“ศาลไทยในอดีต” (ประยุทธ์ สิทธิพันธ์ สร้างสรรค์บุ๊คส์ พิมพ์ครั้งที่ 2 พ.ศ.2551) 1 ใน 100 เล่ม หนังสือดีที่คนไทยควรอ่าน ของ สกว. ผมอ่านเอามาใช้แล้วใช้อีกจนช้ำ จนจำได้ขึ้นใจ เรื่องที่ 1 เจ้าจอมปราง

วันนี้ อ่านเรื่องเจ้าจอมปราง อีกที อือ! บางเรื่อง เช่นเรื่องคดีเจ้าพระยาสวรรคโลกที่เคยเข้าใจ ต้องเปลี่ยนความเข้าใจใหม่ ต้นเรื่องแห่งความเข้าใจเดิมนั้น อยู่ในพระราชพงศาวดารตอนหนึ่ง

“ในเดือนสิบสอง ปีวอก อัฐศก จ.ศ.1138 (พ.ศ.2319) นั้น เจ้าพระยาพิชัยราชา ผู้เป็นเจ้าพระยาสวรรคโลก ลงมารับราชการอยู่ ณ กรุง แต่งผู้เถ้าผู้แก่เข้าไปขอน้องสาวเจ้าจอมฉิม (คือเจ้าจอมปราง) พระสนมเอก บุตรีเจ้านครศรีธรรมราช ซึ่งอยู่ในพระราชวังจะเอามาเลี้ยงเป็นภรรยา

ครั้นสมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรีทรงทราบ ก็ทรงพระพิโรธ ดำรัสว่า มันทำบังอาจ จะมาเป็นคู่เขยน้อยเขยใหญ่กับกูผู้เป็นพระเจ้าแผ่นดิน จึงดำรัสให้เอาตัวเจ้าพระยาพิชัยราชาไปประหารชีวิตเสีย ตัดศีรษะมาเสียบประจานไว้ที่ริมประตูข้างฉนวนของพระตำหนักแพ

อย่าให้ใครเอาเยี่ยงอย่างต่อไปภายหน้า”

ประยุทธ์ สิทธิพันธ์ ตั้งข้อสงสัย การจบชีวิตของทหารเอกคู่ราชบัลลังก์ของพระวีรมหาราช ยังเป็นข้อกังขากันสืบมาถึงยุคปัจจุบัน

ปรีดา ศรีชลาลัย เขียนชำระเรื่องนี้ไว้ในหนังสือเรื่อง เจ้าพระยาสวรรคโลก พิมพ์แจกในงานพระราชทานเพลิงศพนายพันโทเจ้าพระยาราชนรารักษ์ (แปลก กะรีวัต) เมื่อ 27 เม.ย.2481 ความว่า

ถ้าเป็นจริงตามความในพระราชพงศาวดาร จะน่าเสียใจหาน้อยไม่ ดาวที่สุกปลั่งดวงหนึ่งของสยาม ต้องมาลงเอยเพราะเรื่องผู้หญิง ดูไม่น่าสมต้นสมปลาย การจะเป็นไปถึงอย่างนั้นได้เทียวหรือ

นี่นับเป็นมลทินเรื่องที่ 2 ซึ่งมีร่องรอยเลอะอยู่ในพงศาวดาร

...

ท่านเจ้าพระยาสวรรคโลก ไม่ใช่ทหารหน้าใหม่ของพระยากำแพงเพชร (สิน) ท่านเป็นทหารเอกคู่ชีพ ตั้งแต่ร่วมใจตีฝ่าทัพพม่าออกจากกรุงศรีอยุธยา จนกองทัพไทยขับไล่พม่าแตกฉานซ่านเซ็นออกไป รวบรวมคณะไทยทั้งดินแดน ตั้งเป็นประเทศเอกราช

เมื่อท่านรับหน้าที่เป็นเจ้าเมืองสวรรคโลก เมืองด่านสำคัญ คอยรับมือกองทัพพม่าเชียงใหม่ ต่อรบป้องกันเมืองไว้ได้ ไม่เคยมีเรื่องราวย่อหย่อนในงาน ก่อผลเสียให้ฝ่ายไทย ตามที่พระราชพงศาวดารว่า

ปรีดา ศรีชลาลัย อ้างหลักฐานเอกสาร ชี้ชัดว่า ช่วงเวลาที่ว่ารบแพ้พม่านั้น เจ้าพระยาสวรรคโลก ต้องรับพระราชอาญา จำจากสวรรคโลกลงมา ณ กรุง หาได้ตามเสด็จไปเชียงใหม่ด้วยไม่

มูลเหตุเรื่องที่รับพระราชอาญา...สมเด็จพระเจ้ากรุงธนบุรี โปรดว่า เดือนสิบหามีราชการไม่ ให้พร้อมกันมาเฝ้า จะพระราชทานความรู้ใหม่ใช้ต้านต่ออริข้าศึก...แต่เมื่อถึงเวลา เจ้าพระยาสวรรคโลก กับพระยาพิชัย (ทองดี ดาบหัก) มิได้ลงมาเฝ้าฯ

ข้อกล่าวหานี้ นำร่อง พังทลายข้อหาใหญ่ต่อมา คือเรื่องแต่งเถ้าแก่ไปสู่ขอเจ้าจอมปราง...

แท้จริงเจ้าจอมปรางเป็นคนเดียวกับที่พระเจ้ากรุงธนบุรี พระราชทานเป็นชายาเจ้านคร (พัฒ)...โดยไม่รู้ว่าท้องสองเดือน เจ้าจอมปรางจึงเป็นนางเมือง ให้กำเนิดเจ้าพระยานคร (น้อย) ที่เชื่อกันว่าเป็นโอรสพระเจ้ากรุงธนฯ

เรื่องที่มีประจักษ์หลักฐาน เจ้าพระนครสวรรคโลกได้รับพระราชทานเจ้าหญิงโสภา เชื้อสายเจ้ากรุงเก่าเป็นชายา ข้อกล่าวหาทั้งหลายในพระราชพงศาวดาร จึงเป็นเรื่องเลื่อนลอย

ความจริงแรกเจ้าพระยาสวรรคโลก ไม่ต้องโทษประหาร ความจริงต่อมา พระเจ้ากรุงธนบุรีนั้น รักขุนทหารมากกว่าเรื่องอื่นๆ คดีนี้น่าใจหายตรงที่จำเลยทั้งสอง ไม่มีโอกาสมาแก้ข้อกล่าวหา เพราะเวลาผ่านเลยแล้วกว่าสองร้อยปี.

กิเลน ประลองเชิง

คลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม