อีกหนึ่งสถานที่ที่ควรหาโอกาสไปเยือนอย่างยิ่ง เมื่อไปนอนค้างรีสอร์ตแถวๆเขาใหญ่ ก็คือ “เขื่อนลำตะคอง” หนึ่งในเขื่อนดังที่เป็นตำนานทั้งของจังหวัดนครราชสีมา และของประตูสู่อีสานนั่นเอง

แม้จะมีเส้นทางรถไฟเชื่อมโคราช หรือนครราชสีมา ประตูสู่ภาคอีสาน มาตั้งแต่สมัย ร.5 และคนไทยในอดีตก็รู้จักกับถนนสาย สระบุรี–ปากช่อง เข้าสู่จังหวัดนครราชสีมา มายาวนาน ในนามของถนน สุดบรรทัด

แต่สำหรับคนรุ่นหัวหน้าทีมซอกแซกมาเริ่มรู้จักและได้ยินชื่อถนนสายนี้เป็นครั้งแรก เมื่อหนังสือพิมพ์ประมาณ พ.ศ.2500 รายงานว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ซึ่งเป็นมิตรที่ดีของรัฐบาลไทยมาตลอดจะมาปรับปรุงก่อสร้างถนนสายนี้ให้ใหม่ และจะใช้ชื่อใหม่ว่า ถนนมิตรภาพ หรือ Friend ship Highway เริ่มจากสระบุรีถึง อ.เมืองนครราชสีมา มีความยาว 148 กิโลเมตร

ยุคนั้นเป็นยุคของนายกรัฐมนตรีชื่อ จอมพล ป. พิบูลสงคราม เริ่มลงมือก่อสร้างตั้งแต่ พ.ศ.2498 เป็นต้นมาจนแล้วเสร็จ และ มีพิธีมอบถนนมิตรภาพให้แก่ประเทศไทยเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม พ.ศ.2501 ซึ่งเป็นห้วงเวลาที่จอมพล ป. พิบูลสงคราม มิได้อยู่ประเทศไทยเสียแล้ว เนื่องจากถูกจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ ปฏิวัติยึดอำนาจไปตั้งแต่ 21 กันยายน พ.ศ.2500 

ในความทรงจำของพวกเราที่ยังเป็นเด็กวัยรุ่นใน พ.ศ.นั้นก็คือ ถนนมิตรภาพ เป็นถนนที่ดีที่สุด ทันสมัยที่สุดของประเทศไทย รํ่าลือไปจนถึงจังหวัดนครสวรรค์ บ้านหัวหน้าทีมซอกแซก ว่า...“เป็นถนนที่รถวิ่งได้เรียบมาก แม้นํ้าในแก้วที่รินไว้ปริ่มก็ไม่กระฉอกเลย”

หัวหน้าทีมซอกแซกมีโอกาสใช้ ถนนมิตรภาพ ครั้งแรกเมื่อประมาณ พ.ศ.2503-2504 หลังจากเข้ามาเรียนหนังสือใน กทม. และวันหนึ่งมีพรรคพวกจัดไปทัศนาจรไปค้างคืนจังหวัดนครราชสีมา ทำให้รู้จักถนนมิตรภาพเป็นครั้งแรกของชีวิต

...

แม้ช่วงนั้นจะเริ่มโทรมไปบ้างแล้วแต่ก็ยังมีเค้าโครงแห่งความยิ่งใหญ่และเป็นถนนที่ดีที่สุดของประเทศไทยให้เห็นอยู่หลายส่วนทีเดียว

ต่อมาความเจริญก็เริ่มแผ่ขยายไปตามถนนมิตรภาพ เริ่มจากมีการทำฟาร์มทันสมัย มีการเลี้ยงโคนม โคเนื้อ มีการปลูกผลไม้มากมายหลายอย่าง รวมทั้งมีการตัดถนน ธนะรัชต์ ขึ้นสู่เขาใหญ่ มีสนามกอล์ฟมีที่พักบนเขาใหญ่ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย

และแล้วในปี 2512 ก็มีการประกาศว่าจะสร้าง “เขื่อนลำตะคอง” ขึ้น ในบริเวณลำนํ้าที่เรียกว่า ลำตะคอง  ซึ่งไหลคู่ขนานไป กับถนนมิตรภาพนั่นเอง

พื้นที่ในส่วนที่จะเป็นสถานที่ก่อสร้างเขื่อนลำตะคองที่ว่านี้จะอยู่ที่ ตำบลคลองไผ่ อำเภอสีคิ้ว จังหวัดนครราชสีมา

