“การแต่งตั้งรอง ผบ.ตร.จนถึง ผบก. 183 ตำแหน่ง ทั้งที่ได้รับตำแหน่งสูงขึ้น และหมุนเวียนเป็นไปตามที่ ผบ.ตร.เสนอ ส่วนการแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิ จะให้มีผลการแต่งตั้งก่อน เนื่องจากเป็นกลุ่มที่เกษียณ สำหรับ ผบช.ในภาคต่างๆ เป็นตำแหน่งสำคัญ เป็นบุคคลที่ ผบ.ตร.ต้องใช้งานได้ ทำงานได้ ในส่วนของตนเองและนายกรัฐมนตรี ไม่มีการวางตัวบุคคลใดๆทั้งสิ้น ไม่เข้าไปยุ่ง มอบให้ ผบ.ตร.เป็นผู้ทำบัญชีร่วมกับรอง ผบ.ตร.” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และประธาน ก.ตร. ผู้ที่มีอำนาจสูงสุดในการอนุมัติ “โผนายพล” ย้ำหนักแน่นให้อำนาจเด็ดขาด พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จัดวางคนที่ไว้วางใจในตำแหน่ง ผบช.หลัก มาเป็นมือไม้ช่วยงาน ผบ.ตร.และสนองนโยบายของรัฐบาล

ถือเป็นครั้งแรกประวัติศาสตร์นับตั้งแต่การก่อตั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่รัฐบาลโดย พล.อ. ประวิตร ประธาน ก.ตร. นัดประชุมพิจารณาแต่งตั้งโยกย้าย “โผนายพล” เสร็จสิ้น เป็นไปตามกรอบเวลาที่กฎ ก.ตร.กำหนดภายในวันที่ 31 สิงหาคม ส่งผลทำให้ตำรวจที่ได้รับการเลื่อนตำแหน่งมีขวัญกำลังใจ

ส่วนคนที่ผิดหวังได้หันหน้าเข้ามาทำงาน “เลิกวิ่งเต้นโยกย้าย” กลับมาทำหน้าที่ให้เกิดประโยชน์กับพี่น้องประชาชน เพื่อมีโอกาสได้รับการพิจารณาอีกรอบ

จากเดิมเลื่อนประชุมจากวันที่ 24 สิงหาคม เป็นวันที่ 30 ส.ค. ก่อนมีข่าวขยับไปอีกเป็นวันที่ 31 สิงหาคม ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักของตำรวจที่มีชื่ออยู่ในข่ายได้รับการแต่งตั้งว่า เหตุที่ “โผนายพล” ไม่ลงตัว ต้องเลื่อนออกมา ทั้งที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. จัดทำบัญชีผู้ที่เหมาะสมเสนอชื่อนัดประชุม ก.ตร. วันที่ 24 สิงหาคม เพราะถูก “เสธ.ทหาร” คนสนิท “บิ๊ก คสช.” ที่วงในตำรวจนักวิ่งเต้นรู้ว่าเป็นมือจัดโผตำรวจทุกระดับ เจรจา กดดันให้ ผบ.ตร.เปลี่ยนแปลงชื่อเด็กในสายลงในตำแหน่งสำคัญทั้งในระดับ ผบช.และ ผบก.

...

อ้างคำสั่ง “บิ๊ก คสช.” ให้เลื่อนการประชุม ก.ตร.ออกไปก่อน บอกว่า มีนโยบายยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิที่เป็นนโยบายของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้เป็นขวัญกำลังใจตำรวจที่ครบวาระเกษียณประจำปี 2560 ให้ติดยศนายพลก่อนเกษียณ

ซึ่งผ่านการประชุม ก.ตร.แล้ว อ้างเหตุมีคนนำชื่อนายตำรวจที่ไม่ได้เกษียณเลื่อนตำแหน่งสูงขึ้น และโยกขยับลงในตำแหน่งที่สำคัญ ช่วงชิงความได้เปรียบอาวุโสคนอื่น ทั้งที่อีกไม่กี่วันมีคำสั่งแต่งตั้ง “โผนายพล” ซึ่งไม่เป็นไปตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี และมีบางตำแหน่งที่มีปัญหาในคดีเรื่องเก่า

