นับตั้งแต่วันที่ 15 เม.ย.ของทุกปีตามตำราโหราศาสตร์โบราณไทย “เป็นช่วงกาลโยคปีเปลี่ยน พ.ศ.” แล้วดาวก็เคลื่อนตำแหน่ง มักถูกนำมาใช้วิเคราะห์ดวงคน และดวงเมืองที่จะปรับเปลี่ยนใหม่ไปตามนั้น

หากดูกาลโยคปี 2567 “เป็นปียักษ์ล้ม” ธุรกิจองค์กรใหญ่ๆไม่อาจประคับประคองกิจการได้ “ต้องปลดพนักงาน” แล้วดาวบาปพระเคราะห์ยังตกเรือนชะตาเสียส่งผลต่ออุบัติเหตุกับเด็กไม่ว่าจะเป็นไฟไหม้ เครื่องบินตกต่อเนื่องมาจนปี 2568 “ดาวอาทิตย์” อันเป็นสัญลักษณ์ความก้าวหน้าความเจริญรุ่งเรือง “โคจรมาตกภพวินาศ”

ในการนี้ยังต้อง “ระวังอุบัติเหตุ” อันเกี่ยวกับฟืนไฟ ไฟฟ้าที่มีโอกาสจะเกิดเหตุไฟไหม้รุนแรงค่อนข้างเยอะ ส่วนแง่ระบบอิเล็กทรอนิกส์ การลงทุน และเศรษฐกิจก็ยังไม่เติบโตมากนัก “สถาบันการเงินก็ไม่ดี” เช่นนี้การลงทุนธุรกิจใดๆจำเป็นต้องอาศัยความระมัดระวังพิเศษ “คนเก่ง” ที่พัฒนาเรียนรู้การลงทุนถ่องแท้เท่านั้นจะอยู่รอดได้

โดยเฉพาะ “คนบ้าอำนาจมักบุ่มบ่ามใจร้อน” ส่งผลเสียมากกว่าผลดีแล้ว “คนมีชื่อเสียง” ก็ต้องเจอปัญหาจนชื่อเสียงด่างพร้อยเกิดขึ้นเป็นระยะ อ.รัชดากร ศิวะไพบูลย์อนันต์ เจ้าของฉายาโหรตาทิพย์ กรรมการด้านวิชาการสมาคมโหรแห่งประเทศไทยฯ ได้จับยามสามตาทำการเปิดไพ่พรหมญาณสำรวจโชคชะตาดวงเมืองไทยว่า

จริงๆแล้วปีนี้หากดู “ดาวจันทร์สัญลักษณ์ของความฝัน ขี้เบื่อ โคจรมาอยู่ภพอริ” แล้วด้วยดาวอาทิตย์เป็นตัวแทน “สามี” และดาวจันทร์เป็นตัวแทน “ภรรยา” เช่นนี้จะส่งผลให้ก่อเกิดปัญหาการหย่าร้าง และปัญหาทะเลาะเบาะแว้งกันระหว่างคู่พึ่งคู่สัญญาค่อนข้างมาก ดังนั้นอยากให้คนไทยพยายามควบคุมอารมณ์กันเป็นพิเศษ

...

ทว่าในส่วน “ธุรกิจโลจิสติกส์” คงจะต้องเจอปัญหาอุปสรรคย่ำแย่มากกว่าปีก่อน อีกทั้งดาวจันทร์มาอยู่ภพอรินั้นยังจะหมายผลกระทบต่อการใช้ชีวิตของผู้คนต้องระวังมากที่สุดคือ “ระบบทางน้ำ” ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางทางน้ำ ระบบท่อน้ำ หรือแม้แต่โอกาสจะเกิดน้ำท่วมใหญ่ขึ้นหากไม่มีการบริหารจัดการน้ำที่ดีในปี 2568

