เรื่องของพระป่าพระบ้าน พระธรรมยุต พระมหานิกาย เหมือนหรือต่างกันอย่างไร ชาววัดรุ่นผมพอเข้าใจ เรื่องอึ้งของผม ก็คือเอาเข้าจริงๆแล้ว ยังมีชาวบ้านไม่น้อย ดูเหมือนไม่รู้เอาเลย

ผู้ใหญ่บ้านเมือง ฝ่ายตุลาการ เคยปรารภให้ฟัง...ไปบวชพระถึงวัดในพุทธคยา ย้ายจากอินเดียมาจำวัดในไทย...วัดนั้น...ขอให้เข้าโบสถ์ “บวชใหม่”

ร่ำเรียนเขียนอ่านวิชากฎหมายมาตั้งแต่หนุ่มยันแก่ ก้าวหน้าเป็นระดับ “ประธาน” เพิ่งรู้เอาตอนนั้น...วัดที่เคยเข้าไปทำบุญ พระองค์ที่โกนหัวห่มเหลือง วัตรปฏิบัติงามๆ ที่ท่านเคยกราบไหว้ มีกฎกติกา ไม่เหมือนกัน

ผมทบทวนตัวเอง ตั้งตัวเป็น “เด็กวัดเก่า” รู้จักพระ แค่ไหน...เอาเข้าจริง ก็ยังงงๆอยู่เหมือนกัน

บ้านผมอยู่แม่กลอง ออกจากโรงเรียนแม่เอาไปฝาก “หลวงน้าช่วย” บวชเป็นเณรอยู่วัดเขาย้อย เพชรบุรี วัดนี้เป็นมหานิกาย แต่วัตรปฏิบัติเคร่งกว่า

พระฉันกาแฟดำ ไม่ใส่นม ใช้ธัมกรก กรองน้ำจากตุ่ม “หลวงน้า” มีกำหนดเวลาตรวจกุฏิพระ วันหนึ่งเรียกหลวงพี่สุธน...เข้าไป บอกที่เก็บผลไม้ (ค้างคืน) ไว้ ผลนั้นๆ เมื่อฉันจะเป็นอาบัติทุกคำกลืน

เณรน้องใหม่ได้ยินก็อึ้ง! หลวงน้าท่านช่างเคร่งเอาถึงปานนั้น

หลวงน้าห่มจีวรสีเหลืองคล้ำแต่งามผิดแผกสีจีวรพระในวัด รู้เอาทีหลัง ท่านย้อมจีวรด้วยแก่นขนุน แบบโบราณขนานแท้

ราว พ.ศ.2500 หลวงน้าทิ้งวัดเขาน้อย ไปอบรมวิชา “กรรมฐาน” ที่วัดมหาธาตุกรุงเทพฯ กลับมาท่านก็ตั้งสำนักวิปัสสนา สอนทั้งพระเณร ทั้งญาติโยม

เรื่องที่ผมเล่า ล้วนแต่เป็นวัตรปฏิบัติแบบพระวัดป่า ไปทางพระธรรมยุต แต่ก็รู้ๆกัน วัดนี้เป็นมหานิกาย ผมทำความเข้าใจใหม่ ไม่ว่านิกาย หรือพระบ้านพระป่า อยู่ที่วัตรปฏิบัติของพระท่านเอง ไม่ได้อยู่ที่สังกัด

...

อ่านหนังสือมากขึ้น จำเรื่องสมเด็จฯวัดใหญ่กลางกรุงรูปหนึ่ง... ท่านใช้ชุดชงชา...น่าจะเป็นของถวาย เวลาสามเณรหรือเด็กวัดจะเอาไปล้าง ท่านก็มักกำชับให้เบามือ! ชุดชงชานั้น เป็นลายครามจีน เก่าแท้สมัยเหม็ง

ศิษย์ทุกรุ่น ถ่ายทอดคำเตือนต่อๆมา สมเด็จท่านหวงชุดชงชา ต้องช่วยกันระวัง!

แล้วก็ถึงวันนั้น...เสียงชุดชงชา หล่นดัง “เพล้ง” คนทำหล่นใจคอหาย เรื่องใหญ่ระดับฟ้าผ่า คงจะตามมาแล้ว

“แตกไหม?” สมเด็จถาม “แตกครับ หลวงพ่อ” เสียงเด็กตอบ ใจคอจะขาดเสียให้ได้

“เออ!โล่งใจ หมดห่วงไปที” เสียงจากสมเด็จ พลิกความคาดหมาย

เรื่องนี้มีคนเอามาขยาย สมเด็จฯท่านบรรลุถึงขั้น “ปล่อยวาง” ว่างจากการ “ยึดติดความเป็น ตัวกู ของกู”

ผมใช้เรื่องนี้เป็นแนวทางเลือกกราบพระได้หลายองค์ นี่ก็เพิ่งรวมเอามหาสมปองเข้าไปอีกองค์

ตอนท่านบอกโยมศรีสุวรรณ ที่ตั้งข้อหาเป็นพระไม่สำรวม... ว่า ขอให้อาตมาไปฉันกาแฟกับโยมที่บ้านสักครั้ง เผื่อเห็นหน้าตา จะเกิดความรู้สึกดีๆต่อกัน โยมตอบรับ จะฉันเช้าเพลกี่มื้อเต็มใจถวาย

ผมเห็นอานิสงส์ความเมตตา ระหว่างพระกับโยมสว่างไสว

ที่เห็นมากก็คือเพิ่มระดับความนับถือมหาสมปอง พระองค์นี้ ใช้ได้ เจอคลื่นลมแรงแค่ไหน ไม่เคยหลุดจากวิสัย แพ้เป็นพระ... ให้ผมเห็นสักครั้ง

ส่วนเรื่องพระเจ้าคณะจังหวัดที่ถูกปลด ผมยังไม่ได้ยินองค์ไหน ยิ้มขอบใจมหาเถรสมาคม...ช่วยปลดภาระ (ปกครอง) ซึ่งเป็นงานหนัก ให้ท่านมีเวลานั่งหลับตาภาวนาเต็มที่

ถ้าได้ยิน ผมจะตามไปกราบ จะเป็นพระบ้านพระป่า... ถ้าละวางเรื่องยศช้าง ขุนนางพระได้ ผมถือเป็นพระแท้ กราบได้สนิทใจทุกองค์.

กิเลน ประลองเชิง