หนังสือสำหรับเด็ก “ตัวไหนไม่มีหัว” (สองขา เขียน สำนักพิมพ์แฟมิลีคลับ 2564) หนังสือต้องห้ามของรัฐมนตรี แต่สำหรับผม เด็กควรอ่านให้มากๆทั้งสนุก ให้แง่คิด ให้สาระ ในปกหน้ามีเรื่อง แกะรอย ก ไก่ เอนก นาวิกมูล เขียนให้สำนักพิมพ์สารคดี ปี 2536นี่คือความรู้ เรื่อง ก.ไก่ ที่เด็กๆไม่ว่ารุ่นไหน ควรรู้ ควรทบทวนไปด้วยกันหนังสือสมัยก่อน เช่น จินดามณี ตัว ก ข ค ไม่มีชื่อเรียกกำกับ (ไม่ได้เรียก ก ไก่ ข ไข่ ค ควาย)พ.ศ.2378 มีการเล่นหวยครั้งแรกในสยาม โดยชาวจีนชื่อหง ซึ่งเห็นว่าคนไทยส่วนมากไม่รู้หนังสือ พูดภาษาจีนไม่ได้ จึงคิดตัวหวย เพื่อให้จำได้ง่ายๆ โดยนำตัวอักษรไทยบวกกับตัวละครในตำนาน หรือนิทานของจีนเช่น ก สามหวย ข ง่วยโป๊ ง เจียมขวย ค เม่งจู จนถึง ฮ เจี่ยสูน มีทั้งหมด 36 ตัวพ.ศ.2453 ฟ.ฮีแลร์ พิมพ์หนังสือดรุณศึกษา เพื่อเป็นแบบเรียนให้นักเรียนอัสสัมชัญ โดยเพิ่มชื่อเรียกตัวอักษรหลายตัว นับเป็นครั้งแรก ที่ตัว ก ข มีชื่อกำกับครบ 44 ตัว บางตัวชื่อเรียกต่าง เช่น ฑ มลฑล ณ ธรณี บ บัว ป เปิด อ อ้อพ.ศ.2458 โรงพิมพ์วัดเกาะ พิมพ์หนังสือมูลบทบรรพกิจครั้งใหม่ โดยมีการเปลี่ยนคำกำกับ ก ข เช่น ก กบ ข เขียด ฃ ฃาคน ค เคียวพ.ศ.2472 ครูย้วน ทันนิเทศ แต่งกลอน ก เอ๋ย ก ไก่ ข ไข่มาหา ฃ ฃวดน้องชาย ค ควายเข้ามา ค คนโสภา จนถึง ฮ นกฮูก ลงในแบบเรียนไว ครั้งที่ 1 นับเป็นกลอน ก ไก่ คล้องจองสำนวนแรกพ.ศ.2490 บริษัทประชาช่าง พิมพ์หนังสือกลอน ก ไก่ แบบใหม่ เริ่มด้วย ก เอ๋ย กไก่ ข ไข่ในเล้า ฃ ฃวดของเรา ค ควายเข้านา จนถึง ฮ นกฮูกตาโต และใช้ภาพประกอบที่เป็นภาพถ่ายจากของจริงทั้งหมดนับเป็น ก ไก่ที่ได้รับความนิยมแพร่หลาย และเป็นที่จดจำมากที่สุดมาจนถึงทุกวันนี้ยังมีกลอน ก ไก่อีกหลายสำนวน อาจต่างกันบ้าง มีจุดประสงค์เดียวกัน เพื่อให้จำง่ายๆ เด็กๆจะได้เรียนภาษาไทยอย่างสนุกทีนี้ ก็ต้องลองทบทวนตัวเอง ผมเข้าเรียนชั้น ป.เตรียม ปี 2496 จำได้คล่องปาก ก เอ๋ย ก ไก่ ข ไข่ในเล้า แน่นอน เป็นสำนวนหนังสือของโรงพิมพ์ประชาช่างถามเพื่อนรุ่นน้องสองคน ก็จำได้เหมือนกัน ถามสาวใกล้ตัว เรียนโรงเรียนชื่อฝรั่ง ใช้แบบเรียน ดรุณศึกษา ก็บอกว่า ข ไข่ในเล้า ฃ ฃวดของเรา แสดงว่าครูไม่ได้ใช้ สำนวน ก ไก่ของ ภราดา ฟ.ฮีแลร์ท้ายหนังสือเล่ม ตัวไหนไม่มีหัว มี ก.ไก่คำกลอน สำนวนใหม่ ผมเดาว่าเป็นสำนวนล่าสุด...เริ่มแต่ ก เอ๋ย กไก่ ข ไข่มากมาย ไปถึง ท.ทหาร อดทน ที่เด็กรุ่นผมจำแม่น สำนวนใหม่ ไม่หวือหวา ว่า ท ทหารมีวินัยพอถึง ว แหวน ลงยา สำนวนเก่า สำนวนใหม่ ว แหวน แม่ให้มา นี่คือเรื่องที่เกิดไม่นาน สี่ห้าปีนี่เอง พลเอกประวิตร นั่งถ่ายรูปหน้าทำเนียบกับ ครม.ประกายแว่บของน้ำเพชร กระทบตานักข่าวมีการสืบสาว บิ๊กป้อม ท่านบอกซื่อๆ แหวนแม่ให้ เพชรเม็ดนิดเดียวเองผมชอบมาก ตรง ฉ ฉิ่ง ตีดัง สำนวนเก่าครับ สำนวนใหม่ ฉ ฉิ่ง ฉับฉ่าง ส่งลูกไปคล้องจอง กับ ช ช้าง งาขาวตามข่าวการตั้งพรรคใหม่ของปลัดฉิ่ง ฉัตรชัย พรหมเลิศ ซึ่งก็ตีปี๊บกันมานาน ให้รู้กันว่า นี่คือพรรคสำรองของนายกฯประยุทธ์ หากเกิดกรณีเจ้าของพรรค เขาเกิดไม่ชอบใจ ผลักไสไล่ส่งเพื่อนคนหนึ่งกระซิบฝาก ให้ช่วยเขียนถึงปลัดฉิ่งบ้าง ผมก็ถือโอกาสนี้สนองน้ำใจ เท่าที่ฟังๆจากนักการเมืองด้วยกัน เขาเห็นตัวเลขเงินฝากแบงก์ มีแค่ 37 ล้าน ก็บ่นกันพึม มีแค่นี้เอาไปยาอะไรกันพอจับความได้ ครั้งนี้ เห็นทีปลัด ฉ ฉิ่ง จะตีไม่ดัง ชั่งน้ำหนักกับ ว แหวนแม่ให้มา แล้วเทียบกันไม่ได้วัดกันด้วยบารมี ก็แค่นาฬิกาข้อมือ เรือนละเป็นสิบๆล้าน เพื่อนก็ยังให้ยืมหลายเรือน แวดวงบู๊ลิ้ม เอ๊ย การเมือง คนมีพวกมาก เพื่อนมาก มักเป็นผู้ชนะมากกว่าเป็นผู้แพ้.กิเลน ประลองเชิง