คดีสะเทือนขวัญคนไทยทั้งประเทศ “แม่เลี้ยงเดี่ยวโหด” วางยาลูกขอรับเงินบริจาค ใช้ความดราม่าบนโลกโซเชียลหลอกให้คนเห็นใจโอนเงินบริจาค เอาชีวิตของเด็กน้อยมาเป็นเครื่องมือหาผลประโยชน์จากคดี “ฉ้อโกง” ตำรวจท้องที่รับคดีสอบสวนทำคดีตามปกติ รวบรวมหลักฐานออกหมายเรียกเจ้าของบัญชีมารับทราบข้อกล่าวหา เรื่องมาแดงเมื่อเจ้าของบัญชีไม่รู้เรื่องถูกเอาบัญชีไปใช้ให้คนโอนเงินในคดีหลอกขายสินค้า

เจ้าตัวขอความเป็นธรรมกับตำรวจกองปราบปรามให้การว่า ปี 2558 มอบลูกให้ แม่ปุ๊ก อายุ 29 ปี คนโพสต์ขายสินค้าออนไลน์ที่อ้างตัวเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว ลูกป่วยด้วยโรคประหลาด รักษาไม่หาย ขอรับบริจาคและขายสินค้า คนสงสารโอนเงินช่วยเหลือ สั่งสินค้าไม่ได้ของ มีผู้เสียหายแจ้งความดำเนินคดี บอกว่าหลงเชื่อ แม่ปุ๊ก อ้างว่าจบเภสัชกร ไม่พร้อมมีลูก ตนอยากให้ลูกมีอนาคตที่ดีจึงมอบลูกให้ไป ทั้งที่ติดต่อผ่านเฟซบุ๊ก

เดือน ก.ย.2561 แม่ปุ๊กติดต่อมาบอกให้ไปเปิดบัญชีเพื่อทำประกันให้ลูกที่ แม่ปุ๊กขอไปเลี้ยง หลังเปิดบัญชีมอบสมุดธนาคาร สำเนาบัตรประชาชนให้ไป มาตกเป็นผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ทั้งที่ไม่ได้เกี่ยวข้อง

...

พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. ทราบเรื่องสั่งให้ตำรวจกองปราบฯสืบสวนคดีโดยละเอียดให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เน้นพฤติกรรมของ แม่ปุ๊ก ที่น่าสงสัยหลายเรื่อง โดยเฉพาะประเด็นการเจ็บป่วยของลูกที่ต้องหาคำตอบให้ได้ว่าเกิดจากสาเหตุอะไร ทำไมเปิดรับบริจาค ซึ่งเป็นข้อสงสัยของแพทย์ที่รักษาเด็กทั้งสองคน

พล.ต.ต.จิรภพ มอบ พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม พ.ต.ท.มนูญ แก้วก่ำ พ.ต.ท.เอกสิทธิ์ ปานสีทา และ พ.ต.ท.ธีรภาส ยั่งยืน รอง ผกก.4 บก.ป. ลงพื้นที่สืบสวนคดีกว่า 2 เดือน พบพฤติกรรมที่น่าสงสัยของ แม่ปุ๊ก เกี่ยวข้องหลายคดี

การเจ็บป่วยของเด็ก 2 คนที่ แม่ปุ๊กอ้างเป็นลูกไม่ใช่อาการป่วยปกติ น่าเชื่อว่าได้รับสารพิษจากการวางยา ซึ่งบุคคลที่ใกล้ชิดและน่าสงสัยคือ แม่ปุ๊ก ซึ่งเป็นคนเดียวที่ได้รับผลประโยชน์จากที่เด็กป่วย

ตำรวจกองปราบปรามเริ่มจากการวิเคราะห์พฤติกรรมของ แม่ปุ๊ก พบว่าเป็นบุคคลที่มีปัญหาการเงินและการใช้ชีวิต มีปัญหากับแฟนและเรื่องค่าใช้จ่าย พอไม่มีเงินจะหลอกขายของเอาเงินจากคนอื่น แรกๆใช้บัญชีตัวเองถูกจับ ต่อมาเปลี่ยนไปใช้บัญชีคนอื่น เปลี่ยนวิธีการหลอกลวงไปเรื่อยๆ จนถึงมาคิดใช้เด็กน้อยที่อ้างว่าเป็นลูกมาเป็นเครื่องมือสร้างความน่าเห็นใจ และขอรับบริจาคบนสื่อโซเชียลออนไลน์

