ผลงานสำคัญตำรวจไทยยุค พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. เข้ามาดูแลคดี “ดิ ไอคอน กรุ๊ป” บริษัทขายตรง “ออนไลน์” มีผู้เสียหายนับร้อยแจ้งความว่าเป็นเหยื่อถูกหลอก ความเสียหายหลายร้อยล้านบาท

สังคมตั้งคำถาม

สุดท้ายคดีจะเป็นอย่างไร ตำรวจรับมือไหวหรือไม่กับกลุ่มเครือข่ายผลประโยชน์ที่มีคนใหญ่โตเข้ามาเกี่ยวข้อง จะสาวถึง “ตัวการใหญ่” หรือไม่ และพี่น้องประชาชนที่ตกเป็นเหยื่อจะได้รับการช่วยเหลือเต็มที่หรือไม่

เป็นงานใหญ่ของ พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ รับ “เผือกร้อน” หลังเข้ารับตำแหน่ง ผบ.ตร. ด้วยรูปแบบคดีซับซ้อนทั้งรูปแบบกิจการ ตัวละครคนดัง และผลประโยชน์มหาศาล แต่ด้วยประสบการณ์ทำงานของ ผบ.ตร.ได้แสดงให้เห็นบทบาทความเป็นผู้นำในการบริหารคดีใหญ่ระดับประเทศ เริ่มต้นที่วางระบบรับแจ้งความ และสอบสวนคดี

ใช้ทีมงาน ตำรวจสอบสวนกลาง หรือ “CIB” เป็นหน่วยงานที่ประชาชนยอมรับเป็นฐานในการทำคดี และรับแจ้งความ คัดเลือกนายตำรวจฝีมือดีเข้าชุดทำงานมอบ พล.ต.ท.อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. ดูแลภาพรวม พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ รอง ผบช.ก. ดูแลสืบสวน พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รอง ผบช.ก. ดูแลสอบสวน พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ปคบ. ขับเคลื่อนทางคดี

ทำงานแข่งกับความคาดหวังสังคม

ใช้เวลาไม่กี่วัน บช.ก.ขอหมายจับเปิดปฏิบัติการ “หนุมานถล่มกรุงดิ ไอคอนรวบกลางวงเทวดา” แกนนำระดับบอส ดารา และแม่ข่าย 18 รายระดับหัวแถว ฝากขัง คัดค้านการประกัน ทำให้สุดแบบที่สังคมต้องการ

สังคมชื่นชม บช.ก.ทำคดีได้สมบูรณ์แบบ ผบ.ตร.สั่งเปิดศูนย์รับแจ้งความทั่วประเทศรูปแบบเดียวกับการสอบสวนที่ บช.ก.ผู้เสียหายไม่ต้องเดินทาง ยกให้เป็น “โมเดล” การบริหารคดีใหญ่ที่มีผู้เสียหายจำนวนมาก

...

ตำรวจเริ่มต้นมาดี แต่คดีนี้เข้าเงื่อนไข “คดีพิเศษ” อยู่ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษมารับช่วงทำคดีต่อ

ยึดรูปแบบคดีที่ตำรวจ “ตั้งไข่” ขึ้นไว้ให้.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th

คลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม