“ปลูกสับปะรด มี 3 ปัญหาหลัก ไถเตรียมดินเสร็จแล้วนำหน่อลงปลูก ต้องอาศัยน้ำฝนช่วยเลี้ยง เมื่อฝนไม่ตกสับปะรดตายหรือไม่เจริญเติบโต แต่หากได้น้ำมาก เกิดปัญหาวัชพืชในแปลงโตไวต้องใช้สารเคมีกำจัด และปัญหาผลสับปะรดถูกแสงแดดเผาไหม้เสียหายไม่สวยงาม ทั้ง 3 ปัญหานี้ กรมส่งเสริมการเกษตรทดลองแก้ไขแล้ว ด้วยการปลูกสับปะรดแนวใหม่” ดร.สมสวย ปัญญาสิทธิ์ ผอ.สำนักส่งเสริมและพัฒนาการเกษตรที่ 6 เชียงใหม่ เผยถึงวิธีการปลูกสับปะรดแนวใหม่ เกิดขึ้นที่ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร (ศพก.) อ.เมือง จ.ลำปาง...ด้วยวิธีการง่ายๆหลังจากเตรียมดินจะใช้พลาสติกหนา 70 ไมครอน สีดำ กว้าง 1.80 ม. คลุมแปลง แล้วใช้ดินกลบขอบแปลงข้างละ 10 ซม. ก่อนที่จะเจาะบนพลาสติกให้เป็นรู มีขนาดเท่ากับหน่อสับปะรด ด้วยเครื่องมือเจาะดินที่ดัดแปลงขึ้นมาเอง พร้อมวางระบบน้ำหยดในหลุมที่เจาะ ระยะห่างทั้งระหว่างต้น ระหว่างแถว 40×40 ซม. ทางเดินระหว่างร่องจะปูด้วยแผ่นไวนิล หรือป้ายโฆษณาที่เลิกใช้แล้ว นำหน่อที่เตรียมไว้ลงปลูกในหลุมภายใต้พลาสติกสีดำ แล้วให้น้ำด้วยระบบหยด หากฝนตกไม่จำเป็น ส่วนปุ๋ยจะใช้ปุ๋ยนมสดผสมผลไม้หมัก“ปรากฏว่าวัชพืชไม่ขึ้นในแปลง จะมีขึ้นบ้างบริเวณโคนต้น แต่ก็ไม่มากนัก สามารถถอนด้วยมือได้ง่ายๆ และเมื่อสับปะรดเริ่มแก่ อายุประมาณ 8 เดือน ให้สังเกตที่ตาผลสับปะรดจะกว้างและแบน รวมถึงขนาดของลำต้นที่มีขนาดใหญ่ ให้ห่อผลด้วยการใช้แผ่นพลาสติกเหลือใช้จากป้ายโฆษณา นำมาตัดเป็นแผ่นสี่เหลี่ยมขนาดเล็กเจาะรูตรงกลาง นำไปสวมบนจุกของผลสับปะรด เพื่อป้องกันไม่ให้แสงแดดส่องถึงผล จะทำให้ผลดีสีสวยงาม วิธีการนี้ทำได้เร็วกว่าการนำใบของต้นมาห่อ และยังใช้ได้หลายครั้ง” ดร.สมสวยบอกว่า ด้วยวิธีการเพียงแค่นี้ เมื่อถึงระยะเก็บเกี่ยวจะได้ผลสับปะรดขนาด 0.8–1 กก. สามารถจำหน่ายได้ในราคาผลละ 25 บาท จากเดิมที่เคยขายได้เพียงแค่ กก.ละ 5–8 บาทเท่านั้นเพราะปลูกด้วยวิธีใหม่ ผลสับปะรด สีสวย โรคแมลงไม่รบกวน เมื่อทดลองชิม มีรสชาติหอมหวาน ไม่กัดลิ้น ต่างจากการปลูกแบบเดิม...เกษตรกรสนใจชมแปลงปลูกสับปะรดแนวใหม่ สามารถติดต่อได้ที่ 08-4772-9190.ไชยรัตน์ ส้มฉุน