ความเคลื่อนไหวหลังผ่อนคลายกิจกรรมในระยะที่ 4 ซึ่งรัฐบาลยังคงต้องควบคุมเพื่อไม่ให้เชื้อไวรัสโควิด-19 กลับมาระบาดหนักอีกรอบ พล.ต.ท.ปิยะ อุทาโย ผู้ช่วย ผบ.ตร. และโฆษก ตร. ในฐานะรองผู้อำนวยการ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ บอกว่าตามที่คณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้ผ่อนคลายกิจการและกิจกรรมในระยะที่ 4

ยกเลิกการห้ามออกนอกเคหสถาน หรือ “เคอร์ฟิว” ตั้งแต่วันที่ 15 มิ.ย.รวมถึงอนุญาตให้มีการจำหน่ายสุราและเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านอาหารได้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ตระหนักถึงภารกิจของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ในการดูแลความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินให้แก่ประชาชน

และเพื่อเป็นการให้ข้าราชการตำรวจทั่วประเทศได้เตรียมความพร้อมสำหรับการปฏิบัติหน้าที่สนับสนุนการป้องกันและลดการแพร่ระบาดของเชื้อโรค ให้สอดคล้องกับการผ่อนคลายกิจการ

ตำรวจต้องรับมือกิจกรรมในระยะที่ 4

ผบ.ตร. มีวิทยุในราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ด่วนที่สุดลงวันที่ 12 มิ.ย.ไปยังตำรวจทุกหน่วยทั่วประเทศ ให้ทุกหน่วยดำเนินการ 1.ดำรงความต่อเนื่องในการบังคับใช้กฎหมายเพื่อป้องกันปราบปรามอาชญากรรมทุกรูปแบบ โดยเฉพาะอาชญากรรมที่เป็นการซ้ำเติมประชาชน เช่น การประทุษร้ายต่อชีวิตและทรัพย์สิน การกู้ยืมเงินโดยมีอัตราดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หรือการหลอกลวงผ่านสื่อสังคมออนไลน์

2.เพิ่มความเข้มตั้งจุดตรวจจุดสกัดและกวดขันจับกุมอาชญากรรมที่กระทบต่อชีวิตประจำวันและความสงบสุขของประชาชนและสังคม เช่น การรวมกลุ่มแข่งรถในทาง การขับขี่รถขณะเมาสุรา ความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด การหลบหนีเข้าเมือง ความผิดเกี่ยวกับสถานบริการ หรือฝ่าฝืนข้อ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน

...

3.ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกตรวจกิจการกิจกรรมที่ได้รับการผ่อนคลายให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันโรคที่กำหนด ตามลำดับขั้น คือ 1.ประชาสัมพันธ์ 2.แนะนำตักเตือนปรับปรุงให้ถูกต้อง 3.ดำเนินคดี

หากไม่ปฏิบัติตามมีเจตนาฝ่าฝืน

ผบ.ตร. กำชับให้ผู้บังคับบัญชาทุกระดับกำชับตำรวจในสังกัดให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความสุภาพ และห้ามมิให้มีการเรียกรับผลประโยชน์เป็นอันขาด หากตรวจพบให้ดำเนินการทั้งทางวินัยและอาญาเฉียบขาดทุกราย

“ตำรวจไม่ได้ต้องการที่จะจับกุม ลงโทษ หรือเอาคนเข้าคุก เราเพียงมุ่งหวังให้ประเทศหลุดพ้นจากวิกฤติครั้งนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนโปรดให้ความร่วมมือในการปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนด เพราะเป็นสิ่งที่ทำให้ประเทศไทยสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อโรคได้” พล.ต.ท.ปิยะ ย้ำให้เห็นหน้าที่ของตำรวจที่ต้องทำ

เพราะไม่มีใครอยากให้โควิด-19 กลับมาอีก.

“เพลิงพยัคฆ์”
pluengpayak@thairath.co.th