วิศวกรวัย 85 ออกแบบตึก สตง. ดีเอสไอ จ่อเรียกตัวสอบ พบร่าง 44 ศพ สูญหายอีก 50

กทม.ประสานสถานทูตเมียนมา เร่งตามญาติมาตรวจดีเอ็นเอเพื่อพิสูจน์อัตลักษณ์แรงงานเหยื่อตึก สตง.ถล่ม หลังเพิ่งยืนยันบุคคลได้ 91 ราย จากทั้งหมด 103 ราย ขณะที่การค้นหายังพบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 3 ร่าง รวมเป็น 44 ศพ ยังมีผู้สูญหายอีก 50 ราย และชิ้นส่วนผู้เสียชีวิตอีก 127 รายการ ส่งพิสูจน์หมดแล้ว มท.เพิ่มค่าทำศพเป็นร่างละ 1 แสน ประเดิมจ่ายลอตแรก 18 เม.ย.นี้ 2 แรงงานเมียนมาที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุตึกถล่ม ถูกแผ่นปูนทับร่างเพิ่งออกจาก รพ. เข้าพบตำรวจแจ้งเอกสารหายและขอรับเงินเยียวยา ด้านดีเอสไอเรียกวิศวกรที่ถูกปลอมลายมือชื่อเข้าให้ปากคำ พร้อมให้เซ็นลายมือชื่อเปรียบเทียบกับลายเซ็นปลอม ส่งสถาบันนิติวิทยา ศาสตร์ตรวจพิสูจน์ เผยถ้าแก้แบบตามมาตรฐาน มีวิศวกรดูแล ทุกอย่างแก้ไขได้ไม่เกิดปัญหา พบชื่อวิศวกรวัย 85 ปี เป็นคนออกแบบอาคาร สตง.แห่งใหม่ รอเรียกตัวมาสอบปากคำ เหลือข้อมูลทางการเงินบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ ตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทจากธนาคาร ถ้าได้มาจะคลี่คลายคดีนอมินีได้อย่างชัดเจน

กรณีเกิดแผ่นดินไหวใกล้เมืองมัณฑะเลย์ ประเทศเมียนมา ลึกลงไปประมาณ 10 กม. นอกจากสร้างความเสียหายอย่างหนักให้ตึกรามบ้านช่องและสาธารณูปโภคในประเทศเมียนมาแล้ว แรงสั่นสะเทือนยังแผ่ลงมาถึงพื้นที่ภาคเหนือของประเทศไทยลงมาถึงกรุงเทพมหานคร สร้างความแตกตื่นให้ผู้ที่อยู่บนอาคารสูง พากันหนีออกมาบนพื้นราบ เนื่องจากไม่เคยประสบภัยแผ่นดินไหวรุนแรงขนาดนี้มาก่อน นอกจากนี้ แรงสั่นสะเทือนยังทำให้อาคารกำลังก่อสร้างสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแห่งใหม่ถล่มลงมามีผู้ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังนับร้อยคน

วันที่ 19 พบร่างเพิ่ม 3 ศพ

ความคืบหน้าการรื้อซากตึก สตง.สู่วันที่ 19 เมื่อวันที่ 15 เม.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานการทำงานของเจ้าหน้าที่กู้ภัย USAR จากหลายหน่วยงาน ยังคงสนธิกำลังทำลายสิ่งกีดขวางในซากตึกบริเวณโซนซี ด้วยเครื่องจักรกลหนัก สลับกับทีมค้นหาเดินเท้าปูพรมค้นหาตลอดทั้งคืนวันที่ 14 เม.ย.ต่อเนื่องเวลา 10.00 น. วันที่ 15 เม.ย. สามารถกู้ร่างผู้ประสบภัยที่เสียชีวิตติดใต้ซากตึกบริเวณโซนซีได้ทั้งหมด 3 ร่าง เริ่มจากเวลา 19.09 น. วันที่ 14 เม.ย. พบร่างผู้เสียชีวิตไม่ทราบเพศ 1 ร่าง เวลา 20.04 น. พบร่างผู้เสียชีวิตไม่ทราบเพศอีก 1 ร่าง และเวลา 20.22 น. พบร่างผู้เสียชีวิตไม่ทราบเพศอีก 1 ร่าง รวมเป็น 3 ร่าง