ย้อนไปเมื่อปี 2555-2557 แม่ปุ๊กขายของออนไลน์ถูกแจ้งความคดีฉ้อโกง ครั้งนั้นใช้ชื่อและบัญชีธนาคารของตัวเอง ระหว่างนั้นมีปัญหากับแฟนที่คบหากันบอกเลิก ปี 2558 แม่ปุ๊กรับเด็กผู้หญิงอายุ 4 ขวบที่ขอจากแม่เด็กที่เกือบเป็นแพะในคดี “ฉ้อโกง” เพื่ออ้างกับแฟนว่าเป็นลูกตัวเองให้แฟนส่งเงินช่วยดูแล โดยแฟนและคนในครอบครัวของ แม่ปุ๊กต่างเชื่อสนิทใจว่าเด็กผู้หญิงที่ขอมาเลี้ยงเป็นลูก

ปี 2559 มีปัญหากับแฟนแยกทางกัน แต่ แม่ปุ๊กยังติดต่อขอเงินแฟนเก่า โดยอ้างว่าลูกป่วยอยู่เป็นประจำ จนมาปี 2560 แฟนเก่ารู้ความจริงว่าไม่ใช่ลูก จึงหยุดติดต่อและไม่ได้ส่งเงินให้ ปีเดียวกัน แม่ปุ๊กถูกฟ้องคดีในศาลคดี “ฉ้อโกงประชาชน” ให้ชดใช้เงินแก่ผู้เสียหายและชำระค่าปรับ ส่วนโทษจำคุกให้รอลงอาญา ปลายปี 2560 แม่ปุ๊กให้กำเนิดลูกชาย ซึ่งปัจจุบันอายุ 2 ขวบ ซึ่งเป็นเหยื่อรายที่สอง โดยไม่ได้ระบุว่าใครเป็นพ่อของเด็ก

ปี 2561 แม่ปุ๊กยังคงมีพฤติกรรมใช้วิธีการเดิมๆ หลอกขายของผ่านเฟซบุ๊ก ถูกแจ้งข้อหาฉ้อโกงและศาลออกหมายจับปลายปี 2561 หลังถูกออกหมายจับ แม่ปุ๊กติดต่อแม่เด็กหญิงวัย 4 ขวบเหยื่อรายแรกที่เสียชีวิตเปิดบัญชีธนาคารอ้างมาใช้ทำประกันให้ลูกที่รับมาเลี้ยง นำมาใช้ในการกระทำผิดแทนบัญชีของตัวเอง

แม่ปุ๊กเริ่มโพสต์ภาพเด็กผู้หญิงอายุ 4 ขวบที่ขอมาเลี้ยง ป่วยโรคประหลาดลงในเฟซบุ๊ก อ้างว่าเป็นลูกสาว ขายของและขอบริจาคได้เงินจำนวนหนึ่ง ต้นปี 2562 เด็กป่วยหนักขึ้น สุดท้ายเสียชีวิตในเดือน ส.ค.2562 หลังเด็กเสียชีวิตยังเปิดรับบริจาคสร้างสวนดอกไม้เพื่ออุทิศให้เด็กที่สถานปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง แต่ไม่มีการสร้างจริง

...

ต้นเดือน ม.ค.2563 แม่ปุ๊กโพสต์เฟซบุ๊กว่า เด็กชายวัย 2 ขวบ ลูกคนเล็กป่วยอาเจียนเป็นเลือด เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาล แม่ปุ๊กโพสต์ขอรับบริจาค ลงขายสินค้าต่างๆเช่นเดิม โดยใช้บัญชีธนาคารที่หลอกให้แม่เด็กหญิงที่เสียชีวิตเปิดให้ ทำให้มีผู้เสียหายหลงเชื่อและโอนเงินให้เป็นจำนวนมาก แต่ไม่ได้รับสินค้า

ตำรวจกองปราบฯสอบปากคำแพทย์ที่เคยรักษาอาการป่วยของเด็ก แพทย์ลงความเห็นว่าเด็กผู้หญิงไม่ได้ป่วยเป็นโรค “เรนินโนม่าห์” ตามที่ผู้ต้องหาโพสต์ลงสื่อออนไลน์ และไม่ได้เป็นโรคที่เกิดเองตามธรรมชาติ แต่เป็นอาการของผู้ที่ได้รับสารพิษเข้าสู่ร่างกายด้วยการกิน และบุคคลที่ใกล้ชิดและน่าสงสัยที่สุดคือ แม่ปุ๊ก

