หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวน บช.ก. เรียกประชุมทีมคลี่คลายคดี ขบวนการแก้ไขข้อมูลผู้ฉีดวัคซีน นำไปขายให้ประชาชนนัดแรกแล้ว คดีคืบหน้าพอสมควร สั่งการเพิ่มเพื่อหาข้อมูลที่ชัดเจน ส่งทีมไซเบอร์ บก.ปอท. ประสาน สธ.ขอตรวจสอบข้อมูลจากเซิร์ฟเวอร์ใหญ่ เพื่อหาหลักฐานมัดคนยัดรายชื่อผู้ซื้อวัคซีน แต่ได้รับ การปฏิเสธ อ้างว่าเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างกักตัว พร้อมเชิญรอง ผอ.ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อมาสอบปากคำ ฐานะคนแจ้งความร้องทุกข์ เพื่อขอรายละเอียดหลักฐานคดีที่เกิดขึ้นทั้งหมด อีกด้านติดต่อเรียกตัว ผู้ซื้อวัคซีนมาให้ปากคำ พร้อมให้นำหลักฐานการติดต่อซื้อวัคซีนทั้งหมดมามอบให้ตำรวจ เตือนขอให้ เดินทางมาให้ปากคำแต่โดยดี

กรณีนางศิริลักษณ์ อุบลเหนือ รองผู้อำนวยการศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สน.นพวงศ์ ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเข้าไปแก้ไขข้อมูลการลงทะเบียนรับวัคซีนโควิด-19 โดยมิชอบ เพื่อเรียกรับผลประโยชน์จากประชาชนที่มีความประสงค์รับวัคซีนโควิด-19 ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อ

ความคืบหน้าจากกองบัญชาการตำรวจ สอบสวน กลาง (บช.ก.) เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 2 ส.ค. พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รอง ผบช.ก. ฐานะหัวหน้าชุดคณะทำงาน เรียกประชุมชุดคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนคดีสวมสิทธิ์ฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. พล.ต.ต.ไพบูลย์เผยว่า เรียกประชุมคณะทำงานทั้งหมดเพื่อวางกรอบแนวทางการทำงาน และเอางานที่ไปทำมาตั้งแต่วันที่ 29 ก.ค. มาดูภาพรวมว่ายังขาดอะไรตรงไหน จะทำทุกมิติจากล่างไปบน จากบนลงล่าง เพื่อให้ได้รายละเอียดมากที่สุด ตอนนี้ยังเร็วไป ยังไม่สามารถบอกอะไรได้มาก ที่ประชุมสรุปจะให้กองปราบปรามไปสอบปากคำผู้ร้องอย่างละเอียดอีกครั้ง รวมทั้งให้ บก.ปอท.ไปตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องคอมพิวเตอร์ต้นทางแล้ว จากนั้นอีก 2 วันจะเรียกมาดูความคืบหน้าอีกครั้ง

...

รายงานข่าวแจ้งว่า ขณะนี้ชุดสืบสวน บก.ปอท. ไปขอตรวจสอบเซิร์ฟเวอร์ใหญ่ต้นทางที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อตรวจสอบว่ามีข้อมูลความผิดปกติอย่างไร แต่ได้รับคำตอบว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างกักตัวยังไม่สามารถให้เข้าไปตรวจสอบได้ นอกจากนี้ พนักงานสอบสวน บก.รฟ.กำลังรอรายชื่อผู้สวมสิทธิ์ฉีดวัคซีนทั้งหมดจากสถานีกลางบางซื่อ เพื่อติดตามตัวมาสอบปากคำเข้าสำนวนการสอบสวน ส่วนชุดสืบสวนอยู่ระหว่างขยายผลหาความเชื่อมโยง เร่งตรวจสอบฐานรายชื่อข้อมูลของผู้สวมสิทธิ์ ที่จากการตรวจสอบทางเทคนิคพบว่า มีการเพิ่มรายชื่อฉีดวัคซีนในคราวเดียว ส่วนนี้จะนำรายชื่อที่ปรากฏว่าสวมสิทธิ์มาจำแนก ก่อนให้พนักงานสอบสวนเรียกตัวมาสอบปากคำว่าชื่อไปปรากฏได้อย่างไร ขณะเดียวกันกำลังตรวจสอบเส้นทางการเงินค่าวัคซีนที่เข้าไปในบัญชีธนาคาร 5 บัญชีว่าเกี่ยวข้องกับบุคคลใดบ้าง

