ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เว็บไซต์ www.transbordernews.in.th รายงาน...เหตุปะทะชายแดนลาว–ไทยยังคงคุกรุ่น นับจากกรณีที่กองกำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายได้บุกโจมตีฐานทหารลาว 4 แห่ง บริเวณชายแดนเมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว ตรงข้ามกับ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย

สถานการณ์ยังคงตึงเครียด...ยังคงมีเสียงปืนดังขึ้นจากฝั่งลาว ขณะทีมข่าวลงพื้นที่ดอยผาตั้ง อ.เวียงแก่น ซึ่งสามารถมองเห็นฐานทหารลาวที่ถูกโจมตีในระยะไกล ก็พบว่ายังคงมีทหารลาวจำนวนไม่น้อยอยู่ในจุดเตรียมพร้อมที่เรียกว่าบ้าน 3 หลัง ซึ่งอยู่ด้านล่างบริเวณตีนดอย

บริเวณดังกล่าวมีถนนลาดยางจากเมืองปากทาตัดขึ้นเลียบไหล่เขาขนานเส้นเขตแดนมายังยอดดอย และผ่านฐานทหารลาวที่ถูกโจมตี แต่ทางการลาวยังค่อนข้างระมัดระวังในการใช้ถนนเส้นนี้ลำเลียงกำลังเสริมขึ้นมาได้ เพราะหวั่นว่าจะถูกทหารกองกำลังไม่ทราบฝ่ายซุ่มโจมตี

มีรายงานแจ้งด้วยว่า ทางแขวงบ่อแก้วได้ออกหนังสือด่วนแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ให้จำกัดการเดินทางด้วยยานพาหนะทุกรายการที่เดินทางจากเมืองห้วยทรายไปยังเมืองปากทาให้วิ่งวันละ 1 รอบ...วิ่งได้ในช่วง 11.00-13.00 น. และรถจากปากทาที่จะไปเมืองผาอุดมและผาแดงให้หยุดการเดินทางสัญจร

...

หากฝ่าฝืนจะมีการตรวจยึดยานพาหนะโดยไม่มีเงื่อนไข นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มกองกำลังของเจ้าหน้าที่เข้าไปในพื้นที่ปะทะ บริเวณบ้านหาดสะจนถึงปากทา และห้ามรถทุกชนิดวิ่งอย่างเด็ดขาด

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ลาวยังได้จับกุมผู้ร่วมกลุ่มติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายรวมทั้งหมด 7 คน และได้นำขึ้นเครื่องส่งไปยังนครหลวงเวียงจันทน์ในทันที ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารลาวที่ติดอยู่ที่ฐานในช่วยปะทะได้นำลงมาและสับเปลี่ยนกำลังแล้วในตอนนี้

“ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าการปะทะครั้งนี้เป็นเรื่องการขัดแย้งผลประโยชน์ของขบวนการค้ายาเสพติดที่ต้องการตอบโต้ทหารลาว โดยทหารลาวบางคนที่เสียชีวิตถูกหมายหัวไว้แล้ว จึงหนีจากเมืองห้วยทรายมาหลบอยู่ในฐานทหารแห่งนี้ แต่แก๊งค้ายาเสพติดก็ตามมาสังหาร”

แหล่งข่าวด้านความมั่นคงย้ำว่า ประเด็นข้างต้นนี้เป็นเรื่องค่อนข้างซับซ้อนและเป็นปัญหาภายในของทางการลาว แถมยังเป็นเรื่องระหว่างทหารลาวฝ่ายเหนือกับทหารลาวฝ่ายใต้ด้วย

น่าสนใจว่า...ปัจจุบันการผลิตยาเสพติดของกลุ่มว้าได้จัดส่งจากชายแดนไทย-พม่า ผ่านสามเหลี่ยมทองคำโดยมีกลุ่ม “มาเฟียจีนเทา” ร่วมสนับสนุนการฟอกเงินและขนย้ายโดยใช้เส้นทางแม่น้ำโขง ซึ่งนอกจากเข้าสู่ประเทศไทยแล้ว ยังส่งออกขายทั่วโลก

ซึ่งกลุ่มทหารว้าได้สนับสนุนทั้งด้านเงินและอาวุธให้กลุ่มชาติพันธุ์บางกลุ่มในการขนย้ายยาเสพติด รวมทั้งมีการจ่ายเงินให้สินบนจำนวนมาก

สำหรับประเด็นในเรื่อง “ลาวฝ่ายขวา” นั้น ตัดประเด็นนี้ทิ้งไปได้เลย เพราะแม้พื้นที่บริเวณนี้จะเคยเป็นพื้นที่เคลื่อนไหวของกองกำลังม้งที่มี “นายพลวังเปา” เป็นผู้นำต่อต้านรัฐบาลลาว แต่อุดมการณ์เหล่านั้นแทบไม่เหลือแล้ว คนส่วนใหญ่ที่เคยเคลื่อนไหวต่างก็อายุมากและเสียชีวิตกันมาเกือบหมด

