เข้ามาเสริมทัพให้อาณาจักรของครอบครัวแข็งแกร่งขึ้น ศุภชัย รัตนโอภาส ทายาทรุ่นที่ 3 ของ เอ-วัน กรุ๊ป (A-ONE GROUP) ที่สยายปีกสู่ธุรกิจโรงแรมระดับชั้นนำ ท่ามกลางความท้าทายของการเปลี่ยนแปลง
ศุภชัย รัตนโอภาส หรือ คุณอี้ ทายาทคนที่ 2 ของ สมชัย-ศุภวรรณ รัตนโอภาส ปัจจุบันรั้งตำแหน่งผู้ช่วยประธานบริหารกลุ่มบริษัทเอ-วัน และ กรรมการผู้จัดการโรงแรมมิตร์บีช พัทยา ที่เข้ามาดูแลด้านการตลาดของอาณาจักรเอ-วัน เคียงข้างคุณพ่อ เล่าถึงเส้นทางการทำงานว่า ตนมีความสนใจทางด้านดนตรี แต่ด้วยความที่เห็นภาพคุณปู่มิตร์ รัตนโอภาส และคุณพ่อ ทำงานอย่างทุ่มเทตั้งแต่เด็ก เลยได้ซึมซับวิธีคิด และพอถึงจุดที่ต้องเลือกว่าจะเดินไปในเส้นทางไหน ในฐานะลูกชายโตก็เลยตัดสินใจเรียนในสิ่งที่นำมาบริหารงานต่อได้ โดยสอบติดคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาฯ และต่อปริญญาโทด้านการโรงแรม ที่ Glion institute of Higher Education ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ส่วนดนตรีก็เป็นงานอดิเรกและนำมาเป็นหัวใจหลักของการพัฒนาภาพลักษณ์และบริการของโรงแรม ซึ่งเมื่อเรียนจบปริญญาโท ก็ตั้งใจสั่งสมประสบการณ์ทำงานก่อน เพื่อเป็นแนวทางในการมาปรับใช้กับธุรกิจของครอบครัว โดยเฉพาะในโรงแรมใหญ่ อย่าง ริทซ์ คาร์ลตัน สิงคโปร์ ทำให้มองเห็นมุมมองที่ต่างออกไปจากรูปแบบการเดิม

...
“การบริหารโรงแรมแบบเดิม เราเน้นกลุ่มลูกค้าหลักเป็นทัวร์ ซึ่งอาจไม่มีความยั่งยืน ผมจึงมีความคิดที่จะปลุกปั้นโรงแรมใหม่ขึ้นมา วางตำแหน่งเป็นโรงแรมที่มีความเป็น Art and entertainment เป้าหมายหลักของโรงแรมในอุดมคตินี้ เน้นกลุ่มคู่รัก ก๊วนเพื่อน หรือคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูง จึงเป็นที่มาของ “โรงแรมมิตร์บีช พัทยา” (MYTT Beach Pattaya Hotel) หรูหราระดับ 5 ดาว ภายใต้คอนเซปต์ Entertainment ที่เป็นแนว Music and Lifestyle และมีร้าน “Pippa” ร้านอาหาร Rooftop Bar ชั้น 19 ที่มีจุดขายอยู่ที่วิวพาโนราม่าของทะเลพัทยา ชมพระอาทิตย์ตกดิน แบ่งโซนทั้ง Indoor-Outdoor และมีโซนห้องไพรเวทไว้สำหรับ Private Party ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ในมิติของบรรยากาศ และรสชาติอาหารที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว” คุณอี้เล่าถึงโครงการที่ภูมิใจ
นอกจากจะมารับไม้ต่อทางธุรกิจจากครอบครัวแล้ว ผู้บริหารคนนี้ยังรับแนวคิดคำสอนที่ส่งต่อจากรุ่นมาสู่รุ่นอีกด้วย โดยบอกว่า คุณพ่อกับคุณย่าจะสอนเสมอว่าบางครั้งเราก็ต้องรู้จักรอ และตนก็เห็นด้วยว่าการรอเป็นสิ่งสำคัญมากในยุคนี้ เพราะพอทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากๆ ซึ่งหากทำอะไรตามเทรนด์มากเกินไปความผิดพลาดก็เยอะขึ้นตามไปด้วย ตนนำคำสอนเหล่านี้มาปรับใช้กับสถานการณ์โควิด-19 การท่องเที่ยวทั่วโลกหยุดชะงัก ก็เลยเป็นโอกาสที่ทำให้หันมาดูจุดแข็ง จุดอ่อนของเรา และพัฒนาจุดแข็งให้แข็งแกร่งขึ้น ปรับปรุงจุดอ่อนให้กลายเป็นจุดแข็งให้ได้ เพราะเรามีเป้าหมาย คือกลุ่มโรมแรมเอ-วัน พัทยา ต้องเป็น Lifestyle Destination ของคนทุกรุ่น
“ในการทำงาน ทรัพยากรมนุษย์ หรือคนที่จะมาขับเคลื่อนถือเป็นหัวใจสำคัญ ซึ่งผมเองอาจจะยังไม่เก่งกาจเรื่องนี้ จึงพยายามเรียนรู้จากคุณพ่อต้นแบบชั้นดีในการทำงานและบริหารคน โดยคุณพ่อจะคอยแนะแนวทางพร้อมวิธีคิดอย่างเป็นระบบให้ ซึ่งต้องใช้เวลาในการเรียนรู้เพื่อเข้าใจเทคนิคการบริหารจัดการคนได้อย่างมีประสิทธิภาพ โรงแรมเราไม่ใช่ Chain Hotels เราเป็นแฟมิลี่ ซึ่งเราก็ชัดเจนที่จุดยืนของเราที่ว่า เราเป็นองค์กรเชิงแฟมิลี่มากๆเราก็พร้อมที่จะดูแลพวกคุณในแบบของเรา ตัวผมเองเหมือนอยู่ในครอบครัวใหญ่ที่ไม่ใช่มุ่งหวังจะพัฒนาโรงแรมให้ถึง 20 สาขา แต่อยากให้พื้นที่ตรงนี้มีความมั่นคงด้วยตัวของมัน และนำแนวคิดของคนรุ่นบุกเบิกมาผสมผสานกับแนวคิดสมัยใหม่ เพื่อให้การบริหารงานมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดครับ”...ชุดความคิดของนักธุรกิจหนุ่มไฟแรงคนนี้.