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) วันเดียวกัน พ.ต.อ.ศิริวัฒน์ ดีพอ รองโฆษก ตร. เผยว่า ตามที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) มีคำสั่งที่ 152/2564 เรื่องแต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ลงวันที่ 30 ก.ค. ให้ พล.ต.ต.ไพบูลย์ น้อยหุ่น รอง ผบช.ก.เป็นหัวหน้าคณะ มีตำรวจกองบังคับการปราบปราม (บก.ป.) กองบังคับการตำรวจรถไฟ (บก.รฟ.) และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บก.ปอท.) เป็นพนักงานสืบสวนสอบสวน วันนี้ (2 ส.ค.) พล.ต.ต.ไพบูลย์เรียกประชุมคณะพนักงานสืบสวนสอบสวนตามคำสั่งดังกล่าว เพื่อรวบรวมรายละเอียดข้อเท็จจริง เอกสาร คำให้การผู้เกี่ยวข้อง ตลอดจนพยานหลักฐานทางอิเล็กทรอนิกส์ที่ได้จากการสืบสวนสอบสวน และข้อมูลของกรมการแพทย์และบริษัทที่เกี่ยวข้อง

“พบความผิดปกติของข้อมูลการลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 ในหลายส่วน เช่น พบว่ามีการลงข้อมูลที่ผิดปกติช่วงนอกวัน-เวลาทำการของเจ้าหน้าที่ (หลังเวลา 20.00 น.) การลงข้อมูลต้องใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ที่ติดตั้งโปรแกรมเฉพาะของกรมการแพทย์ ที่ตั้งอยู่ ณ ศูนย์ฉีดวัคซีนกลางบางซื่อเท่านั้น และพบว่ามีการลงข้อมูลจำนวนมากในวันและเวลาเดียวกันทั้งหมด อีกทั้งพบว่ามีการแก้ไขข้อมูลบัญชีผู้ใช้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นต้น คณะพนักงานสืบสวนสอบสวนจะนำข้อเท็จจริงที่ปรากฏไปตรวจสอบ เรียกผู้มีส่วนเกี่ยวข้องมาสอบสวนเพื่อหาตัวกลุ่มบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมาดำเนินคดี หากบุคคลใดได้รับการติดต่อให้มาพบ ขอให้มาตามนัด พร้อมทั้งนำพยานหลักฐานหรือข้อมูลที่เกี่ยวข้องมามอบให้พนักงานสอบสวนด้วย” รองโฆษก ตร.กล่าว

พ.ต.อ.ศิริวัฒน์กล่าวด้วยว่า พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. กำชับคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน ดำเนินการตามกระบวนการทางกฎหมายด้วยความรอบคอบ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ เพื่อนำตัวผู้กระทำความผิดและผู้ที่เกี่ยวข้องทุกรายมาดำเนินคดีตามกฎหมาย สร้างความเชื่อมั่นให้พี่น้องประชาชนว่าจะได้รับความเท่าเทียมในการรับวัคซีน สุดท้ายนี้ ฝากเตือนไปยังพี่น้องประชาชน หากพบว่ามีบุคคลใดแอบอ้างหรือเรียกรับผลประโยชน์ อ้างว่าสามารถช่วยเหลือในการลงทะเบียนรับวัคซีนเป็นกรณีพิเศษอย่าหลงเชื่อ