รวมผู้เสียชีวิตเป็น 44 ศพ

กระทั่งเข้าสู่ช่วงเช้าวันที่ 15 เม.ย. เจ้าหน้าที่พบชิ้นส่วนอวัยวะมนุษย์ อาทิ แขนข้างขวา ชิ้นส่วนกระดูก เส้นผม ชิ้นเนื้อ ชิ้นส่วนอวัยวะด้านซ้าย ฯลฯ กระจัดกระจายอยู่ในบริเวณโซนซีหลายชิ้นต่อเนื่อง แต่ยังไม่พบร่างผู้สูญหายเพิ่มเติม ต่อมาเจ้าหน้าที่นำร่างผู้เสียชีวิตและชิ้นส่วนอวัยวะทั้งหมดส่งสถาบันนิติเวชวิทยา รพ.ตำรวจ ตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยันบุคคลอย่างเป็นทางการอีกครั้ง นับตั้งแต่วันที่ 28 มี.ค.จนถึงวันที่ 14 เม.ย. เจ้าหน้าที่กู้ภัย USAR สามารถกู้ร่างผู้ประสบภัยและชิ้นส่วนอวัยวะที่ติดในซากตึก สตง.ถล่มได้ทั้งหมด 127 รายการ และสามารถยืนยันเป็นผู้เสียชีวิตแล้ว 44 ศพ

ทุ่มค้นหาสูญหายอีก 50 ราย

เวลา 10.00 น. ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์สำนักงานเขตจตุจักร สรุปยอดความคืบหน้าภารกิจกู้ภัยผู้สูญหายจากซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หลังใหม่พังถล่ม ณ เวลา 10.00 น. วันที่ 14 เม.ย.ว่า มีผู้ประสบเหตุทั้งหมด 103 ราย แยกเป็นผู้เสียชีวิต 44 ศพ ผู้บาดเจ็บ 9 ราย และยังมีผู้สูญหายอยู่ระหว่างค้นหาอีก 50 ราย ต่อมา น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังการประชุมสถานการณ์ประจำวันว่า มีการเคลียร์ความสูงของซากอาคารในทุกโซนทั้งเอ บี ซี และดี ส่วนใหญ่เป็นไปตามแผน แต่ปัญหาตอนนี้คือมีเส้นเหล็กบางจุดกีดขวาง ทำให้เจ้าหน้าที่ทีมกู้ภัยไม่สามารถลงไปสำรวจตามโพรงต่างๆ วันนี้จึงนำเครื่องจักรตัดเหล็กเพิ่ม 1 คัน เพื่อให้การค้นหาและรื้อถอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ตอนนี้เหลือยอดความสูงของซากอาคาร 19 เมตรแล้ว

พิสูจน์อัตลักษณ์ยืนยัน 1 ศพ

“เมื่อคืนเจ้าหน้าที่พบร่างผู้เสียชีวิต 2 รายบริเวณโซนซี รวมถึงชิ้นเนื้ออีก 24 ชิ้น นำร่างผู้เสียชีวิตและชิ้นเนื้อทั้งหมดส่งพิสูจน์อัตลักษณ์ที่สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และเช้าวันนี้ทาง พฐ.ยืนยันเพิ่มอีก 1 คน จากการตรวจอัตลักษณ์บุคคล ตอนนี้มีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 44 คน บาดเจ็บ 9 คน สูญหาย 50 คน เรื่องการพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิต จากรายชื่อแรงงานที่ทำงานในตึก สตง.ก่อน ตึกถล่ม ที่ได้จาก สตม.ทั้งหมด 103 ราย ขณะนี้พบแล้ว 91 ราย แต่ยังมีรายชื่อที่ยังตกหล่น กำลังประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานช่วยตรวจสอบให้ น่าจะสามารถติดตามได้ทั้งหมด รวมถึงจะให้สำนักงานต่างประเทศของ กทม. ประสานไปยังกระทรวงต่างประเทศด้วย เพื่อเก็บข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลเพิ่มจากสถานทูตเมียนมา” รองผู้ว่าฯ กทม.กล่าว