แต่ ผบ.ตร. หารือ พล.ต.อ.ประวิตร ยืนยันนัดประชุมวันที่ 30 สิงหาคม ให้เป็นไปตามกฎ ก.ตร. เพื่อไม่ให้ตำรวจเสียขวัญกำลังใจมากไปกว่านี้ เพราะ ยิ่งเลื่อนยิ่งมีปัญหา สุดท้ายกลายเป็นปัญหาใหญ่ “คลื่นใต้น้ำ” ตามมา

เป็นความชัดเจนของ พล.อ.ประวิตร และ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ที่ไม่ยอมให้ “คนนอก” เข้ามาใช้อำนาจแทรกแซงบัญชีโยกย้ายข้าราชการตำรวจ ที่ต้องเป็นเรื่องของตำรวจตามนโยบายนายกรัฐมนตรีไม่ยุ่งเกี่ยวคำสั่งโยกย้ายตำรวจ แต่มี “เสธ.ทหาร” คนใกล้ชิดเข้ามาจุ้นจ้าน ผบ.ตร.ในการจัดโผตำรวจ ทั้งที่ไม่มีความเข้าใจงานตำรวจ สุดท้ายเป็นปัญหายุ่งเหยิงตามมาอีก

ส่วนรายชื่อที่คลอดมาเป็น “โผนายพล” มีทั้งเด็กเส้นคนดี มีผลงาน และนักวิ่งเต้นรอบจัดที่เข้าหาผู้ใหญ่ เป็นเรื่องปกติการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจ เป็น “วังวน” มาทุกยุคสมัยการเมือง ไม่เว้นรัฐบาลทหาร คสช.

...

รอง ผบ.ตร.ที่ว่าง 2 ตำแหน่ง ขยับ ที่ปรึกษา (สบ 10) เทียบเท่า รอง ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุวีระ ทรงเมตตา นรต.รุ่น 37 และ พล.ต.อ.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ นรต.รุ่น 32 ที่รับผิดชอบงานค้ามนุษย์ มาเป็น รอง ผบ.ตร. ระดับ ผู้ช่วย ผบ.ตร.ว่าง 3 ตำแหน่ง ขยับ พล.ต.ท.วิสนุ ปราสาททองโอสถ ผบช.สกพ.อาวุโส ลำดับที่ 1 พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผบช.สตม. นรต.รุ่น 37 ที่มีส่วนพัฒนาระบบงาน สตม. พล.ต.ท.ชนสิษฏ์ วัฒนวรางกูร ผบช.ภ.3 สามี นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา

...

ระดับ ผบช. เก้าอี้หลัก “น.1” พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. วางตัว พล.ต.ท.ชาญเทพ เสสะเวช ผบช.ภ.1 นรต.รุ่น 35 เพื่อนสนิทที่ล็อกไว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ปาดหน้า พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ส. นรต.รุ่น 36 นักสืบสวนลูกหม้อนครบาล ที่นายกรัฐมนตรีไว้วางใจต้องหลบมาเป็น ผบช.ภ.1 พล.ต.ท.จิตติ รอดบางยาง ผบช.ภ.2 นรต.รุ่น 35 สายตรง พล.อ.ประยุทธ์อยู่ที่เดิม พล.ต.ท.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบช.สทส. นรต.รุ่น 38 สาย ผบ.ตร.โยกมาเป็น ผบช.ภ.3 พล.ต.ต.สุรชัย ควรเดชะคุปต์ รอง ผบช.น. นรต.รุ่น 36 ร่วมรุ่น ผบ.ตร.เป็น ผบช.ภ.4 ส่วน พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ.5 นรต.รุ่น 35 และ พล.ต.ท.ทวิชชาติ พละศักดิ์ ผบช.ภ.6 นรต.รุ่น 34 เส้นปึ๊กอยู่ที่เดิม พล.ต.ท.กิตติพงศ์ เงามุข ผบช.สพฐ.ตร. นรต.รุ่น 36 โยกมา ผบช.ภ.7

พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช.งป. นรต.รุ่น 35 โยกเป็น ผบช.ภ.8 พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ศชต. นรต.รุ่น 36 มือสืบสวนคดีสำคัญ อดีต ผบช.ศชต.ที่ ผบ.ตร. คิดโยกมาเป็น ผบช.ภ.9 คุมเหตุความรุนแรง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้

...

อยู่ที่เดิม เพราะโครงสร้างใหม่ บช.ทท.รอประกาศในราชกิจจานุเบกษา พล.ต.ท.สาคร ทองมุณี ผบช.ภ.9 อยู่ที่เดิม พล.ต.ท.สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผบช.ภ.7 นรต.36 เพื่อนร่วมรุ่นเข้าขา ผบ.ตร. เป็น ผบช.สตม. พล.ต.ต.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบช.ส. ลูกหม้อสันติบาล นรต.รุ่น 40 สายตรงนายกรัฐมนตรี ขึ้น ผบช.ส. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. นรต.รุ่น 34 โชว์งานปราบปรามยาเสพติด เป็นงานเด่นรัฐบาล อยู่ที่เดิม

บช.น. มีการขยับ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบก.สปพ. นรต.รุ่น 47 นายพลหนุ่มที่มีผลงานต่อเนื่องทั้งจับกุมค้าอาวุธปืน-ยาเสพติดออนไลน์ และทำงานด้านความมั่นคงให้รัฐบาล คสช. ขยับขึ้นเป็น รอง ผบช.น. พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร ผบก.รน. นรต.รุ่น 42 เป็น รอง ผบช.น. พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.รน. นรต.รุ่น 40 สายตรง พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รมว.พม. ที่ถูกดึงตัวมาแก้ปัญหาจราจรเมืองหลวง ขยับเป็น รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบก.น.2 นรต.รุ่น 41 สาย พล.อ.ประวิตร นั่งเก้าอี้ใหญ่ ผบก.สปพ.

ด้าน บช.ก. สายตรง พล.ต.ท.ฐิติราช หนองหารพิทักษ์ ผบช.ก.ขยับครบ พล.ต.ต.ประเสริฐ พัฒนาดี ผบก.ปคบ. นรต.รุ่น 36 พล.ต.ต.สมชาย เกาสำราญ ผบก.ทล. พล.ต.ต.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบก.ป. นรต. รุ่น 37 เป็น รอง ผบช.ก. พล.ต.ต.ศุภเศรษฐ์ โชคชัย ผบก.ปอท. นรต.รุ่น 40 ขยับ เป็น ผบก.ปคบ. พ.ต.อ.ไมตรี ฉิมเฉิด รอง ผบก.ภ.จ.ปัตตานี นรต.รุ่น 37 เพื่อนร่วมรุ่น พล.ต.ต.สุทิน นั่งเก้าอี้ใหญ่ ผบก.ป. พ.ต.อ.ชัช สุกแก้วณรงค์ รอง ผบก.ทล. นรต.รุ่น 42 ลูกหม้อทางหลวง เป็น ผบก.ทล. พ.ต.อ.ปัญญา ปิ่นสุข รอง ผบก.ปคม. นรต. รุ่น 40 เป็น ผบก.ปทส. พ.ต.อ.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา รอง ผบก.ปคม. นรต.รุ่น 40 เป็น ผบก.ปอท. พ.ต.อ.ธนพล ศรีโสภา รอง ผบก.รน. นรต. รุ่น 44 สายแข็งอีกสายเป็น ผบก.รน.คุมน้ำมันเถื่อน

ส่วน บช.ปส. พล.ต.ท.สมหมาย กองวิสัยสุข ผบช.ปส. สนับสนุน พล.ต.ต.ทนัย อภิชาตเสนีย์ ผบก.สกัดกั้นยาเสพติด บช.ปส. ที่มีผลงานจับกุมยาเสพติดรายใหญ่ภาคเหนือ เป็น รอง ผบช.ปส.

เป็นรายชื่อนายพลหลักที่ ผบ.ตร.จัดทำรายชื่อเสนอ ผ่าน ก.ตร. ที่มี พล.อ.ประวิตรนั่งเป็นประธาน ก.ตร. เตรียมรับงานในตำแหน่งใหม่วันที่ 1 ตุลาคม ตำแหน่ง ผบช.หลัก เป็น นรต.รุ่น 36 ร่วมรุ่น พล.ต.อ.จักรทิพย์ ที่วางตัวกันลงมาลงในตำแหน่งสำคัญเต็มทุกพื้นที่ แต่ละคนมีชื่อชั้น ประสบการณ์ด้านนักสืบมือปราบ

มาสานต่อนโยบายหลักของรัฐบาล คสช.

ทีมข่าวอาชญากรรม