มีงานนิทรรศการประจำปีอยู่งานหนึ่งที่ผมให้ความสำคัญอย่างมาก และจะเขียนให้ทุกๆปีในช่วงหลังๆนี้

เขียนบอกกล่าวให้ผู้คนรู้ว่างานกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว พร้อมกับจะเชิญชวนให้ไปดูไปชมหรือไปเดินเล่นในงานนี้ เพื่อเป็นการให้กำลังใจแก่คณะผู้จัดงาน และให้กำลังใจแก่ผู้ที่นำผลงานไปตั้งแสดงในงาน

งาน “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ” ไงครับ จัดขึ้นในปีไหนก็จะใช้ พ.ศ.ของปีนั้นมาห้อยท้ายในชื่องานภาษาไทย และใช้ปี ค.ศ.มาห้อยท้ายในชื่องานภาษาอังกฤษ

ดังเช่นปีนี้ ซึ่งตรงกับ พ.ศ.2561 และ ค.ศ.2018 เขาจึงใช้ชื่องานว่า “มหกรรมงานวิจัยแห่งชาติ 2561” ในภาษาไทย และ “Thailand Research Expo 2018” ในภาษาอังกฤษ

จัดโดย สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับเครือข่ายในระบบวิจัยทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 9 สิงหาคม (วันนี้) ไปจนถึงวันจันทร์ที่ 13 สิงหาคม ซึ่งเป็นวันหยุดชดเชย วันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในรัชกาลที่ 9 รวมทั้งสิ้น 5 วันเต็มๆ

ณ โรงแรม เซ็นทาราแกรนด์ และ บางกอก คอนเวนชั่นเซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ ตั้งแต่เวลา 09.00-18.00 น.ทุกวัน เข้าชมฟรี ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ

เหตุที่ผมตัดสินใจเขียนให้งานนี้ชนิดเต็มคอลัมน์มาหลายปีติดต่อกันก็เพราะผมเชื่อใน พลังของงานวิจัย ว่าเป็นพลังที่สามารถเปลี่ยนแปลงประเทศได้อย่างใหญ่หลวง

ทุกๆประเทศที่ทุ่มเทเอาใจใส่ในงานวิจัยและงานประดิษฐ์คิดค้นต่างๆ จะไม่มีวันหยุดนิ่งอยู่กับที่อย่างแน่นอน...มีแต่จะเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้าไปเรื่อยๆอย่างไม่มีวันสิ้นสุด

ด้วยเหตุนี้เราจึงเห็นประเทศพัฒนาแล้วทั้งหลายได้ทุ่มเทงบประมาณเพื่องานวิจัยของประเทศตนอย่างมากมาย คิดเป็นเปอร์เซ็นต์ของจีดีพีหรือผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศแล้ว ไม่ต่ำกว่าร้อยละ 2 ร้อยละ 3 ในแต่ละปี

...

ญี่ปุ่นทุ่มงบประมาณเพื่อการนี้กว่าร้อยละ 3 ต่อปีมานานแล้ว ในขณะที่สหรัฐฯก็เกินร้อยละ 2 เฉียดไปทางร้อยละ 3 มานานเช่นกัน

สิงคโปร์เพื่อนบ้านเราใช้กว่าร้อยละ 2 ต่อปี ตั้งแต่ผมไปดูงานเมื่อ 20 ปีก่อน ไม่ทราบเดี๋ยวนี้จะเกิน 2 ไปแล้วกี่มากน้อย

ชาติที่เห็นชัดที่สุดว่าเจริญได้เพราะงานวิจัยโดยแท้ก็คือ เกาหลีใต้ นี่แหละครับ...จากประเทศยากจนอยู่ในขั้นด้อยพัฒนามาเป็นประเทศกำลังพัฒนา ลูกศิษย์ธนาคารโลกรุ่นๆเดียวกับไทยมีแผนพัฒนาเศรษฐกิจพร้อมๆกับประเทศไทย แต่เดี๋ยวนี้เขาไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้

เขาใช้งบประมาณวิจัยทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน รวมกันเกือบร้อยละ 4 ติดอยู่ในอันดับสูงถ้าไม่สุดก็เกือบสุดของโลก

จึงไม่น่าแปลกใจที่ทั้งโทรศัพท์มือถือ ทั้งวิทยุโทรทัศน์ ทั้งรถยนต์ ฯลฯ ของเขาสามารถยกระดับขึ้นมาเป็นแบรนด์ชั้นนำของโลกไปเรียบร้อย

ในขณะไทยเราใช้งบประมาณวิจัยแค่ไม่ถึงร้อยละ 0.5 มานานมากปีแรกๆแค่ 0.2 หรือ 0.3 เท่านั้นละมัง ล่าสุดมีข่าวว่าจะให้ถึง 1 เปอร์เซ็นต์ ในปี 2561...ไม่ทราบว่าถึงแล้วหรือยัง?

ก็เอาเถอะ อย่างน้อยเริ่มมีความคิด เริ่มรับรู้ความจริงว่างานวิจัยเป็นเรื่องสำคัญ หันมาใช้งบประมาณเพื่อการวิจัยมากขึ้นก็ถือว่ามาถูกทางแล้ว

แม้เราจะยังไม่มีผลงานวิจัยที่ออกมา “โดน” มากนัก ยังไม่ออกไปเป็นสินค้าระดับโลก ฮิตทั้งโลก ขายได้ทั้งโลก...แต่ก็เอาเถอะถ้าพยายามต่อไปไม่หยุดสักวันโอกาสอาจเป็นของเราบ้าง

อย่างปีนี้เขาฉายหนังตัวอย่างมาว่าจะมีผลงานวิจัยถึง 9 ประเภท 9 แนวความคิด โดยจะมีการนำเสนอผลงานวิจัยจากทั่วประเทศ ทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน กว่า 500 ผลงาน และผลงานจากมหาวิทยาลัยหรืออุดมศึกษาอีกกว่า 100 ผลงาน

มีการประชุมกว่า 120 หัวข้อ มีนิทรรศการให้ดูมากมายเต็มห้องประชุมใหญ่ยักษ์ของเซ็นทาราแกรนด์ ถนนพระราม 1

ถ้ามีโอกาสอยากให้แวะไปเดินชมงาน หรือเข้าฟังการประชุมสัมมนา ต่างๆกันให้เยอะๆครับ อย่างที่บอกนั่นแหละ ไปให้กำลังใจแก่ทุกๆผลงาน แม้จะยังดูเตาะแตะอยู่บ้าง เพราะยังอยู่ในระยะเริ่มต้น

แต่ถ้าไม่ไปให้กำลังใจ เมื่อไรล่ะเราจะเป็นอย่างเกาหลีเขาซะที... พูดแล้วก็น้อยใจ ออกสตาร์ตพร้อมกันแท้ๆ ของเขาไปถึงไหนแล้วก็ไม่รู้... เพราะฉะนั้นไปช่วยกันเชียร์งานวิจัยไทยแลนด์กันหน่อยนะครับ

ย้ำอีกที 9–13 สิงหาคม ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ ฟรีจ้า!

“ซูม”