มท.เพิ่มเงินจัดงานศพเป็น 1 แสน

น.ส.ทวิดากล่าวอีกว่า นอกจากนี้ กระทรวงมหาดไทยเพิ่มวงเงินจัดการศพเป็นศพละ 100,000 บาท โดยไม่ต้องดูรายละเอียดว่า เป็นหัวหน้าครอบครัว หรือเป็นผู้หารายได้หลักของครอบครัวหรือไม่ กำหนด จะจ่ายลอตแรกที่ได้รับการรับรองแล้วในวันที่ 18 เม.ย.ที่กระทรวงมหาดไทย ขณะนี้ขอเวลาให้ กทม.เร่งนำ ร่างไปพิสูจน์อัตลักษณ์ก่อน

หมายเรียกกิจการร่วมค้าแล้ว

ส่วนความคืบหน้าด้านคดีอาคาร สตง.แห่งใหม่ ถล่ม พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ เผยว่า ทางการสืบสวนตำรวจ สน.บางซื่อ และกองบังคับการตำรวจนครบาล 2 ร่วมกันทำงาน แบ่งคณะทำงานกัน ตามแต่ละประเด็น ส่วนประเด็นที่ออกหมายเรียกนายปฏิวัติ ศิริไทย กรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันกับ กิจการร่วมค้า PKW ที่ลงนามในสัญญาจ้างควบคุมงาน ก่อสร้างอาคาร สตง.แห่งใหม่ กับสำนักงานการตรวจเงิน แผ่นดิน เมื่อวันที่ 14 ม.ค.2564 ตำรวจนำหมายไปติดที่บ้านย่าน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ที่ตั้งบริษัทพี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด เมื่อวันที่ 7 เม.ย. เพื่อให้ เข้ามาให้ข้อมูลฐานะพยานจากเหตุตึกถล่ม

สอบในฐานะพยานก่อน

“นายปฏิวัติประสานมาทางพนักงานสอบสวนขอเลื่อนไปในวันที่ 30 เม.ย. แต่จะให้พนักงานสอบสวน ประสานให้มาพบเร็วขึ้นก่อนวันที่ 30 เม.ย. แต่ยัง ไม่ได้ข้อสรุปว่าจะมาวันใด ส่วนนายปฏิวัติจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการปลอมลายเซ็นนายสมเกียรติ ชูแสงสุข หรือไม่ ต้องรอสอบปากคำก่อน ตอนนี้ตำรวจยังไม่ได้ ออกหมายจับใคร แต่ออกหมายเรียกเท่านั้น วันที่ 17 เม.ย. พล.ต.ต.สมควร พึ่งทรัพย์ รอง ผบช.น. ฐานะ หัวหน้าชุดสืบสวนสอบสวนเหตุอาคาร สตง.แห่งใหม่ ถล่ม เรียกคณะทำงานทั้งหมดประชุมที่ สน.บางซื่อ เวลา 10.00 น.” ผกก.สน.บางซื่อ กล่าว

ผู้บาดเจ็บตึกถล่มเข้าให้ปากคำ

เวลา 11.00 น. ที่กองอำนวยการร่วม (กอร.) สน.บางซื่อ อาคารเจเจมอลล์ มีคนงานชายชาวเมียนมา 2 คน ที่รอดชีวิตจากเหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม เมื่อวันที่ 28 มี.ค. แต่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกแผ่นปูนทับพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลพญาไท จนอาการดีขึ้นแล้ว โดยแรงงานชายชาวเมียนมาคนแรก มีอาการบาดเจ็บที่บริเวณขาด้านขวา ส่วนอีกรายบาดเจ็บที่ขาขวาเช่นกัน ใช้ผ้าพันแผลลักษณะคล้ายเฝือกอ่อน ต้องใช้ไม้เท้าช่วยพยุงตัว เดินทางมาแจ้งเจ้าหน้าที่ว่า เอกสารที่ติดตัวทุกอย่างหายหมดในวันเกิดเหตุ จึงมาติดต่อทำเรื่องขอเงินเยียวยาจากภาครัฐ รวมถึงมาให้ถ้อยคำ ในวันเกิดเหตุ ผ่านล่ามช่วยแปลภาษา โดยมี น.ส.ทวิดา กมลเวชช รองผู้ว่าฯ กทม. พร้อมด้วย พ.ต.อ.สนอง แสงมณี ผกก.สน.บางซื่อ และพนักงานสอบสวนร่วมฟัง คำให้การ เพื่อบันทึกถ้อยคำประกอบสำนวนคดี

