เลื่อนนัด ปปป. เลขาฯ พุทธโต้ ‘3พระเถระ’ โกง

“สุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ” รมต. ประจำสำนักนายกฯ เผยสั่งเอาผิด ข้าราชการ รวมทั้งพระชั้นผู้ใหญ่ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดอย่างเด็ดขาด ยึดความถูกต้องโปร่งใสตามแนวทางนายกฯให้ไว้ ขณะที่ “พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์” ผอ.พศ. แจ้งตำรวจ บก.ปปป. ขอเลื่อนเข้าแจ้งความเอาผิดเพิ่มอีก 7 วัดแบบไม่มีกำหนด ด้านเลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย ออกโรงโต้เรื่องนี้ไม่ใช่การทุจริตแต่เป็นการโยกงบฯ มาสร้างถาวรวัตถุ แฉรายชื่อวัดได้รับงบฯอุดหนุนและอยู่ระหว่างถูกตรวจสอบ โผล่ในไลน์กลุ่มพระสงฆ์ ล้วนเป็นวัดดังใน กทม.

ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 19 เม.ย. นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการตรวจสอบทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม ซึ่งมีพระชั้นผู้ใหญ่ 5 รูป ถูกแจ้งความดำเนินคดีที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) ว่า หารือกับ พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลงานสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) แล้ว สั่งการให้ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (ผอ.พศ.) ดำเนินการเอาผิดกับข้าราชการทั้งหมด รวมถึงอดีต ผอ.พศ. ที่เกี่ยวข้อง ตามแนวทางนโยบายที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช. ให้ไว้ ข้อเท็จจริง เรื่องนี้เป็นผลจากการดำเนินงานของ พศ.ที่พบการร้องเรียนทุจริตใช้งบอุดหนุนวัด งบอุดหนุนการศึกษา โรงเรียนพระปริยัติธรรม และงบเผยแผ่กิจการพระพุทธศาสนา พศ.จึงส่งเรื่องให้ตำรวจ บก.ปปป. สืบสวนจนพบอดีต ผอ.พศ. และข้าราชการชั้นผู้ใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้อง ก่อนจะแจ้งความเอาผิดและส่งเรื่องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบสวนผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด ส่วนกรณีที่พระผู้ใหญ่ 3 รูป ที่เป็นกรรมการ มส. และถูกกล่าวหาต้องออกจากตำแหน่งหรือไม่นั้น ต้องแยกกันกับเรื่องกระบวนการยุติธรรม

...

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ขณะนี้พระผู้ใหญ่หลายท่านไม่พอใจการทำหน้าที่ตรวจสอบของ พ.ต.ท.พงศ์พร จะทำให้การตรวจสอบมีอุปสรรคหรือไม่ นายสุวพันธุ์กล่าวว่า พศ.ทำไปตามอำนาจหน้าที่ ผอ.พศ.ไปร้องทุกข์กล่าวโทษพระผู้ใหญ่และผู้เกี่ยวข้องตามหนังสือของ ผบช.ก.ที่ส่งมา ไม่ดำเนินการ ไม่ได้ เรื่องนี้ง่ายๆ ไม่ยาก รัฐบาลยึดความถูกต้อง ตรงไปตรงมา โปร่งใส งานที่เกี่ยวข้องกับพระพุทธศาสนา รัฐบาลมีหน้าที่สนับสนุนส่งเสริมให้เจริญรุ่งเรืองต่อไป

นอกจากนี้ นายสุวพันธุ์ยังกล่าวถึงความคืบหน้าของคดีธัมมชโยว่า กรมสืบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ยังสืบสวนหาตัวอยู่ ยังไม่ได้รับรายงานว่า อยู่ในวัด นอกวัด หรือนอกประเทศ ไม่ต้องห่วงยังติดตามตัวอยู่

ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะกำกับดูแลงานสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ต้องยึดแนวทางและนโยบายที่นายกรัฐมนตรีเคยให้สัมภาษณ์ เป็นเรื่องละเอียดอ่อน มีผลกระทบต่อจิตใจของประชาชน ต้องรอบคอบ มีหลักฐานชัดเจน มองทุกมิติ หากความชัดเจนออกมาแล้ว เชื่อประชาชนยังยึดมั่นนับถือพระพุทธศาสนา

ที่กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (บก.ปปป.) มีรายงานว่า หลังจาก พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ. ประสานเข้าพบ พ.ต.อ.ปัญญา กล้าประเสริฐ ผกก. (สอบสวน) กก.1 บก.ปปป. ในเวลา 10.00 น. เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ ดำเนินคดีเงินทอนวัดชุดที่ 3 ที่เหลืออีก 7 วัดนั้น ปรากฏว่าเมื่อถึงกำหนดเวลา พ.ต.ท.พงศ์พรได้ประสานขอเลื่อนเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษ เนื่องจากติดภารกิจด่วน ไม่สามารถเดินทางมาได้ ตามเวลานัดหมาย พร้อมแจ้งด้วยว่าอาจเดินทางมาในช่วงบ่าย กระทั่งเวลา 14.00 น. พ.ต.ท.พงศ์พร ประสานพนักงานสอบสวนบก.ปปป.อีกครั้ง ระบุว่าวันนี้ไม่สามารถเข้ามาพบตามนัดหมายได้ ขอเลื่อนมาให้ปากคำและแจ้งความในวันอื่น แต่ไม่ได้ระบุ วันและเวลา

ที่วัดสามพระยา กรุงเทพฯ สมเด็จพระพุทธ– ชินวงศ์ เจ้าอาวาสวัดพิชัยญาติการาม เจ้าคณะใหญ่หนกลาง เป็นประธานเปิดการประชุมเจ้าอาวาส ผู้ช่วยเจ้าอาวาส ในเขต กทม. ตามมติ มส. มีพระ พรหมดิลก เจ้าอาวาสวัดสามพระยา กรรมการ มส. ในฐานะเจ้าคณะกรุงเทพฯ 1 ในพระชั้นผู้ใหญ่ที่มีชื่อ เกี่ยวข้องกรณีการตรวจสอบทุจริตเงินอุดหนุนการศึกษาโรงเรียนพระปริยัติธรรม เข้าร่วมประชุมและกล่าวถวายรายงานการประชุม หลังเสร็จสิ้นการประชุม พระพรหมดิลกให้สัมภาษณ์สั้นๆถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า ต้องขอขอบคุณ อนุโมทนา ผอ.พศ. ที่ทำให้ได้บำเพ็ญ บุญบารมีเพิ่มมากขึ้น และในวันที่ 20 เม.ย. ก็จะเข้าร่วมประชุม มส.ตามปกติ

วันเดียวกัน นายกรณ์ มีดี เลขาธิการสมาพันธ์ชาวพุทธแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ทราบเบื้องต้นเกี่ยวกับข้อมูลห้อยท้ายคำฟ้องว่า พระเถระต้องอาบัติปาราชิก ไม่สมควรดำรงสมณศักดิ์ ไม่สมควร เป็นกรรมการ มส. เพราะเป็นการฟ้องเรื่องของการทุจริต ซึ่งการฟ้องทุจริต คือการนำงบฯไปใช้ส่วนตัว แต่เท่าที่ทราบพระเถระท่านไม่ได้นำเงินไปใช้ส่วนตัว เพียงแต่ว่าเงินนั้นถูกนำไปใช้ผิดประเภท เช่น อุดหนุน การศึกษาพระปริยัติธรรม แผนกสามัญ แต่ท่านนำมาสร้างอาคารเรียนหรือกุฏิในพระพุทธศาสนา เป็นต้น ข้อมูลที่ทราบมาแต่ยังไม่ยืนยัน 100 เปอร์เซ็นต์ พบข้อมูลพระเถระที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหานั้น ได้แจ้งต่อเจ้าหน้าที่ พศ.ไปว่าจะนำงบฯมาสร้างอาคาร สร้างกุฏิ ในวัด ซึ่งเจ้าหน้าที่ พศ.ยืนยันว่าได้และจะดำเนินการให้ โดยไปโยกงบฯอุดหนุนของโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา มาให้พระเถระดำเนินการตามวัตถุประสงค์ โดยที่พระเถระท่านไม่ทราบว่างบฯมาจากส่วนใดและท่านก็ดำเนินการตามที่แจ้ง พศ.ไว้จริง โดยไม่ได้นำเงินไปทำอย่างอื่น

นายกรณ์กล่าวด้วยว่า ขณะนี้คงเคลื่อนไหวอะไรลำบาก ตนห่วงถึงเรื่องการที่ ผอ.พศ. ไปปรับอาบัติปาราชิก กล่าวหา 3 พระเถระว่าไม่สมควรเป็นกรรมการ มส. เท่ากับว่าเป็นการไปกดดันพระอำนาจของสมเด็จพระสังฆราช เนื่องจากการปลดกรรมการ มส. เป็นพระอำนาจสมเด็จพระสังฆราชเท่านั้น การทำเช่นนั้นเป็นการทำเกินหน้าที่ของ ผอ.พศ. ฆราวาสไม่มีสิทธิ์ไปตัดสินพระท่านได้

...

มีรายงานว่า ขณะนี้ในกลุ่มไลน์ของพระสงฆ์ มีการส่งต่อข้อมูลรายชื่อวัดที่ได้รับงบฯอุดหนุนการจัดการศึกษาพระปริยัติธรรมจากกองพุทธศาสนศึกษา สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เมื่อปี 56 ที่ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.พศ. เรียกตรวจสอบ ซึ่งงบฯดังกล่าวมีนายนพรัตน์ เบญจวัฒนานันท์ ผอ.พศ.ในขณะนั้น เป็นผู้ลงนามอนุมัติ มีรายชื่อวัดสำคัญๆ อาทิ วัดเทพศิรินทราวาส ได้รับงบฯ 10 ล้านบาท วัดสุทัศนเทพวราราม 10 ล้านบาท วัดบวรนิเวศวิหาร 5 ล้านบาท เป็นต้น อย่างไรก็ตามผู้สื่อข่าวยังไม่ได้รับการยืนยันว่ารายชื่อวัดดังกล่าวจะรวมอยู่ในรายชื่อ 7 วัดที่ ผอ.พศ.เตรียมจะแจ้งความเพิ่มหรือไม่