.ท.วิวัฒน์กล่าว

รอง ผกก.3 บก.ป.กล่าวต่อไปว่า ขณะนี้ออกหมายเรียกนายทรงพล คุณรักษ์ อายุ 52 ปี นายหน้าที่นำรถสวมซากที่ประกอบเสร็จแล้วไปขาย พร้อมพวกรวม 6 คน มารับทราบข้อหากล่าวหาร่วมกันฉ้อโกงแล้ว อยู่ระหว่างขยายผลเรียกมาแจ้งข้อกล่าวหาอีก 20 คน หลังพบหลักฐานความเชื่อมโยงทางการเงิน

ด้านนายประเสริฐผู้เสียหายเผยว่า เมื่อวันที่ 17 ม.ค.2561 พี่ชายยืมรถไปใช้ แล้วนำไปจำนำจนหลุดจำนำไปแล้ว กระทั่งวันที่ 20 ก.ย.2561 พบรถกระบะฟอร์ดที่เหมือนรถของตนจอดอยู่ในพื้นที่ สน.พหลโยธิน จึงเข้าแจ้งความที่ สน.พหลโยธิน แต่เมื่อตำรวจตรวจสอบพบว่ารถคันดังกล่าวมีเอกสารครบ แต่ตนยืนยันว่ารถเป็นของตน เนื่องจากเป็นคนแต่งรถกระบะคันดังกล่าวด้วยตัวเองทั้งหมด ทั้งไฟหน้ารถ ไฟตัดหมอก ไฟด้านใน เปลี่ยนใส่เป็นไฟแอลอีดีทั้งหมด นอกจากนี้ กระจกด้านหน้าและด้านหลังติดสติกเกอร์ตำรวจด้วย จึงเข้าร้องทุกข์ตำรวจกองปราบปราม กระทั่งสามารถตรวจพบตัวการใหญ่ที่นำรถมาสวมซากแล้วนำมาขายต่อในที่สุด