มีเข้าฝันอยากกินหมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริเวณริมรั้วข้างซากอาคาร สตง.โซนดี ยังมีบรรดาญาติผู้สูญหายนำของมาเซ่นไหว้ เจ้าที่เจ้าทาง เพื่อให้เจ้าหน้าที่หาร่างญาติตัวเองพบ นางสมจิตร ขาวสะอาด อายุ 54 ปี พนักงานกวาดถนน สำนักงานเขตจตุจักร นำหมากพลู 3 ชุด พวงมาลัย 1 พวง มาเซ่นไหว้ เผยว่า ตนไม่ได้มีญาติ หรือคนรู้จัก ติดอยู่ด้านใน แต่มาทำหน้าที่จุดนี้ตั้งแต่วันเกิดเหตุ กระทั่งเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา ช่วงนอนหลับได้ยินเสียง แว่วๆเซ็งแซ่ว่า หิวหมาก อยากกินหมาก แว่วมาเป็น ระยะจนนอนไม่หลับ คืนแรกไม่ได้คิดอะไรเมื่อคืนวาน หูยังแว่วข้อความเดิม เริ่มเอะใจว่าไม่น่าใช่เรื่องธรรมดา กระทั่งเช้ามืดยังเกิดเหตุการณ์เดิม 3 วันติด วันนี้จึงซื้อ ชุดหมากพลูมาเซ่นไหว้ อธิษฐานให้คนที่ไปเข้าฝันได้รับรู้ว่าตนเอาชุดหมากพลูมาให้ตามข้อเรียกร้องแล้ว อย่ามาเข้าฝันตนอีกเลย อยากพักผ่อนเต็มที่บ้าง

อีกรายมาบอกว่าหิวน้ำ

ด้านนางสุภาพร บูชา อายุ 49 ปี พนักงานกวาดขยะสำนักงานเขตจตุจักรเช่นกัน แต่อยู่คนละผลัด พร้อมกับเพื่อนนำน้ำเปล่า 2 ขวด พร้อมจุดธูป บอกวิญญาณที่ติดอยู่ใต้ซากอาคาร สตง.ให้มากินน้ำ เผยว่า ตนฝันว่าเดินเอาขวดน้ำขึ้นไปให้ใครก็ไม่รู้ ดื่มบนยอดซากอาคาร ทางเดินขึ้นยากมาก ตื่นขึ้นมา ขาตนบวมทั้ง 2 ข้างเลย ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน วันนี้จึงเอาน้ำมาให้วิญญาณเหล่านั้นดื่มกิน และขอให้ ขาตนหายบวมด้วย

วิศวกรถูกปลอมลายเซ็นเข้าให้การ

ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เวลา 13.20 น. นายสมเกียรติ ชูแสงสุข ประธานคลินิกช่าง วิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ซึ่งถูกแอบอ้างชื่อและปลอมลายเซ็นเป็นผู้ควบคุมงานกิจการร่วมค้า PKW ประกอบด้วย บริษัท พี เอ็น ซิงค์โครไนซ์ จำกัด บริษัท ว.และสหายคอลซัลแตนตส์ จำกัด และบริษัทเคพี คอนชัลแทนส์ จำกัด คู่สัญญาผู้ควบคุมงานก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน เดินทางเข้าพบคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 คดีนอมินี บริษัทไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด โดยมี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีดีเอสไอ และ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค ร่วมสอบถามข้อมูล

