คนรุ่นผมเด็กๆจำแนกให้เป็นพวกเบบี้บูม เป็นรุ่นเกิดรุ่นหลังสงคราม เป็นลูกชาวบ้านยากจน แก้ผ้าโทงๆวิ่งเล่นไปวันๆ เรียนหนังสือรู้เรื่องสงครามบ้างก็งูๆปลาๆวันนี้มีอารมณ์อยากรู้เรื่องสงคราม เปิดนามานุกรมประวัติศาสตร์ไทย ร.ศ.ดนัย ไชยโยธา ย่อไว้ให้อ่านสั้นๆเริ่มที่สงคราม พ.ศ.2310 ที่จริงพม่าตั้งใจจะปล้นเอาผู้คน เสบียงอาหาร ทรัพย์สิน แถวๆเมืองเหนือของไทย เอาไปใช้เป็นกำลังตั้งท่ารบกับจีนเท่านั้นพอเริ่มๆรุกเข้ามา ก็พบว่าไทยเราบ้อท่ามาก เจาะเอาเมือง เมืองไหนก็ง่ายๆ พม่าได้ใจ ใช้เวลาล้อมอยู่แค่ 1 ปี 2 เดือน รุกเข้ายึดกรุงศรีอยุธยาไปเฉยเลยพ.ศ.2328 พม่ามาอีก พระเจ้าปดุงทำสงครามเก้าทัพ แต่ละทัพมาจากทุกทิศทุกทาง ดังต่อไปนี้ทัพที่ 1 มีทั้งทัพบกทัพเรือ ทัพบกตีตั้งแต่เมืองชุมพรลงไปถึงสงขลา ทัพเรือตีหัวเมืองชายฝั่งทะเลตะวันตก ตั้งแต่เมืองตะกั่วป่าลงไปถึงเมืองถลาง เมืองเหล่านี้มีหน้าที่หาเสบียงอาหารให้กองทัพทัพที่ 2 เริ่มเดินทัพที่เมืองทวายเข้ามาทางด่านบ้องตี้ ตีเมืองราชบุรี เพชรบุรี ไปบรรจบกับทัพที่ 1 ที่ชุมพรทัพที่ 3 เข้าทางเชียงแสน ตีลำปาง สวรรคโลก สุโขทัย นครสวรรค์ ลงมาบรรจบที่กรุงเทพฯทัพที่ 4 เริ่มที่เมาะตะมะ รุกเข้าไทยก่อน แล้วให้ทัพที่ 5-6-7-8 เดินทัพหนุนตามมาตามลำดับ ทางด่านพระเจดีย์สามองค์ ลงมาตีกรุงเทพฯ ทัพที่ 9 ตีหัวเมืองเหนือริมฝั่งแม่น้ำปิง ตั้งแต่ตาก กำแพงเพชร ลงมากรุงเทพฯฝ่ายไทย พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ท่านได้บทเรียนคราวเสียกรุง ไม่ตั้งทัพรับที่เมืองหลวง จัดสี่กองทัพ แยกกันชิงบุกทัพพม่าก่อนทัพที่ 1 กรมพระราชวังบวรฯ รับผิดชอบด้านตะวันตก ยกทัพไทย ทัพใหญ่ที่สุดไปโจมตีพม่าที่ด่านพระเจดีย์สามองค์ วังหน้าทรงคาดว่าพระเจ้าปดุง แม่ทัพใหญ่พม่า จะคุมกองทัพหลวงมาด้วยพระองค์เองทัพที่ 2 กรมพระราชวังหลัง รับผิดชอบทางเหนือ สกัดทัพพม่าที่นครสวรรค์ ทัพที่ 3 เจ้าพระยาธรรมา (บุญรอด) ร่วมกับเจ้าพระยายมราช โจมตีพม่าที่จะมาทางใต้และด่านบ้องตี้ทัพที่ 4 พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ทรงเป็นแม่ทัพหลวง ตั้งมั่นอยู่กรุงเทพฯ มีหน้าที่เป็นทัพหนุน ศึกหนักด้านใดก็จะยกไปช่วยด้านนั้นแม้ทัพไทยจะมีกำลังน้อยกว่า แต่มีผู้นำที่ดีมีความสามารถ ทหารไทยมีกำลังใจเข้มแข็งในการสู้รบ ทั้งยังมีประสบการณ์จากการ กู้ชาติครั้งพระเจ้ากรุงธนบุรี จึงสามารถตีเก้าทัพพม่าแตกพ่ายไปในที่สุดเหตุพม่าปราชัยในสงครามเก้าทัพ พระเจ้าปดุงอัปยศอดสูนัก วางแผนสงครามครั้งใหม่ ด้วยยุทธวิธีใหม่พ.ศ.2329 พระเจ้าปดุง เป็นแม่ทัพใหญ่ยกมาทางด่านพระเจดีย์สามองค์ทางเดียว สร้างยุ้งฉางสะสมเสบียงอาหาร ตั้งค่ายถาวรเป็นระยะๆจากท่าดินแดงถึงสามสบ ขุดคูปักขวากแน่นหนา ชักปีกกาถึงกันแผนพระเจ้าปดุง พักบำรุงขวัญไพร่พลจนกล้าแข็งแล้ว ก็จะตรงเข้าตีกรุงเทพฯจุดเดียวแต่ผิดคาดฝ่ายไทยไม่รั้งรอ พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ ทรงเป็นแม่ทัพหลวง กรมพระราชวังบวรฯ เป็นแม่ทัพหน้า นำสองทัพพร้อมกันไปตีค่ายพม่า แตกพ่ายในเวลาเพียงสามวันจับเชลย ยึดยานพาหนะ เสบียงอาหาร ศัสตราวุธได้เป็นจำนวนมาก นับเป็นชัยชนะพม่าขั้นเบ็ดเสร็จเด็ดขาดผมอ่านประวัติศาสตร์สงครามไทยพม่า แล้วรู้สึกคึกมาก! ตะโกน ไชโย้ ไชโย อึงในใจ วีรกรรมกษัตริย์ไทย คงเป็นแบบอย่างให้ผู้นำไทยรุ่นต่อๆมา จนถึงรุ่นปัจจุบัน ได้ฮึกเหิม...ตามมองไปทั้งโลกมองรอบบ้านถึงเมืองเรา...รุนแรงกว่าครั้งสงครามเก้าทัพ ผมว่าผู้นำเราฉลาดและกล้าหาญพอ จะพาพวกเราเอาตัวรอดไปด้วยกันใครที่คิดว่าเก่งกว่า...ผมเฉยๆ ผมเชื่อแบบผมว่าการเปลี่ยนม้ากลางศึก...ยังไม่ควร.กิเลน ประลองเชิง