ระบุขัดต่อข้อกฎหมาย ต้องให้ป.ป.ช.พิจารณา รวมกับคดี ผบก.กาญจน์
อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญาพร้อมคณะ มีมติไม่รับและส่งคืนสำนวนคดีหวยอลเวง 30 ล้านบาท ให้กองปราบฯหลังส่งให้พิจารณา สั่งฟ้อง “ครูปรีชา-เจ๊บ้าบิ่น” ข้อหาแจ้งความเท็จ รวม 3 ข้อหา เพื่อให้ ป.ป.ช.ชี้มูลความผิดแทนเพราะขัดข้อกฎหมาย ก่อนส่งให้ศาลอาญาคดีทุจริตฯพิจารณา เนื่องจากเห็นว่าการกระทำของผู้ต้องหาทั้ง 2 คน เป็นการสนับสนุน “สุทธิ พวงพิกุล” อดีต ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี บิดสำนวนคดีถูกแจ้งข้อหา ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ยันไม่ได้สั่งยุติคดี ป.ป.ช.จะพิจารณาข้อหาแจ้งความเท็จรวมไปด้วย ด้าน “รองผบก.ป.” เผย รับสำนวนคืนและส่งให้ ป.ป.ช.ไปแล้ว เป็นการมองต่างมุมไม่มีผลต่อคดี ขณะที่ “ครูปรีชา” พร้อมรายงานตัว จ่อร้อง ป.ป.ช.และเขียนหนังสือ “คำพิพากษาของสังคม” ส่วน “เจ๊บ้าบิ่น” พอใจ เชื่อไม่มีหลักฐานเอาผิด
กรณีอ้างสิทธิ์เป็นเจ้าของลอตเตอรี่ รางวัลที่ 1 จำนวน 5 ใบ มูลค่า 30 ล้านบาท ระหว่าง ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อายุ 62 ปี อดีตข้าราชการตำรวจ และนายปรีชา ใคร่ครวญ อายุ 50 ปี ครูโรงเรียนเทพมงคลรังษี จ.กาญจนบุรี ชุดคลี่คลายคดีของ บช.ก.ดำเนินคดี กับครูปรีชาและนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น สรุปสำนวนส่งฟ้องให้อัยการ ขณะเดียวกันส่งหลักฐานให้ตำรวจ บก.ปปป.ดำเนินคดี พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล ผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี เป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ส่งสำนวนให้ป.ป.ช.พิจารณาตามขั้นตอนกฎหมาย
ความคืบหน้าที่สำนักงานอัยการสูงสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 18 เม.ย. นายพิทักษ์ อบสุวรรณ อธิบดีอัยการสำนักงานคดีอาญา นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ นายประยุทธ เพ็ชรคุณ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยงค์ รองโฆษกสำนักงานอัยการ พร้อมอัยการคณะทำงานคดีลอตเตอรี่ 30 ล้านบาท ร่วมกันแถลงว่า ตามที่ตำรวจกองปราบปรามนำสำนวนที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมล กล่าวหานายปรีชา ใคร่ครวญ และนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น เป็นผู้ต้องหา ตาม ป.อาญา มาตรา 172, 173, 174 ร่วมกันแจ้งข้อความเท็จฯ ร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดอาญาแก่พนักงานสอบสวนทำให้ผู้อื่นเสียหาย และร่วมกันแจ้งข้อความเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษ เหตุเกิดที่ จ.กาญจนบุรี
...
นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ กล่าวว่า การพิจารณาสำนวน อัยการยังไม่ได้พิจารณาในเนื้อหาข้อเท็จจริง แต่พิจารณาในปัญหาข้อกฎหมาย พบว่า นายปรีชากับ น.ส.รัตนาพรถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้สนับสนุนการกระทำความผิดของ พล.ต.ต.สุทธิ พวงพิกุล อดีตผบก.ภ.จ.กาญจนบุรี ในฐานความผิดของเจ้าพนักงาน คือเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ และความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ในการยุติธรรม ตามมาตรา 157 และมาตรา 200 กลั่นแกล้งดำเนินคดีให้ต้องรับโทษอาญา มีวัตถุประสงค์สร้างพยานหลักฐานเท็จ พฤติการณ์ของ 2 สำนวนนี้เป็นคดีเกี่ยวพันกัน ตามกฎหมาย พ.ร.บ.ว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตปี 50 มาตรา 89 และ พ.ร.บ.มาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันปรามปราบการทุจริตมาตรา 4 ให้ผู้สนับสนุนเจ้าพนักงานที่กระทำผิดถูกดำเนินคดีไปพร้อมกันจึงต้องส่งเรื่องให้คณะกรรมการ ป.ป.ช. เป็นผู้พิจารณาสำนวนตามกฎหมาย ทั้งนี้ อาศัยอำนาจตามระเบียบอัยการสูงสุดปี 47 ข้อ 60 ส่วน ป.ป.ช.พิจารณาไต่สวนมีคำสั่งอย่างไร อัยการจะไม่ก้าวล่วง
ผู้สื่อข่าวถามว่า เมื่อคดีอยู่ในอำนาจ ป.ป.ช.แล้ว ขั้นตอนจะเป็นอย่างไร นายประยุทธ เพ็ชรคุณเผยว่า ตอนนี้เท่ากับผู้ต้องหาไม่อยู่ในอำนาจควบคุมของอัยการ อัยการจึงร้องขอปล่อยตัวในวันนี้ซึ่งเป็นวันครบฝากขังวันสุดท้ายและศาลสั่งปล่อยตัวแล้ว โดยทางปฏิบัติผู้ต้องหาได้ประกันตัวไปก่อนหน้านี้ จากนั้นอัยการแจ้งกองปราบปรามมารับสำนวนกลับไปส่งให้ ป.ป.ช.พิจารณา ถ้าฟ้องคดีจะอยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตาม พ.ร.บ.วิธีพิจารณาคดีอาญาทุจริต มาตรา 8 ที่ ป.ป.ช.ส่งให้อัยการฟ้องต่อศาลต่อไป
นายประยุทธกล่าวอีกว่า ครูปรีชาและเจ๊บ้าบิ่นอย่าเพิ่งดีใจ เพราะอัยการไม่ได้สั่งไม่ฟ้อง อัยการไม่ได้สั่งยุติคดี แต่พิจารณาในข้อกฎหมายแล้วเห็นว่าต้องให้ ป.ป.ช.ดำเนินคดีต่อ ดังนั้น ข้อหา ป.อาญา มาตรา 172, 173, 174 ยังอยู่ และจะรวมไปกับคดีในข้อหา 157, 200 ถ้า ป.ป.ช.พิจารณาต้องรวมคดี 3 ข้อหาต่อไปด้วย ผู้สื่อข่าวถามว่า คดีนี้อยู่ในความสนใจของประชาชนเป็นพิเศษ อัยการรับสำนวนไปนานกว่า 2 สัปดาห์ อัยการได้ดูไปถึงไหนบ้าง หรือไม่ดูเลย หากดูแค่ข้อกฎหมายว่าไม่อยู่ในอำนาจไม่นานเกินไปหรือ ดังสุภาษิตกฎหมายว่า ความล่าช้าคือการไม่ให้ความยุติธรรม นายประยุทธเผยว่า ไม่ได้ล่าช้าแต่เพราะเอกสารมีมาก อีกทั้งต้องเรียกสำนวนในส่วนข้อหาความผิดต่อตำแหน่งมาดูแล้วมาประชุมกัน ประกอบกับเดือน เม.ย.มีวันหยุดหลายวัน อัยการต้องทำงานรอบคอบถี่ถ้วน ไม่ใช่มวยล้มต้มคนดู
นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ กล่าวว่า ในส่วนคดีแพ่ง ที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี เป็นคดีส่วนตัวเกี่ยวกับพิพาทกรรมสิทธิ์ แตกต่างกับคดีอาญาในความผิดของเจ้าพนักงาน และคดีที่แถลงนี้ไม่ได้เป็นคดีแพ่งเกี่ยวเนื่องคดีอาญา ขณะเดียวกัน นายประยุทธกล่าวเสริมว่า ในคดีแพ่งหากคู่ความตกลงกันไม่ได้ให้ถือเอาผลคดีอาญายุติอย่างไร มีผลให้คดีแพ่งรับฟังไปตามนั้น เป็นอีกเรื่องเพราะเป็นความสมัครใจของคู่ความ
ด้าน พ.ต.อ.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบก.ป.กล่าวว่า กองปราบฯรับสำนวนคืนมาจากอัยการเมื่อวันที่ 17 เม.ย.ที่ผ่านมา และส่งสำนวนต่อไปให้ ป.ป.ช.พิจารณาชี้มูลความผิดแล้ว ส่วนกรณีที่อัยการระบุว่า จากพยานหลักฐานในสำนวนคดีแจ้งความเท็จและคดีประพฤติมิชอบของ พล.ต.ต.สุทธิ เป็นความผิดต่อเนื่องเกี่ยวพันกันเป็นมุมมองกฎหมายของอัยการที่อาจมีมุมมองต่างกัน แต่ยืนยันว่า การรวมสำนวนและส่งสำนวนคืนให้กองปราบฯ ไม่กระทบต่อคดี อีกทั้งยังมีความเห็นสอดคล้องกับอัยการด้วยว่าการรวมสำนวนกันนั้น เมื่อศาลพิพากษาว่า ผู้ต้องหาผิดจริงผู้ต้องหาจะได้รับโทษหนักขึ้นกว่าสำนวนที่ส่งไปก่อนหน้านี้ หลังจากนี้หาก ป.ป.ช.จะสอบสวนหรือต้องการพยานหลักฐานเพิ่มเติมสามารถดำเนินการได้เลย เพราะมีอำนาจหน้าที่ครอบคลุมอยู่แล้ว ส่วนศาลมีคำสั่งให้ปล่อยตัว 2 ผู้ต้องหาแล้วหลายฝ่ายมีความกังวลว่าผู้ต้องหาจะไปยุ่งเหยิงพยานหลักฐานทำให้คดีเสียหาย ยืนยันว่าไม่น่าจะมีปัญหาเพราะที่ผ่านมาผู้ต้องหาไม่มีพฤติการณ์แบบนี้
ด้านครูปรีชา ใคร่ครวญ พักผ่อนที่บ้านพัก บ้านนะโม หมู่ 3 ต.ปากแพรก อ.เมืองกาญจนบุรีเผยว่า กรณีที่สำนักงานอัยการสูงสุด แถลงโอนคืนสำนวนให้กองปราบฯส่งต่อให้ ป.ป.ช. หลังพิจารณาแล้วเห็นว่าพฤติการณ์ของตนและเจ๊บ้าบิ่น เกี่ยวพันกับคดีทุจริตของอดีตผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี เรื่องคดีจะขอปรึกษาทนายความว่าจะทำอย่างไรต่อไป ป.ป.ช.มีหมายเรียกจะไปรายงานตัวให้ปากคำตามปกติ และถือโอกาสยื่นร้องขอความเป็นธรรมกับ ป.ป.ช.ด้วย เพราะมั่นใจว่าตัวเองไม่ได้ทำความผิด โดยเฉพาะการแก้ไขสำนวนหวย 30 ล้านบาท ยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้องมีหน้าที่ให้ปากคำพูดตามความจริง ระหว่างให้สัมภาษณ์ครูปรีชา ทนายความของครูปรีชาโทรศัพท์มาพูดคุยด้วย แนะนำว่า เป็นไปตามขั้นตอนให้ทำตามที่เจ้าหน้าที่ร้องขอ หากเชิญให้ไปให้ปากคำเพิ่มก็ไป และวันที่ 19 เม.ย.นี้ เวลา 08.30 น. จะเดินทางไปรายงานตัวที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก เป็นการไปรายงานตัวนัดสุดท้าย ตามที่มีนัดหมายตามปกติโดยจะไปพร้อมกับทนายความ
...