รมว.ยุติธรรมร่วมสอบ

หลังสอบสวนนานกว่า 1 ชม. พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เผยว่า วันนี้มาพบพนักงานสอบสวน เนื่องจากตอนนี้ เป็นเวลา 18 วัน จำนวนผู้เสียชีวิต 44 รายแล้ว อีกทั้งยังค้นหาอีก 50 ราย คดีนี้คือความเศร้าโศกโศกนาฏกรรมมีคนเสียชีวิตจำนวนมาก ประเด็นสำคัญคือ นอกจากดีเอสไอจะดำเนินคดีตามความผิด พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว 2542 รับเป็น คดีพิเศษที่ 32/2568 แล้ว ในเรื่องการประมูลงาน หรือการฮั้วประมูลและการทุจริต เราต้องทำคู่ขนานและรวดเร็ว แต่ที่สำคัญคือเราต้องรู้ให้ได้ว่าเหตุใดตึกจึงถล่ม เป็นเรื่องที่ทุกคนคลางแคลงใจ ถ้ารัฐหรือดีเอสไอไม่คลี่คลายโดยเร็ว ประชาชนอาจขาดความเชื่อมั่น ทำให้ช่วงสงกรานต์พนักงานสอบสวนเร่งดำเนินการต่อเนื่อง

ให้เซ็นลายมือชื่อจริงส่งตรวจพิสูจน์

“กรณีกรรมาธิการฯพบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับ บริษัทควบคุมงาน มีชื่อวิศวกรที่ระบุว่า เป็นผู้ควบคุมงาน คือ นายสมเกียรติ ชูแสงสุข เอกสารดังกล่าวกรรมาธิการชุดนายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ ประธานคณะกรรมา ธิการติดตามงบประมาณฯ ได้รับจาก สตง.ไปชี้แจง เอกสารที่ระบุชื่อวิศวกรนายสมเกียรติ พอชื่อปรากฏพบว่า มีคนปลอมลายเซ็น ทำให้นายสมเกียรติมาให้การ ในฐานะพยาน แล้วจะเซ็นว่าลายเซ็นที่แท้จริงคืออะไร เราจะต้องเอาลายเซ็นเก่าไปตรวจพิสูจน์กับสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม หมายความว่า ถ้าลายเซ็นผู้คุมงานไม่ได้เป็นเช่นนั้น มันจะเป็นพิรุธ ส่วนหนึ่งว่า มีการควบคุมงานจริงหรือไม่ และเป็นการ ควบคุมงานโดยใคร เพราะในเมื่อวิศวกรผู้ควบคุมงาน ปฏิเสธว่าไม่ใช่ลายเซ็นของตน” พ.ต.อ.ทวี กล่าว

จ้างวิศวกรวัย 85 ปีออกแบบ

รมว.ยุติธรรม กล่าวต่อว่า ปกติเวลาราชการจะสร้างอะไร ราชการต้องเป็นผู้ออกแบบ ส่งไปที่กรมโยธาธิการและผังเมือง หรือกรมศิลปากรเป็นผู้ออกแบบ แต่กรณี สตง.ทั้ง 2 หน่วยราชการไม่ได้ เป็นผู้ออกแบบ แต่ไม่ได้เป็นเรื่องผิดปกติ เนื่องจากถามผู้ปฏิบัติงานของกรมโยธาฯแล้วแจ้งว่า ที่มาขอให้เร่งออกแบบภายใน 180 วัน แต่ทำไม่ทัน เป็นสิทธิ์ ที่หน่วยงานสามารถไปจ้างผู้ออกแบบ แต่ต้องเป็น วิศวกร ขณะนี้พบชื่อผู้ออกแบบที่เซ็นอายุ 85 ปี พนักงานสอบสวนต้องไปรวบรวมพยานหลักฐานโดยเร็ว ที่สำคัญเรื่องนี้คือเรื่องวิชาชีพในระบบราชการ เรามีสภาวิศวกรที่มีเงินงบประมาณอุดหนุน ขอให้พนักงานสอบสวนพึ่งผู้เชี่ยวชาญที่นี่ รวมถึงผู้เชี่ยวชาญของศาลด้วย อย่างน้อยแม้จะผิดกฎหมายอาญาหลายบท แต่ต้องมีคำตอบว่าเหตุใดตึกจึงถล่มทรุดลงมาทั้งหมด ข้อกล่าวหาที่นายสมเกียรติแจ้งดำเนินคดีคือ ข้อหาปลอมแปลงเอกสาร โดยมีการปลอมลายเซ็น

