ร่วมร่างแบบพิมพ์เขียวนักสืบนครบาลเมื่อ 20 กว่าปีก่อนหลักสูตรสืบสวนคดีอาญารุ่นพิเศษ ตามแนวคิดของ พล.ต.ท.โสภณ วาราชนนท์ สมัยคุมทัพตำรวจเมืองหลวง มอบให้ พ.ต.ท.ปรีชา ธิมามนตรี รอง ผกก.สส.น.เหนือ ขณะนั้น บ่มเพาะ 30 นักสืบดาวรุ่งต้นแบบ เพื่อรองรับการเปลี่ยนโครงสร้าง บช.น.
พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ดำรงตำแหน่งรอง ผกก.ข่าว บช.น. อยู่ในคณะทำงานเป็นอาจารย์ “ถ่ายทอด” วิชาทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติในสนามจริง
ก่อนที่หลายคนจะแตกฉานซ่านเซ็น หลุดเวย์ ไปคนละทิศคนละทาง แม้กระทั่ง “ผู้เป็นอาจารย์” ขาดนายหนุนนำ กลายเป็นชะตากรรมให้เหล่า 30 นักสืบดาวรุ่งต้นแบบ แทบละลายหายไปจากยุทธจักร
เมื่อ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ขึ้นคุมบัลลังก์ ผู้นำสูงสุด ถึงพยายามปลุกฟื้นคืนซาก “ลูกศิษย์” ขึ้นสู่เส้นทางความเจริญก้าวหน้าอีกครั้ง อาทิ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ เป็น ผบก.ภ.จ.ยะลา พล.ต.ต.โสภณ สารพัฒน์ เป็น ผบก.น.5
เที่ยวนี้ยังผลักดัน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผบก.สส.ภ.7 คืนสำนักเก่าเป็น ผบก.สส.บช.น. มี พ.ต.อ.ประพันธ์ศักดิ์ ประสานสุข รอง ผบก.อก.ตม. ขึ้นเป็น ผบก.ตม.6
ส่วน พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 “ศิษย์รัก” ที่ฟูมฟักสอนตำราต่อสมัยอยู่ กก.สส.บก.น. 2 เสนอเลื่อนเป็น ผบก.สส.ภ.2 ไปปัดกวาดอิทธิพลพื้นที่ทะเลทองชายฝั่งภาคตะวันออกที่เป็นปัญหาหมักหมมมานาน
ทั้งคู่มีตำนานเล่าขานระหว่าง “อาจารย์” กับ “ลูกศิษย์” เมื่อครั้งลงสนามไล่กวดจับ มังกรจีน ฆ่าโหดหั่นศพยัดตู้เย็น ถึงขั้นโดนคนร้ายแย่งปืนสาดกระสุนใส่ทะลุมือ เศษกระสุนยังกระเด็นใส่จมูก เฉียดตายกันมาแล้ว
เป็นเหตุให้เกิด วิสามัญฆาตกรรม คารถแท็กซี่ใจกลางกรุง
...
ทำให้เขาไว้วางใจเลือกใช้งาน “ศิษย์รัก” อย่างไม่ต้องสงสัย.
สหบาท