เมื่อเด็กชายที่ป่วยมีอาการทรุดหนัก แม่ปุ๊กจะถ่ายภาพและวิดีโอโพสต์ลงสื่อออนไลน์คล้ายกับกรณีเด็กผู้หญิงที่เสียชีวิตก่อนหน้า แพทย์ได้สังเกตอาการป่วยร่วมกับพฤติกรรมของ แม่ปุ๊ก มีมาตรการควบคุมไม่ให้เข้าเยี่ยม อาการป่วยของเด็กชายดีขึ้นตามลำดับ

กองปราบปรามเข้าตรวจสอบข้อมูลทางการเงินพบในบัญชีธนาคารที่ แม่ปุ๊กใช้รับบริจาคหลายล้านบาท แต่จำนวนเงินกับข้อมูลการบริจาค การนำเงินไปรักษาน้องไม่ตรงกัน มีข้อพิรุธหลายอย่าง เชื่อว่าคดีนี้ไม่ใช่คดีฉ้อโกงธรรมดา เป็นรูปแบบการฉ้อโกงให้ได้เงินจำนวนมาก มีเด็กเป็นเครื่องมือหากิน พ.ต.อ.ปทักข์ ขวัญนา ผกก.4 บก.ป. รายงานคดีให้ พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. และ พล.ต.ท.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผบช.ก. ก่อนได้รับคำสั่งให้ขอหมายศาลเข้าตรวจค้น ก่อนตำรวจกองปราบฯรวบรวมหลักฐานขออนุมัติศาลอาญาออกหมายจับ แม่ปุ๊ก

...

พล.ต.ต.จิรภพ ภูริเดช ผบก.ป. กล่าวกับ “ทีมข่าวอาชญากรรม” ว่า “คดีนี้เริ่มต้นจากที่มีผู้เสียหายมาพบตำรวจกองปราบฯแจ้งว่า ถูกผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงหลอกให้เปิดบัญชีธนาคารเพื่อไปใช้หลอกลวงคนอื่น ได้สั่งให้สืบสวนคดีโดยละเอียด เน้นพฤติกรรมของผู้ต้องหาในคดีที่บอกว่าเป็นแม่ของเด็ก ถ้าพบว่ามีการกระทำความผิดให้ดำเนินคดีเต็มที่ แต่ถ้าไม่ผิดว่าไปตามพยานหลักฐานและให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ตำรวจกองปราบฯทำคดีนี้กว่า 2 เดือนร่วมกับตำรวจท้องที่และแพทย์ที่รักษาอาการป่วยของน้อง ซึ่งเมื่อสืบสวนลงไปในทางลึกพบว่า คดีนี้มีข้อพิรุธหลายประการ น้องไม่น่าจะป่วยตามที่ผู้ต้องหากล่าวอ้าง น่าจะถูกทำร้าย ให้สืบสวนลงไปถึงคดีของลูกคนแรกอีกคนที่เสียชีวิตในช่วงที่ผู้ต้องหาดูแลและเปิดรับบริจาค”

“จนพบว่ามีพฤติกรรมคดีเหมือนกันทั้งสองคดี เมื่อตรวจสอบเส้นทางการเงินพบว่ามีเงินหมุนเวียนในบัญชีที่คนร้ายใช้หลอกลวงหลายล้านบาท จึงรวบรวมหลักฐานโดยเฉพาะผลตรวจนิติวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับสารพิษที่ตรวจพบในร่างกายของน้องและเจอที่บ้านผู้ต้องหามาดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ตำรวจมั่นใจพยานหลักฐานที่มีในการเอาผิดผู้ต้องหา ถือเป็นคดีเปิดโปงขบวนการรับเลี้ยงลูกและนำเด็กมาใช้เป็นเครื่องมือในการทำความผิด ซึ่งอาจจะไม่ใช่กรณีนี้เพียงกรณีเดียว หากประชาชนสงสัยหรือพบเห็นพฤติกรรมคนร้ายแบบนี้แจ้งตำรวจเข้าไปดำเนินการได้เพื่อช่วยเหลือเด็กให้ปลอดภัย นำตัวคนกระทำผิดมาลงโทษ กำจัดคนจิตใจที่โหดเหี้ยมไปจากสังคม”

บทสรุปคดี “แม่เลี้ยงเดี่ยว” วางยาเปิดรับเงินบริจาค คนร้ายคิดว่าตำรวจไม่น่าจะตามทัน จับกุมไม่ได้ ได้ใจกระทำผิดกับน้องอีกคน แต่ไม่รอดฝีมือตำรวจกองปราบปรามยุคที่ทำงานสืบสวนสอบสวนเป็นระบบ

เปิดโปงความจริงอันโหดร้ายที่แฝงอยู่ในสังคมออนไลน์.

...

ทีมข่าวอาชญากรรม