วิศวกรยืนยันไม่รู้จัก “ปฏิวัติ”

ด้านนายสมเกียรติ ชูแสงสุข กล่าวว่า ตนยังคง ยืนยันว่าไม่ได้เป็นผู้ควบคุมงานและตนถูกปลอมลายเซ็น ส่วนเรื่องอื่นไม่ขอพูดว่าใคร เป็นมาอย่างไร มายืนยันเพียงว่าตนถูกนำชื่อไปแอบอ้าง เพราะตอนนี้ ตกเป็นจำเลยสังคม บางเพจมาแซะตนด้วย อยากให้ เข้าใจว่าแท้จริงแล้วตนคือผู้เสียหาย ส่วนหลักฐานที่มอบให้ สน.วังทองหลาง ส่วนนี้จบแล้ว หลักฐานมีเพียงเท่านั้น เพราะเป็นการนั่งคุยกัน นอกจากนี้ สน.บางซื่อ สอบตนในฐานะพยาน และขอแก้ข่าวด้วยว่า ตนแจ้งความตั้งแต่วันแรกคือวันที่ 13 เม.ย. เพราะตำรวจ สน.วังทองหลาง ถูกผู้บังคับบัญชาต่อว่า ส่วนจะฟ้องแพ่งหรือไม่ ขอปรึกษากันก่อนว่าจะดำเนินยังไง ส่วนนายปฏิวัติยืนยันว่าไม่เคยรู้จัก

ไม่ยอมบอกว่าใครมาติดต่อเมื่อปี 63

นายสมเกียรติกล่าวต่อว่า กรณีเมื่อปี 2563 มีคนจากกิจการร่วมค้า PKW มาพูดคุย บุคคลดังกล่าวคือใคร ขอไม่ตอบ เพราะแค่ว่ารู้จักกันมานานแล้ว แต่ขอยืนยันว่าเอกสารที่ปรากฏเป็นของปลอม ตนไม่ได้ทำอาชีพคุมงานมากกว่า 20 ปีแล้ว ขอขอบคุณไปยังสภาวิศวกร เนื่องจากมีขั้นตอนการรับรอง ต้องขอใบรับรองการเป็นวิศวกร อีกทั้งที่สำคัญที่สุดคือ การเข้าไปที่สภาวิศวกรคุณจะเข้าไปทำหน้าที่อะไร เช่น เข้าไปออกแบบ คำนวณ ฯลฯ ในขั้นตอนของสภาวิศวกรจะระบุไว้อยู่แล้ว เอกสารนี้ยังมีเรื่องของใบประกอบวิชาชีพที่ใครก็ไม่สามารถนำไปสำเนาคัดถ่ายไปใช้ในโครงการอื่นได้ เพราะมันจะต้องมีใบรับรองของสภาวิศวกรปรากฏอยู่ด้วย