นอกจากนี้ ครูปรีชากล่าวอีกว่า ตอนนี้ไม่รู้สึกเครียดกับการต่อสู้คดี และได้ใช้เวลาว่าง ช่วงปิดเทอมเขียนหนังสือเป็นพ็อกเกตบุ๊กชื่อว่า คำพิพากษาของสังคม (Social Sanction) คดีหวย 30 ล้านบาท ขอยืนยันว่าไม่ได้ก้าวก่ายคดีหวย 30 ล้านบาท เพียงแต่ตั้งใจว่า อยากถ่ายทอดเรื่องราวเป็นความรู้ ความคิดเห็นและประสบการณ์ในการต่อสู้คดีหวย 30 ล้านเท่านั้น ตั้งใจว่าจะเล่าเป็น 2 ตอน เริ่มจากตั้งแต่เกิดเหตุการณ์จนถึงวันที่ถูกจับกุม เป็นตอนที่1 และตอนที่ 2 จะเป็นเรื่องหลังจากถูกจับกุมต้องกลายเป็นผู้ต้องหาโดยไม่ทันตั้งตัว และการต่อสู้ชั้นศาล ทั้งนี้ เพื่อเล่าประสบการณ์เป็นความรู้ สำหรับคนที่มีคดีความ เพราะส่วนตัวไม่คิดว่าจะต้องมาพบกับเรื่องแบบนี้ หากหนังสือถูกเผยแพร่จะเป็นประโยชน์ต่อสังคมให้ได้ศึกษา
ส่วนด้านนางรัตนาพร สุภาทิพย์ หรือเจ๊บ้าบิ่น พักผ่อนอยู่ที่บ้านพักในชุมชนเตาปูน เขตเทศบาลเมืองกาญจนบุรี หลังจากเพิ่งขายสลากฯ งวดวันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา และติดตามการแถลงข่าวของสำนักงานอัยการสูงสุด เจ๊บ้าบิ่นเผยว่า หลังจากฟังคำ แถลงของอัยการ รู้สึกพอใจที่อัยการให้โอนสำนวนไปยัง ป.ป.ช. เพราะมองว่าหลักฐานที่จะเอาผิดตนอาจยังไม่เพียงพอ ยืนยันว่าไม่ได้สนับสนุนให้เจ้าหน้าที่บิดเบือนสำนวน แต่ยอมรับว่าสำนวนที่เห็นล่าสุดไม่ตรงกับที่ให้ปากคำบางส่วนแต่ไม่โทษใคร เพราะตอนแรกตนอาจอ่านทบทวนไม่ละเอียด ยืนยันว่าไม่มีเจตนาให้บิดเบือนหรือทำให้สำนวนกลมกลืน
ผู้สื่อข่าวสังเกตเห็นว่า เจ๊บ้าบิ่นใส่สร้อยเหมือนกับครูปรีชาเป็นสร้อยคอสีดำมีวัตถุมงคลจาก จ.เลย รูปทรงกลมด้านหน้าเป็นรูปพระสงฆ์รูปหนึ่ง ด้านหลังเป็นพระบรมฉายาลักษณ์ รัชกาลที่ 5 เจ๊บ้าบิ่นบอกว่าถือเป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ได้มาจากผู้ทรงศีลป้องกันคุณไสย เพราะตั้งแต่มีคดีความไม่รู้ว่าใครคิดไม่ดีกับตนบ้าง
...