ตำรวจไซเบอร์บุกศูนย์คัดแยกพัสดุบริษัทขนส่งเอกชนย่านบางปู ยึดคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสาร ส่งจากชายแดนตากไปชายแดนสระแก้ว คาดเป็นของกลุ่มจีนเทาขบวนการสแกมเมอร์เตรียมย้ายฐานจากเมียวดีไปเปิดใหม่ในปอยเปต ขณะที่ทหารพรานช่วยหนุ่มไทยวิ่งฝ่าความมืดหนีนรกมาจากบ่อนกาสิโนฝั่งกัมพูชา แฉถูกลวงไปทำงานให้แก๊งคอลฯ โดนบังคับกักขังทำร้ายจนทนไม่ไหว “บิ๊กก้อง” แถลงรวบดาวกองร้อยปอยเปต ตัวการสำคัญหลอกเงิน “ชาล็อต-แอนชิลี” ด้าน “จเรตำรวจ” คิกออฟตั้งวอร์รูมวิเคราะห์สถานการณ์รายวัน ยกระดับความเข้มข้นในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์
หลังถูกทางการจีนกดดันหนัก ส่งผลให้กลุ่มทุนจีนเทาต้องย้ายฐานปฏิบัติการของขบวนการสแกมเมอร์ ที่ตั้งอยู่ในเมืองชเวโก๊กโก่ เคเคพาร์ค และเมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ไปยังตึกกาสิโนในเมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา ล่าสุดได้ว่าจ้างคนไทยให้ขับรถไปรับอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือกว่า 1 พันเครื่องของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ จากริมแม่น้ำเมย อ.แม่ระมาด จ.ตาก นำส่งทางพัสดุขนส่งเอกชนปลายทาง อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เพื่อข้ามแดนไปฐานที่มั่นใหม่ในฝั่งปอยเปต แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมได้ ก่อนขยายผลยึดอุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มเติม
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 3 ก.พ. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. เปิดเผยว่า หลังมีข้อมูลว่าขบวนการคอลเซ็นเตอร์เริ่มย้ายฐานปฏิบัติการ และเคลื่อนย้ายอุปกรณ์ต่างๆส่งผ่านทางบริษัทขนส่งเอกชน ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ รรท.ผบก.สอท.4 พ.ต.อ.อนุชา ศรีสำโรง ผกก.2 บก.สอท.4 พ.ต.ท.พร้อมพล นิตย์วิบูลย์ สว.กก.2 บก.สอท.4 นำกำลังเข้าตรวจสอบศูนย์คัดแยกกระจายสินค้าบริษัทขนส่งเอกชนแห่งหนึ่งใน อ.บางปู จ.สมุทรปราการ ตรวจยึดเครื่องซีพียูคอมพิวเตอร์ 15 เครื่อง, คีย์บอร์ด 6 อัน, เมาส์ 8 อัน, เครื่องสำรองไฟ 2 เครื่อง, อุปกรณ์เชื่อมต่อเน็ตเวิร์ก (HUB) 1 เครื่อง, สายแลนด์ 5 เส้น, ตัวรับสัญญาณอินเตอร์เน็ตยี่ห้อ TP link 24 กล่อง, โทรศัพท์มือถือ ยี่ห้อ Redmi 5 เครื่อง, สายชาร์จโทรศัพท์ 49 เส้น, ซิมการ์ดโทรศัพท์ ยี่ห้อ PAYGO และ T-MOBILE รวม 55 ซิม
...