เชื่อตึกไม่ถล่มถ้าให้วิศวกรคำนวณ

ถามว่าปกติแล้วเอกสารการลงนามรับรองที่ถูกแอบอ้าง ต้องเซ็นต่อหน้าหรือเซ็นทางอิเล็ก ทรอนิกส์ได้ นายสมเกียรติกล่าวว่า เรื่องนี้ตนไม่ทราบ แต่ถามว่าช่วงสถานการณ์โควิด-19 มันมีความเป็นไปได้ที่ระเบียบจะยืดหยุ่น สามารถสอบถามไปยังสภาวิศวกรได้ว่า ตนเคยขออนุญาตเป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้างหรือไม่ ถามว่ากรณีแก้ไขการออกแบบปล่องลิฟต์หรือปล่องบันได ส่งผลต่อการรับน้ำหนักของตัวอาคารได้หรือไม่ นายสมเกียรติตอบว่า ขอพูดตามหลักการทั่วไปว่าอาคารเหล่านี้ เราเรียกว่าคอนกรีตเสริมเหล็กหรือคอนกรีตอัดแรง หากเป็นคอนกรีตเสริมเหล็กคือ คอนกรีตกับเหล็กผสมกัน ถ้าคอนกรีตรับแรงน้อยลงเหล็กต้องรับแรงเพิ่มขึ้น อาจต้องเพิ่มเหล็กเข้าไป หรือถ้าบอกว่าเหล็กราคาแพงอาจเพิ่มเป็นคอนกรีตก็ได้ ทุกอย่างสามารถทำให้ถูกต้องได้ แต่ต้องให้วิศวกรผู้ออกแบบเป็นผู้คำนวณ

แจงขั้นตอนการแก้แบบ-ลดงาน

ส่วนการขอแก้ไขแบบที่ถูกแอบอ้างชื่อ หากวิศวกรเซ็นชื่อแล้ว ใครจะเป็นผู้อนุมัติต่ออย่างไรบ้าง นายสมเกียรติกล่าวว่า โครงการทั่วไป ถ้าเรามีผู้รับเหมา มีที่ปรึกษา (consult) เจ้าของแบบ เจ้าของงาน หากต้องการเปลี่ยนอะไรสักอย่าง หากเป็นผู้รับเหมาต้องส่งให้ที่ปรึกษา (consult) หากที่ปรึกษาเห็นชอบด้วย ต้องส่งเรื่องต่อไปเช่น หากเกี่ยวกับโครงสร้างต้องปรึกษาไปยังวิศวกรผู้ออกแบบ แต่ถ้าเป็นเรื่องความสวยงามเกี่ยวกับงานสถาปัตย์ต้องส่งไปยังสถาปนิกเจ้าของแบบ ถ้าเจ้าของแบบหรือผู้ออกแบบอนุมัติแล้วเรื่องถึงย้อนกลับมาที่เดิม ถ้าตรงนั้นมันมีงานลดงานเพิ่มมันจะต้องทำให้เรียบร้อย เพื่อนำเสนอให้เจ้าของโครงการต่อไป มันเป็นขั้นตอนมาตรฐานอยู่แล้ว อยู่ดีๆอยากเปลี่ยนอะไรแล้วทำตามใจฉัน เอาไปใช้เลย มันทำไม่ได้ โดยเฉพาะงานราชการ ทำแบบนี้ไม่ได้

ดีเอสไอเร่งหาคำตอบทุกข้อ

ร.ต.อ.สุรวุฒิ รังไสย์ รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า การขอข้อมูลจากนายสมเกียรติวันนี้ จะถูกใช้เป็นส่วนหนึ่งในคดีที่ดีเอสไอรับเป็นคดีพิเศษไปก่อนหน้านี้คือ คดีนอมินี (คดีพิเศษที่ 32/2568) มันสามารถเชื่อมโยงไปได้ทั้งหมด ทั้งการทำงานของบริษัทสัญชาติใดบ้าง ค่อนข้างเป็นประโยชน์ในภาพรวม ส่วนดีเอสไอต้องเชิญผู้แทนของกิจการร่วมค้า PKW มาสอบถามด้วยหรือไม่ ทุกอย่างอยู่ในขั้นตอนทั้งหมดตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่การออกแบบจนสุดทางว่าเกี่ยวข้องส่วนใด เราจะทำเป็นองค์ภาพรวมว่า รายละเอียดมันเกิดขึ้นเพราะอะไร ค้นหาความจริงแล้วกำหนดขั้นตอนต่อไป