ดังนั้น...จึงเหลือเพียงความเคลื่อนไหวของ “ขบวนการค้ายาเสพติด”

ชาวบ้านบนดอยผาตั้งรายหนึ่งเล่าให้ฟังว่า ปัจจุบันพวกเราที่เคยเลี้ยงวัวอยู่ตามป่าสันเขาชายแดนไทยต้องต้อนวัวกลับมาเลี้ยงในหมู่บ้านเพราะหวั่นเกรงในความไม่ปลอดภัยภายหลังจากการสู้รบของทหารลาวกับกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ขณะที่แม่ค้าขายของบริเวณจุดชมวิวดอยผาตั้งเสริมว่าก่อนเกิดเหตุการณ์ปะทะกันในฝั่งลาว ยังพอมีนักท่องเที่ยวอยู่บ้าง แต่เมื่อภายหลังสถานการณ์แทบไม่มีนักท่องเที่ยวเลย

เพราะ...ต่างกลัวในความไม่ปลอดภัย ทำให้หลายร้านค้าเริ่มทยอยปิดตัว

หนังสือพิมพ์บ่อแก้วรายงานเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคมที่ผ่านมาว่า ได้มีการประชุมร่วมคณะกรรมการความร่วมมือชายแดนลาว-ไทย ณ เมืองห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว (10 พ.ค.68)

ทั้ง 2 ฝ่ายเห็นชอบให้คณะอนุกรรมการฯและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของทั้งสองฝ่ายดำเนินการตรวจพื้นที่ชายแดนร่วมกันอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง ในกรณีเมื่อมีปัญหาเกิดขึ้นทั้งสองฝ่ายจะพิจารณาร่วมกันในการเดินทางไปตรวจพื้นที่ดังกล่าวโดยเร่งด่วน ทั้งสองฝ่ายได้ตกลงร่วมกันในการตรวจพื้นที่ร่วม

...

นอกจากนี้ยังได้รับฟังการบรรยายสภาพพื้นที่ด่านปางมอม ด่านชายแดนลาว-ไทย และการรักษาความสงบเรียบร้อย ความมั่นคงของสองประเทศ พร้อมทั้งสนับสนุนให้มีการออกข่าวเกี่ยวข้องกับความเคลื่อนไหวของกลไกความร่วมมือรักษาความ สงบเรียบร้อยและการร่วมมือในการแก้ไขปัญหายาเสพติด

“การลงตรวจพื้นที่ชายแดนครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้งที่ผ่านมาเพราะเป็นการตรวจตราในสถานการณ์ที่กำลังตึงเครียด แต่ทั้งสองฝ่ายยืนยันปฏิบัติตามข้อ 5 ข้อ 6 มาตรา 4 ของข้อตกลงว่าด้วยการร่วมมือด้านความมั่นคงบริเวณชายแดนลาว-ไทยฉบับใหม่โดยไม่อนุญาตให้บุคคล...กลุ่มคนที่เป็นภัยต่อความมั่นคงลาว-ไทย มาใช้พื้นที่ภายใต้เขตอธิปไตยของตน หรือเคลื่อนไหวเพื่อโจมตีและทำลายอีกฝ่ายหนึ่ง

หากมีบุคคล...กลุ่มคนที่เป็นภัยต่อความมั่นคงลาว-ไทย มาเคลื่อนไหว หรือตั้งถิ่นฐานอยู่ในพื้นที่ของฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งต้องให้ฝ่ายนั้นแก้ไขโดยเร่งด่วน บนพื้นฐานตามหลักการภายใต้กรอบกฎหมายของแต่ละฝ่ายและกฎหมายระหว่างประเทศ”

ภาสกร จำลองราช ประสบการณ์ทำข่าวสืบสวนสอบสวนแนวชายแดนมาหลายสิบปี “สำนักข่าวชายขอบ” ฝากทิ้งท้ายว่า เหตุการณ์ที่กองกำลังไม่ทราบฝ่ายโจมตีทหารลาวที่ชายแดนฝั่งตรงข้าม อ.เวียงแก่น...ยังไม่จบ แถมสถานการณ์ค่อนข้างซับซ้อน กรณีนี้ก็มี “กองกำลังว้า” เป็นตัวการอีกเช่นกัน

...

ปุจฉาสำคัญมีว่า... “ฝ่ายความมั่นคง” บ้านเราจะมีท่าทีอย่างไร?

คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม