ในหลวง-พระราชินี เสด็จฯไปในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนม พรรษา 90 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนี พันปีหลวง 12 สิงหาคม 2565 ณ วัดพระศรีรัตนศาสดารามและพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง คณะสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ ผู้แทน 5 ศาสนา สวดมนต์ถวายพระพร ขณะที่พสกนิกรทั่วประเทศพร้อมใจจุดเทียนชัยถวายพระพร “ทรงพระเจริญ” ดังก้อง ด้านกรมราชทัณฑ์เผยมีผู้ต้องขังกว่า 8 หมื่นคน ได้รับพระราชทานอภัยโทษ/ลดโทษ กว่า 2.2 หมื่นคนเตรียมได้รับการปล่อยตัว

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2565 ในพระบรมมหาราชวัง โดยเวลาประมาณ 16.50 น.วันที่ 12 ส.ค. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง พร้อมด้วยสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราช สาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา และสมเด็จพระเจ้า ลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา จากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยัง วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อเสด็จขึ้นชานหน้าพระอุโบสถ พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนพัดรองที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ผ้าไตรและย่ามที่ระลึกฯ แด่บรรพชิตจีนและญวนและทรงรับการถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรม ราชชนนีพันปีหลวงของบรรพชิตจีนและญวน

จากนั้น เสด็จเข้าพระอุโบสถ ทรงประกอบพิธีทางศาสนา ทรงประเคนพัดรองที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 แด่พระราชาคณะ 5 รูป ที่จะเจริญพระพุทธมนต์นวัคคหายุสมธัมม์ เมื่อทรงประกอบพิธีทางศาสนาเสร็จสิ้น พระบาทสมเด็จ พระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จออกจากพระอุโบสถ ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จฯไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในการนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และสมเด็จพระเจ้า น้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี เฝ้าทูลละออง ธุลีพระบาทรับเสด็จ

...

ลำดับต่อมาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จฯไปทรงจุดเทียนพระมหามงคลที่พระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงจุดธูปเทียนบูชาพระพุทธรูป เทวรูปเทวดานพเคราะห์ที่โต๊ะหมู่ ธูปเทียนเครื่องนมัสการพานทองสองชั้น บูชาพระพุทธปฏิมาชัยวัฒน์ รัชกาลที่ 9 และพระพุทธรูปประจำพระชนมวารของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่หน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร สมเด็จ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการทองทิศ จากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงประเคนพัดรองที่ระลึกพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 แด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายกและสมเด็จพระราชาคณะ พระราชาคณะเจ้าคณะรอง และพระราชาคณะ จนครบ 91 รูป

สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ถวายศีล จบ เจ้าหน้าที่อาราธนาพระปริตร พระสงฆ์ 91 รูป เจริญพระพุทธมนต์ เมื่อพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ถึงบททำน้ำพระพุทธมนต์ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดเทียนที่ฝาพระครอบพระกริ่งอุบาเก็ง ทรงประเคนพระครอบพระกริ่งอุบาเก็งแด่สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก พระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์ จบแล้ว ถวายอดิเรก ถวายพระพรลา

พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระ นางเจ้าฯ พระบรมราชินี เสด็จฯไปทรงกราบที่เครื่องนมัสการหน้าพระแท่นพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ทรงรับการถวายความเคารพของผู้มาเฝ้าฯ จากนั้นเสด็จออกจากพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต

ต่อมาในเวลาประมาณ 19.39 น. ที่ท้องสนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและเทียนชัยถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรม ราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ประจำปี 2565 มีนางนราพร จันทร์โอชา ภริยา พร้อมด้วย ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส

คณะรัฐมนตรีพร้อมคู่สมรส ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือนและภาคประชาชน เข้าร่วมในพิธีอย่างพร้อมเพรียง ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายเบาๆ ส่วนภูมิภาคจัด ณ ศาลากลางจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธานในพิธี และในต่างประเทศจัดพิธีตามความเหมาะสม

เมื่อนายกรัฐมนตรีมาถึงมณฑลพิธีได้คำนับพระบรมฉายาลักษณ์ และถวายเครื่องราชสักการะพานพุ่มทอง-พุ่มเงิน จากนั้นนายกรัฐมนตรีนำกล่าวถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติและถวายพระ พรชัยมงคลในพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรม ราชชนนีพันปีหลวง ในนามปวงชนชาวไทย ต่อมา นายกรัฐมนตรีนำร้องเพลงสรรเสริญพระบารมี ก่อนเข้าประจำแท่นหน้าเวทีรับมอบโคมเทียน ผู้ร่วมพิธีและประชาชนจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลเสร็จแล้ว นายกรัฐมนตรีนำผู้เข้าร่วมพิธีและประชาชนทุกหมู่เหล่าร้องเพลงสดุดีพระแม่เจ้า จบแล้ว นายกรัฐมนตรีพร้อมด้วยประชาชนทุกหมู่เหล่าต่างเปล่งเสียง “ทรงพระเจริญ” ดังกึกก้องถึง 3 ครั้ง

ที่สนามฟุตบอลมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับสมาคมกีฬาเครื่องบินจำลองและวิทยุบังคับ พร้อมความร่วมมือจากสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี จัดการแสดงโดรนแปรอักษร (Drone Light Show) ประกอบบทเพลงเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระ นางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยใช้โดรนจำนวน 200 ลำ ที่สร้างและพัฒนาซอฟต์แวร์ขึ้นด้วยฝีมือเยาวชนไทยออกแบบแผนการบิน โดยนักเรียนจากโรงเรียนพิบูลมังสาหาร โรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนครศรีอยุธยา โรงเรียนท่าอิฐศึกษา โรงเรียนนนทบุรีวิทยาลัย แปรอักษรเป็นรูปต่างๆ จำนวน 10 ภาพ อาทิ รูปอักษร “แม่ของแผ่นดิน” รูปอักษรพระปรมาภิไธยย่อ “สก.” รูปอักษร “90 พรรษา” รูปพระบรมสาทิสลักษณ์สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงปลูกป่าเป็นตัวอย่างกับราษฎรใน “โครงการป่ารักน้ำ” ทรงงานผ้าไทย รวมถึงรูปอักษรคำว่า “ทรงพระเจริญ” เป็นที่น่าประทับใจเหนือฟ้าท้องสนามหลวงอย่างมาก โดยใช้เวลาในการแสดงประมาณ 09.30 นาที

...

นอกจากนี้ ตลอดช่วงเช้าวันเดียวกัน ผู้นำหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนทั่วประเทศจัดพิธีทำบุญตักบาตรถวายเครื่องราชสักการะ ลงนามถวายพระพร เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จากนั้นมีการนำกลุ่มจิตอาสาออกทำกิจกรรมสาธารณประโยชน์ ถวายเป็นพระราชกุศล เช่นเดียวกับที่ท้องสนามหลวง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม พร้อมภริยา นางนราพร จันทร์โอชา เป็นประธานในพิธีทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศลฯ โดยมีคณะองคมนตรีและภริยา ประธานรัฐสภา ประธานศาลฎีกา ประธานวุฒิสภา ประธานองค์กรอิสระและคู่สมรส รองนายกรัฐมนตรีและภริยา หน่วยราชการในพระองค์ คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส ผู้ว่าฯ กทม. ผู้บัญชาการทหารและตำรวจ และภริยา หัวหน้าส่วนราชการต่างๆ ร่วมพิธีทำบุญตักบาตร สมเด็จพระราชาคณะ และพระราชาคณะ จำนวน 10 รูป และพระสงฆ์จากโครงการบรรพชาอุปสมบทเฉลิมพระเกียรติฯ 91 รูป

...

เวลา 08.30 น. นายกฯลงนามถวายพระพรสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรม ราชชนนีพันปีหลวง ณ ห้องแดง อาคารหน่วยราชการในพระองค์ 904 ในพระบรมมหาราชวัง มีนางนราพร พร้อมรองนายกฯ และภริยาเข้าร่วมพิธี ตามลำดับ จากนั้นนายกฯ และภริยาเดินทางกลับมาที่ท้องสนามหลวง เป็นประธานในพิธีทางศาสนามหามงคล 5 ศาสนา ตามลำดับ คือ ศาสนาพุทธ พระสงฆ์ในพิธี จำนวน 10 รูป เจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล ศาสนาอิสลาม ผู้นำศาสนาอิสลามประกอบพิธีดุอาอ์ขอพร ศาสนาคริสต์ ผู้นำศาสนาคริสต์ประกอบพิธีอธิษฐานภาวนาขอพร ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู พราหมณ์สวดถวายพระพร ศาสนาซิกข์ ศาสนาจารย์สวดอัรดาสขอพรจากพระศาสดา เป็นอันเสร็จพิธี และเวลา 12.00 น. สามเหล่าทัพจัดยิงสลุตหลวงเฉลิมพระเกียรติ ฝ่ายละ 21 นัด โดยกองทัพบกจัดยิงที่ท้องสนามหลวง กองทัพเรือจัดยิง ณ ป้อมวิไชยประสิทธิ์ พระราชวังเดิม เขตบางกอกใหญ่ ขณะที่กองทัพอากาศจัดยิงที่ลานอเนกประสงค์ โรงเรียนนายเรืออากาศนวมินทกษัตริยาธิราช เขตสายไหม

วันเดียวกัน นายอายุตม์ สินธพพันธุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 70 พรรษา 28 กรกฎาคม 2565 ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พ.ศ.2565 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ตราพระราชกฤษฎีกาพระราชทานอภัยโทษฯ แก่ผู้ต้องราชทัณฑ์เพื่อให้โอกาสแก่บุคคลเหล่านั้นกลับประพฤติตนเป็นพลเมืองดี อันจะเป็นคุณประโยชน์แก่สังคมและประเทศชาติสืบไป ซึ่งครั้งนี้มีผู้ต้องราชทัณฑ์ได้รับพระราชทานอภัยโทษปล่อยตัวจำนวน 22,822 คน เบื้องต้นไม่พบบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียง กลุ่มที่ได้รับพระราชทานอภัยโทษลดโทษจำคุกตามสัดส่วนที่กำหนด แตกต่างกันตามประเภทความร้ายแรงของคดี และตามชั้นของนักโทษเด็ดขาดกว่า 80,791 คน รวมมีผู้ต้องขังที่ได้รับการพระราชทานอภัยโทษตามพระราชกฤษฎีกา 2565 ฉบับนี้ 103,613 คน

...

นอกจากนี้ ถือเป็นเรื่องน่ายินดีในวันแม่แห่งชาติที่ น.ส.แอนนา เสืองามเอี่ยม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2022 ได้พบหน้าคุณแม่สมพร ศรีบุญเรือง เป็นครั้งแรก หลังคว้าตำแหน่งมาร่วมสองสัปดาห์ แอนนาได้นำพวงมาลัยมาไหว้คุณแม่ เนื่องในวันแม่แห่งชาติ ณ วัดช่างเหล็ก ตลิ่งชัน สถานที่ที่แอนนาเคยอาศัยอยู่ในวัยเด็ก เป็นห้องไม้ชั้นเดียว ซึ่งเป็นกุฏิแม่ชี ที่แอนนาอาศัยอยู่ตั้งแต่เรียนชั้น ป.3 จนจบมหาวิทยาลัย นาทีแรกที่แอนนาได้เจอคุณแม่ก็เข้าสวมกอดอย่างแนบแน่น และต่างน้ำตาซึมทั้งคู่ หลังไม่ได้เจอกันนานนับเดือน

ขณะที่กรุงเทพโพลล์ สำรวจความเห็นประชาชนเรื่อง “วันแม่ กับเรื่องของแม่ที่ลูกอยากบอก” โดยเก็บข้อมูลจากประชาชนในกรุงเทพฯและปริมณฑล จำนวน 1,141 ตัวอย่าง เมื่อวันที่ 5-9 ส.ค.ที่ผ่านมา พบว่ากิจกรรมที่ลูกๆจะทำในวันแม่ปีนี้มากที่สุด ร้อยละ 33.0 คือ โทรศัพท์หาแม่เพราะอยู่ต่างจังหวัด รองลงมาร้อยละ 30.7 คือ ไปทานข้าวนอกบ้านกับแม่ และร้อยละ 30.0 คือ ทำบุญใส่บาตร เพื่อถวายเป็นพระราชกุศล ส่วนแม่ในอุดมคติเป็นแบบใด ส่วนใหญ่ร้อยละ 56.8 ระบุว่า แม่ที่เป็นเหมือนเพื่อนคุยได้ทุกเรื่องเข้าใจทุกอย่าง รองลงมาร้อยละ 18.1 ระบุว่า ปล่อยให้ลูกคิดเอง เลือกเอง ตัดสินใจเอง และร้อยละ 6.1 ระบุว่า ไม่จู้จี้ขี้บ่น สำหรับเรื่องที่เป็นห่วงและวิตกกังวลเกี่ยวกับแม่มากที่สุดจากสภาพสังคมในปัจจุบัน ร้อยละ 84.7 ระบุว่า เรื่องปัญหาสุขภาพร่างกายของแม่ รองลงมาร้อยละ 47.0 ระบุว่า เรื่องโรคระบาดต่างๆ เช่น โควิด-19 ไข้หวัดใหญ่ และร้อยละ 24.4 ระบุว่า เรื่องแม่ทำงานหนัก พักผ่อนน้อย