แลกข้อมูลกับตำรวจตลอด

“เบื้องต้นเราทำงานบูรณาการร่วมกับตำรวจ ในที่เกิดเหตุเรื่องชันสูตรทั้งหมดจะเป็นหน้าที่ของตำรวจ ส่วนเรื่องตึก สตง.ถล่ม แล้วเกิดคดีอาญายังไม่มี แต่ดีเอสไอจะทำเรื่องภาพรวม เพราะเป็นเรื่องสำคัญและเป็นความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ กระทบต่อศีลธรรมอันดีค่อนข้างกว้าง ดีเอสไอต้องทำภาพรวมทั้งหมด มันจะเป็นจิ๊กซอว์ไปขยายผลดูได้ว่าจะเจอฐานความผิดใดบ้าง อาทิ หากเป็นการปลอมแปลงเอกสาร แล้วการปลอมเอกสารดังกล่าวเป็นสาเหตุของการทำเรื่องหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบหรือการควบคุมงาน ตรงนี้ขอเวลาให้พนักงานสอบสวนพิสูจน์ข้อเท็จจริง เราจะทำควบคู่กับคดีนอมินี ตำรวจและเราทำอะไรแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างกันต่อเนื่อง ส่วนการตรวจสอบย้อนหลังว่า กิจการร่วมค้า PKW มีพฤติการณ์เกี่ยวข้องการนำชื่อผู้คุมงาน ปลอมแปลงรายชื่อ ปลอมแปลงลายเซ็นกับโครงการอื่นอีกหรือไม่ เบื้องต้นยังไม่มี” รองอธิบดีดีเอสไอกล่าว

ขอข้อมูลการเงิน บ.ไชน่าฯ

รองอธิบดีดีเอสไอกล่าวอีกว่า ส่วนความคืบหน้าการติดตาม 3 กรรมการผู้ถือหุ้นชาวไทยบริษัทไชน่า เรลเวย์ฯ ขณะนี้ดีเอสไอยังคงอยู่ระหว่างติดตามยังไม่เจอตัว แต่ได้สอบปากคำพยานแวดล้อมซึ่งเป็นญาติแล้ว ได้รายละเอียดเบื้องต้นมาพอสมควร ถ้าหากเส้นทางการเงินที่ดีเอสไอประสานขอไปยังสถาบันการเงินชัดเจนว่า มีรายละเอียดเกี่ยวกับการชำระค่าหุ้น ถ้าตรงนี้มันครบถ้วนคงไม่จำเป็นต้องรอ เส้นทางการเงินที่ขอจากธนาคาร ดีเอสไอขอย้อนไทม์ไลน์ไปตั้งแต่ช่วงก่อตั้งบริษัท เพราะมันจะชัดเจนว่าพวกเขาถือหุ้นแทนใคร

รอรับคดีฝุ่นแดง-เหล็กตกมาตรฐาน

พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ฐานะโฆษกดีเอสไอ กล่าวว่า ส่วนกรณีคดีฝุ่นแดงซึ่งสำนักงานผลิตภัณฑ์มาตรฐานอุตสาหกรรม (สมอ.) มีหนังสือสอบถามมายังกรมสอบสวนคดีพิเศษให้ร่วมสืบสวน ตอนนี้กระบวนการอยู่ระหว่างเสนออธิบดีดีเอสไอ เนื่องจากหนังสือเพิ่งเข้ามาถึงหน่วยธุรการทางคดีเมื่อวันที่ 12 เม.ย. ส่วนประเด็นเรื่องเหล็กไม่ได้คุณภาพ สมอ.เข้าเก็บหลักฐานร่วมกับดีเอสไอ ตอนนี้อยู่ระหว่างตรวจพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ หากพบว่ามีมูลความผิดว่าเป็นเหล็กตกมาตรฐาน แล้วนำไปใช้ก่อสร้างสถานที่ใด จะมากล่าวโทษดำเนินคดีเพิ่มเติม ส่วนต้องแยกเป็นเลขคดีพิเศษคนละสำนวนกับคดีนอมินี หรือรวมเป็นเลขคดีเดียวกันได้หรือไม่ คงต้องดูรายละเอียดก่อน ต้องดูองค์ประกอบความผิดกับผู้กระทำความผิด ถ้าอยู่ในกลุ่มเดียวกันพฤติกรรมไปด้วยกัน สามารถรวมเป็นเลขคดีเดียวกันได้

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่