ต่อมาสำหรับ “ดวงอังคาร” ในปีที่แล้วมาอยู่ภพมรณะทำให้อาชีพเฉพาะด้าน ตำรวจ ทหาร นักบิน สจ๊วต หรือธุรกิจการจำหน่ายอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ อู่ซ่อมรถ ต้องเผชิญปัญหาด้านชื่อเสียงค่อนข้างหนักหนา แต่พอมาปีนี้ “ดวงอังคารย้ายมาอยู่ขุมทรัพย์” จะส่งผลให้อาชีพเหล่านี้จะสามารถกู้ชื่อเสียงกลับคืนมาได้ดีขึ้น

โดยเฉพาะคนในเครื่องแบบ ตำรวจ ทหารโดดเด่นมีบทบาทยิ่งขึ้น “ผู้คนเดินทางด้วยเครื่องบินสูง” ทำให้อาชีพนักบิน สจ๊วตกลับมาฟื้นตัวเฟื่องฟูมากขึ้นเรื่อยๆ รวมถึงชนชั้นแรงงานก็น่าจะหายใจได้คล่องกว่าเดิม

ปัญหาว่า “ดาวพุธ” อันเกี่ยวข้องกับวาทศิลป์ อาชีพการค้า การพูด การเจรจา “ย้ายมาอยู่ภพมรณะ” เช่นนี้อาจเกิดปัญหาในวงการนักกฎหมาย สัญญา การเจรจา โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงการสื่อสาร “โซเชียลฯ” จะงัดหลักฐานเก่า เอกสารใหม่ เอกสารปลอมมาตอบโต้กัน ทำให้การรับข้อมูลบนออนไลน์ต้องพิจารณาให้มาก

นอกจากนี้ “ธุรกิจขายของออนไลน์ 2-3 ปีมานี้เฟื่องฟูโตมาก” ในปีนี้ธุรกิจออนไลน์ต้องระมัดระวัง “มิจฉาชีพ” มีแนวโน้มมาหาประโยชน์สูงขึ้น “วงการนักกฎหมาย” อย่างอาชีพทนายความจะมีปัญหาจนเละเทะ

แล้วถ้าจับยามสามตา “ดาวพุธตกมรณะ” แง่มุมการเมืองยังไม่เสถียรเนื่องจากปัญหาช่วงวัยของคนยุคเก่า-คนยุคใหม่ “เคยตกลงเจรจาสัญญากันไว้” ก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้างจนแตกคอเกิดความขัดแย้งมากขึ้นเรื่อยๆ

ในแง่มุมดีปีนี้ “ดาวพฤหัสบดีเป็นอธิบดี” ตัวแทนผู้มีบุญ ผู้ใหญ่ ครูบาอาจารย์ แพทย์จะประสบความสำเร็จ “ประชาชน” ถ้าใช้ชีวิตรักษาศีลปฏิบัติดีก็จะส่งเสริมให้มีความก้าวหน้าในทุกด้านของชีวิตด้วยเช่นกัน

ยิ่งกว่านั้น “วงการกระบวนการยุติธรรม” ในปี 2567 ทำงานเหมือนถูกดองไว้จนใช้อำนาจได้ไม่เต็มที่ แต่ปีนี้จะมีบทบาทในการขับเคลื่อนกระบวนการยุติธรรมได้ดีขึ้น “ผู้ใหญ่” จะมีความเที่ยงธรรมมากกว่าเดิม

อาชีพโดดเด่นคือ “แวดวงบันเทิง ท่องเที่ยว แฟชั่น” จะรุ่งโรจน์ประสบความสำเร็จ “สถาบันความงาม” จะได้รับความนิยมจนเติบโตเกิดขึ้นใหม่มากมาย “ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์จะฟื้นตัว” แต่ต้องอาศัยระยะเวลาโดยผู้ใหญ่ที่อยู่เบื้องหลังก็ยังคงมีบทบาทสำคัญ ในส่วนงานเสมียน งานธุรการ บัญชี จะถูกกลืนกินหายไปเรื่อยๆ

...

ประเด็นถัดมา “ความวุ่นวายทางการเมือง” เท่าที่เปิดไพ่ยามสามตามองเห็นเฉพาะ “นโยบายรัฐบาล” ที่กำลังดำเนินการจะมีอุปสรรคปัญหาจากการไม่ถูกยอมรับ แต่สิ่งที่จะขับเคลื่อนได้คือ “นายกฯ” ต้องแสดงศักยภาพ เพราะตัวท่านเป็นคนเก่งแถมมีพื้นฐานทางการเมืองดี “คุณพ่อ” คอยอยู่เบื้องหลังเป็นที่ปรึกษาให้ตลอด

ฉะนั้นในมุมร้ายก็ยังมีมุมดีๆ “เพียงแต่นายกฯอาจต้องโชว์ฝีมือ” ส่วนกรณีการชุมนุมประท้วงทางการเมืองรุนแรงนำไปสู่ “การเปลี่ยนแปลงผู้นำใหม่” ตอนนี้ยังมองไม่เห็น หรือยังไม่น่าจะเกิดขึ้นในปีนี้ด้วยซ้ำ

“เศรษฐกิจปีนี้น่าจะดีขึ้นกว่าเดิมเพียงแต่ต้องใช้เวลาปรับตัวเพราะปัญหาเศรษฐกิจไทยถูกหมักหมมบอบช้ำกันมานานแล้วรัฐบาลชุดนี้ก็กำลังเข้ามาทำหน้าที่เยียวยารักษาระบบให้สามารถเดินหน้าต่อไปได้ แต่จะฟื้นฟูได้มากหรือน้อยคงต้องขึ้นอยู่กับความสามารถของนายกฯต้องพิสูจน์ให้สังคมได้เห็นเป็นประจักษ์” อ.รัชดากร ว่า

ตอกย้ำ “ดวงนโยบายของรัฐบาล” สำหรับในปี 2568 ถ้าหากต้องการผลักดันนโยบายเร่งด่วนเป็นกรณีพิเศษควรขับเคลื่อนเกี่ยวกับการศึกษา อสังหาริมทรัพย์ สวัสดิการพื้นฐาน เพราะมีความโดดเด่นในปีนี้ดีกว่าการแจกเงิน “หากสามารถทำได้จริงๆ” เชื่อว่าจะได้แรงใจสนับสนุนจากพี่น้องประชาชนอย่างมากแน่นอน

...

แต่สำหรับ “นโยบายของประเทศมหาอำนาจ” ถ้าเปิดไพ่ ยามสามตาดูปรากฏเจอ “ราหู” บ่งบอกถึงผลกระทบต่อเศรษฐกิจเปลี่ยนแปลงไปทั่วโลก รวมถึงกระทบต่อประเทศไทยหากเอนเอียงมาฝั่งสหรัฐฯเกินไปแล้วยังจับได้ “ไพ่นางยักษ์ขี่เสือ” ถ้าเปลี่ยนก็คงเป็นนายกฯมีความเก่งกล้าสามารถต่อสู้ได้จนหยดสุดท้ายเพื่อสิ่งที่ถูกต้อง

ฉะนั้นในปี 2568 “นายกฯ” ต้องทำงานเหน็ดเหนื่อยพอสมควร เพราะกำลังถูกมองเป็นผู้นำอายุน้อยจนต้องทำงานหนัก “เพื่อพิสูจน์” แต่อย่างไรก็ดีอยากให้ทุกคนรอดูผลงานท่านก่อน “อย่าด่วนตัดสิน” เพราะที่ผ่านมาประเทศไทยก็เคยมีนายกฯอายุมากที่สุดมาแล้วจึงอยากให้เปิดใจรอดูผลงานนายกฯที่อายุน้อยที่สุดด้วยเช่นกัน

สุดท้ายปี 2568 “ประชาชน” ต้องการให้ดวงชะตาเปลี่ยนก็ต้องเปลี่ยนพฤติกรรมให้เห็น “ข้อด้อยตัวเอง”แล้วปรับปรุงแก้ไขส่วนที่มีปัญหาให้ดีขึ้น “ปีเก่าผ่านไปปีใหม่เข้ามา” ก็ควรคิดใหม่ทำใหม่.

คลิกอ่านคอลัมน์ “สกู๊ปหน้า 1” เพิ่มเติม