พ.ต.อ.กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ รรท.ผบก.สอท.4 กล่าวว่า สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ตำรวจ สภ.แม่ระมาด ทหาร และฝ่ายปกครอง ได้ตรวจยึดโทรศัพท์มือถือ 1,251 เครื่อง ซิมโทรศัพท์ต่างประเทศ 274 ซิม และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ 19 ชุด ในพื้นที่ ต.แม่ระมาด อ.แม่ระมาด จ.ตาก เจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใน จ.เมียวดี รัฐกะเหรี่ยง ประเทศเมียนมา ที่ต้องการย้ายฐานการปฏิบัติการไปอยู่ฝั่งประเทศกัมพูชา ด้านตรงข้าม จ.สระแก้ว
พ.ต.อ.กฤตัชญ์กล่าวต่อว่า ต่อมาชุดสืบสวน บก.สอท.4 สืบทราบว่า ก่อนหน้านี้ขบวนการได้ส่งพัสดุมาแล้ว 1 ครั้ง เป็นพัสดุ 6 กล่องใหญ่ส่งผ่านบริษัทขนส่งเอกชน สาขาแม่ระมาด ปลายทางมีชื่อผู้รับเป็นหญิงอยู่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว เส้นทางขนส่งสินค้าถูกไปรวมที่จุดกระจายของบริษัทเอกชนรายหนึ่งใน จ.พิษณุโลก ก่อนส่งต่อมาที่จุดคัดแยกศูนย์กระจายสินค้า สาขาบางปู จ.สมุทรปราการ ติดตามเข้าตรวจสอบจนพบคอม พิวเตอร์พร้อมอุปกรณ์ เจ้าหน้าที่ได้ยึดไว้ตรวจสอบว่าเกี่ยวข้องกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
ขณะเดียวกัน พ.อ.เมธี คำเต็ม ผบ.ชค.ทพ.12 ฉก.อรัญประเทศ กกล.บูรพา สั่งการให้ ร.ท.สาโรจน์ โยธา ผบ.ร้อย ทพ.1201 จัดกำลังร้อย ทพ.1201 ประสาน พ.ต.อ.อโณทัย จินดามณี ผกก.สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว และ พ.ต.อ.ณภัทรพงศ สุภาพร ผกก.ตม.จ.สระแก้ว นำกำลังออกลาดตะเวนสกัดกั้นการลักลอบข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติ บริเวณตะเข็บชายแดนท้ายตลาดโรงเกลือ อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
กระทั่งเวลา 21.30 น.คืนวันที่ 2 ก.พ. พบชายต้องสงสัยวิ่งฝ่าความมืดจากฝั่งกัมพูชา เข้ามาฝั่งไทย บริเวณรอยต่อจุดตรวจชายแดน จต.อ.18-จต.อ.19 บ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว เข้าคุมตัวไว้ ทราบชื่อ นายอรรถสิทธิ์ สุดสวาท อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 230 หมู่ 9 ต.ปากช่อง อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ไม่มีหนังสือเดินทางหรือเอกสารอนุญาตข้ามแดน นายอรรถสิทธิ์อ้างว่าวิ่งหนีตายกลับมาฝั่งไทย คุมตัวไปซักถามที่กองร้อยทหารพรานที่ 1201 จตอ.20 ด่านพรมแดนคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว
นายอรรถสิทธิ์ให้การว่าลักลอบเดินทางไปทำงานเปิดบัญชีม้า สแกนใบหน้า และคีย์ข้อมูลลูกค้าให้กับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีน ในบ่อนกาสิโน ฝั่งปอยเปต มีคนไทยชื่อนายบอส ไม่ทราบชื่อ-สกุลจริง ชักชวนไปทำงานให้เงินเดือน เดือนละ 20,000 บาท นั่งรถโดยสารจาก จ.นครราชสีมา มาลงที่สถานีขนส่ง อ.เมืองสระแก้ว เย็นวันที่ 28 ม.ค. จากนั้นมีชายไทยขับรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีน้ำเงิน ไม่ทราบทะเบียน มารับไปส่งที่ธนาคารกสิกรไทย สาขาโรงเกลือ ต.อรัญประเทศ กระทั่งเวลา 18.30 น. มีชาวกัมพูชาขี่รถ จยย.มารับพาข้ามชายแดนช่องทางธรรมชาติ ออกไปฝั่งกัมพูชา ก่อนส่งตัวไปที่ตึกกาสิโนแห่งหนึ่งไม่ทราบชื่อ ในฝั่งปอยเปต และมีคนจีนมารับไปเปิด บัญชีธนาคารออนไลน์ทางโทรศัพท์ จำนวน 2 บัญชี เป็นบัญชีธนาคารกรุงไทย กับธนาคารกสิกรไทย ทำการสแกนใบหน้าทั้ง 2 บัญชี
นายอรรถสิทธิ์กล่าวต่อว่า ระหว่างทำงานช่วงวันที่ 30 ม.ค.-2 ก.พ. ถูกแก๊งคอลฯกักขังทำร้ายร่างกาย บังคับให้เสพยาเสพติด ทนไม่ไหวอยากกลับบ้าน ฉวยโอกาสช่วงกลางคืน รปภ.ของแก๊งคอลฯเผลอ วิ่งหลบหนีออกมาจากที่ทำงาน สอบถาม เส้นทางหลบหนีข้ามแดนช่องทางธรรมชาติจากชาวเขมรแถวนั้น กระทั่งวิ่งหนีข้ามเข้ามาในฝั่งไทยได้สำเร็จ และถูกทหารพรานจับได้ หลังซักถามเบื้องต้น นำตัวส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.คลองลึก จ.สระแก้ว ดำเนินคดีข้อหาลักลอบข้ามแดนโดยผิดกฎหมายและ สอบสวนขยายผลขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ต่อไป
วันเดียวกัน พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. พร้อมด้วย พล.ต.ต.อธิป พงษ์ศิวาภัย ผบก.ปอท. ร่วมกันแถลงจับกุม “ดาวกองร้อย นายร้อยปอยเปต แก๊งคอลข้ามชาติ” จับนายธนาวุฒิ กันยาพันธ์ อายุ 28 ปี และนายรามิล พันธวงศ์ อายุ 31 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับร่วมกันฉ้อโกงประชาชนแสดงตนเป็นบุคคลอื่น นำเข้าข้อมูลเท็จสู่ระบบคอมพิวเตอร์ และร่วมกันฟอกเงิน
พล.ต.ท.จิรภพเปิดเผยว่า สืบเนื่องจากเมื่อ ก.ค.67 ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย กก.1 บก. ปอท. ได้รับการร้องทุกข์จากผู้เสียหายว่า มีคนร้าย แต่งกายเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจวิดีโอคอลมาหลอกลวงผู้เสียหาย มีผู้หลงเชื่อโอนเงินไปบัญชีคนร้ายรวมกว่า 4 ล้านบาท ตำรวจรวบรวมหลักฐานออกหมายจับ เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพก่อเหตุจริง อ้างถูกบังคับ มีฐานปฏิบัติการอยู่ในอาคาร 18 ชั้น ปอยเปต แบ่ง หน้าที่ทำเป็นขบวนการหลอกเหยื่อมา รวมไปถึงบุคคล ที่มีชื่อเสียงในประเทศไทยทั้ง น.ส.ชาล็อต ออสติน และแอนชิลี มีคนจีนเป็นผู้ควบคุมและคิดสคริปต์หลอกลวงเหยื่อ กระทั่งมีโอกาสเดินทางกลับมาในประเทศไทยถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในพื้นที่ จ.ชลบุรี จากนี้ จะเร่งขยายผลติดตามตัวผู้บงการที่รับผลประโยชน์สูงสุด
ขณะที่ พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จเรตำรวจ แห่งชาติ ในฐานะ ผอ.ศตคม.ตร./ผอ.ศปอส.ตร. เป็น ประธานการประชุมวอร์รูม (War Room) ปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติอาชญากรรมออนไลน์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการค้ามนุษย์ เป็นศูนย์บัญชาการร่วมระหว่างหน่วยงานต่างๆของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ, ศตคม.ตร. และ ศปอส.ตร. บูรณาการติดตามสถานการณ์ ใกล้ชิดแบบรายวัน เพื่อวางแผนป้องกันปราบปรามอาชญากรรมดังกล่าวให้ได้ผลดีมากยิ่งขึ้น พล.ต.อ.ธัชชัยจะเป็นประธานการประชุมสั่งการในทุกวัน วันนี้เป็นวันแรกในการคิกออฟวอร์รูมดังกล่าว
...
พล.ต.อ.ธัชชัยกล่าวว่า การแก้ไขปัญหาแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ดำเนินการอย่างจริงจังและต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2565 นับจากนี้จะเป็นการยกระดับการดำเนินการที่เข้มข้นมากขึ้น การตั้งวอร์รูมนี้พุ่งเป้าเดินหน้าปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และการค้ามนุษย์ จะประชุมติดตามและวิเคราะห์สถานการณ์รายวัน ขยายผลการดำเนินงาน กระชับความร่วมมือในการเดินหน้าปฏิบัติการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากขึ้น และเน้นการบังคับใช้กฎหมายที่เข้มข้น หลังจากนี้จะเร่งเดินหน้าอย่างเต็ม กำลังในการปราบปราม จะประเมินสถานการณ์อีกครั้ง ภายใน 3 เดือน คาดหวังว่าสถานการณ์ความรุนแรงของอาชญากรรมดังกล่าวจะลดลงอย่างเป็นรูปธรรม
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่