จะเป็นเขื่อนดินสูง 40 เมตรเศษ สันเขื่อนยาว 520 เมตรเศษ กว้าง 10 เมตร โดยจะมีพื้นที่เป็นอ่างเก็บนํ้ายาวตลอดลำนํ้า 19 กิโลเมตร สามารถเก็บกักนํ้าได้เต็มที่ 310 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะใช้เป็นเขื่อนชลประทานและเขื่อนผลิตไฟฟ้า

ใช้เวลาสร้าง 5 ปี แล้วเสร็จเมื่อ 2517 และมีการเสนอให้ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าชนิดสูบกลับเมื่อ พ.ศ.2518 และต้องใช้เวลาในการศึกษาและหาทุนรอนในการก่อสร้างอยู่หลายปี จนในที่สุดก็ได้ทุนจากรัฐบาลญี่ปุ่น ที่เรียกว่า JICA ลงมือก่อสร้างอย่างจริงจัง จนก่อกำเนิดเป็นโรงไฟฟ้า ลำตะคองชลภาวัฒนา โรงไฟฟ้าพลังนํ้าแบบสูบกลับอยู่ลึกลงไปใต้ดินกว่า 350 เมตร เป็นแหล่งผลิตไฟฟ้าที่สำคัญหล่อเลี้ยงจังหวัดนครราชสีมาในปัจจุบันนี้

ทีมงานซอกแซกขอเล่าประวัติศาสตร์ยาวๆย้อนหลังก็เพื่อให้ทราบถึงความเป็นมาและเป็นไปของ “เขื่อนลำตะคอง” ซึ่งนับแต่ก่อสร้างมามักจะมีปัญหาในเรื่องนํ้าไม่พอ, ขาดแคลนนํ้าใช้หน้าแล้ง ฯลฯ อยู่เสมอๆ 

แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องประวัติศาสตร์เรื่องหนึ่งเคียงข้างประตูสู่อีสานหรือถนนมิตรภาพสายแรก...ซึ่งเป็นการเปิดประตูสู่อีสานอย่างแท้จริง

ข้อแนะนำข้อแรกของทีมงานซอกแซกก็คือ เมื่อมีโอกาสไปนอนค้างที่เชิงเขาใหญ่แล้วไซร้...อยากให้ปลีกเวลาไปเที่ยวเขื่อนลำตะคอง ด้วย ใช้เวลาไปกลับอย่างมากก็ครึ่งวันหรือจริงๆแล้วจะอยู่ทั้งวันก็ยังได้เลย

สำหรับผู้ที่ชอบรำลึกความหลังก็อาจแวะที่บริเวณริมเขื่อนที่เรียกกันว่า “สวนน้าชาติ” อันเป็นสวนที่จัดไว้สำหรับเป็นจุดพักรถชมทิวทัศน์ ชมสวนหย่อม เข้าห้องน้ำ หรือเพื่อพักผ่อนอิริยาบถระหว่างเดินทาง

ที่สำคัญ สำหรับผู้ที่คิดถึง “น้าชาติ” หรือ พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 17 ของประเทศไทย ซึ่งถือว่าเป็นเลือดเนื้อ เชื้อไขของชาวนครราชสีมา ชาวโคราชจึงสร้าง “รูปสลัก” ท่านกำลังยืนกอดอกพิงมอเตอร์ไซค์คันโปรดของท่าน ณ บริเวณกิโลเมตรที่ 193-194 ของเส้นทางมิตรภาพสายนี้ไว้ด้วย

ไปแวะถ่ายรูปเสียหน่อยก็ได้ครับ

จากนั้น ถ้ามีโอกาสก็แนะนำให้ไปเที่ยวต่อ โดยเฉพาะที่ศูนย์การเรียนรู้ “การไฟฟ้าฝ่ายผลิต” หรือบริเวณโรงไฟฟ้าพลังน้ำสูบกลับแห่งแรกของประเทศที่กล่าวถึงข้างต้น

ก่อนจะตบท้ายด้วยการไปนั่ง “จิบกาแฟ” ใน “คุก” หรือ “เรือนจำ” พิเศษที่สวยที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศไทย ที่ริมเขื่อนลำตะคองเช่นกัน เพื่อจิบกาแฟแก้วละ 30 กว่าบาท ดูวิวราคา “แสนล้านบาท” รอบๆ

ทีมงานซอกแซกไปมาแล้วครับแต่ด้วยเนื้อที่หมดซะก่อนคงต้องเชิญชวนให้ติดตามสัปดาห์หน้าต่อไป รับรองว่า “วิว” ราคาเกิน “แสนล้าน” จริงๆครับ! ที่เรือนจำพิเศษแห่งนี้.


"ซูม"

...

คลิกอ่านคอลัมน์ “ซูมซอกแซก” เพิ่มเติม