เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ เปิดเผยถึงการเตรียมความพร้อมเปิดภาคเรียนในวันที่ 1 ก.ค.ว่า ขณะนี้ขอให้โรงเรียนทุกแห่งเตรียมความพร้อมตามมาตรการ และข้อปฏิบัติของกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) อย่างเคร่งครัด ซึ่งเห็นแล้วว่าเมื่อวันที่ 6-7 มิ.ย.ที่ผ่านมาเป็นการสอบคัดเลือกเข้าเรียนชั้น ม. 1 และ ม.4 ทั่วประเทศ โดยโรงเรียนขนาดใหญ่มีมาตรการคัดกรองโรคระบาดได้อย่างดีเยี่ยม รวมถึงจัดระบบเว้นระยะห่างทางสังคม หรือ Social Distancing ดังนั้น เชื่อว่าเมื่อเปิดภาคเรียนที่ 1 ในวันที่ 1 ก.ค.2563 โรงเรียนทุกแห่งจะมีความพร้อมอย่างเต็มที่ สำหรับเมื่อเปิดภาคเรียนแล้วโรงเรียนอาจจะต้องมีการจัดสลับวันเรียน และห้องเรียนไม่เกิน 20 คนต่อห้อง รวมถึงช่วงพักกลางวันก็ต้องบริหารจัดการเวลาที่เหมาะสม เพื่อหลีกเลี่ยงให้เด็กรวมตัวกันเป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ ได้มอบอำนาจผู้บริหารโรงเรียนตัดสินใจได้เองว่าจะบริหารจัดการการเปิดภาคเรียนวิถีใหม่แบบไหนอย่างไร
นายณัฏฐพลกล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ตนได้หารือกับนักการศึกษาของภาคเอกชน เพื่อวางแผนการขับเคลื่อนการศึกษาอย่างจริง เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็ฝากให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งผลักดันการปฏิรูปการศึกษาให้สำเร็จโดยเร็ว ดังนั้น หลังสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พ้นวิกฤติ ตนจะเดินหน้าปฏิรูปการศึกษาอย่างเต็มที่ ซึ่งวิกฤติของโรคระบาดทำให้ตนได้เห็นและค้นพบอะไรหลายอย่างที่จะต้องเตรียมความพร้อมและรับมือกับระบบการศึกษาไทย เพื่อวางแนวทางหากต้องเจอกับวิกฤติลักษณะนี้ในอนาคต ซึ่งตนไม่อยากให้เด็กต้องหยุดการเรียนรู้ไปพร้อมกับสถานการณ์วิกฤติของประเทศไทยและทั่วโลก โดยวางแนวทางที่จะช่วยให้เด็กมีการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องแม้ไม่ได้มาเรียนที่โรงเรียน
...
“หลังพ้นวิกฤติโควิดผมจะเปิดรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วนทั้งรัฐหรือเอกชน เพื่อช่วยกันวางแผนการศึกษาสำหรับโลกอนาคตและรับมือกับวิกฤติต่างๆที่จะเกิดขึ้น ขณะนี้ผมได้เร่งเดินหน้ายกระดับการเรียนอาชีวศึกษาแล้วในช่วงโควิด และการพัฒนาครูซึ่งเริ่มคุ้นเคยกับเทคโนโลยีและระบบการเรียนการสอนผ่านออนไลน์แล้ว ดังนั้น ก็ต้องมาดูเรื่องการลงทุนด้านการศึกษาต่อในอนาคตว่าจะมีทิศทางใดบ้าง โดยเฉพาะเรื่องการปรับปรุงหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็นหลักสูตรฐานสมรรถนะ ซึ่งแม้จะปรับปรุงหลักสูตรใหม่แล้วแต่ผมคิดว่าเรายังต้องปรับเพิ่มเติม เนื่องจากสถานการณ์ของโลกเปลี่ยนแปลงไปแล้วทั้งโรคระบาดและเทคโนโลยี” นายณัฏฐพลกล่าว.