แม้เสียงปี่กลองทวงเก้าอี้ปรับคณะรัฐมนตรี จะไม่อาจกลบกระแสไวรัสโควิด-19 ได้ก็ตาม
แต่กระนั้น เก้าอี้ที่ถูกจับจองมองด้วยตาเป็นมัน รมว.พลังงาน ที่ นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ นั่งเป็นเจ้าของ ไม่เพียงจะทำให้เจ้าตัวสั่นเทิ้ม ยังทำให้พี่น้องเกษตรกรพลอยขวัญกระเจิงไปด้วย
โดยเฉพาะพี่น้องชาวสวนปาล์มน้ำมันที่เพิ่งจะลืมตาอ้าปากมาได้ไม่กี่เดือน ด้วยราคาปาล์มที่พุ่งจาก กก.ละ 2.38 บาท ขึ้นมาอยู่ที่ 6-7 บาท
ด้วยนโยบาย Energy For All พลังงานเพื่อทุกคน ที่ รมว.พลังงาน คนปัจจุบันเพิ่งลงมือทำหลังได้รับตำแหน่ง ด้วยการส่งเสริมให้น้ำมันไบโอดีเซล B10 เป็นน้ำมันดีเซลเกรดมาตรฐาน และมี B20 ใช้สำหรับรถบรรทุกขนาดใหญ่ เมื่อวันปีใหม่ที่ผ่านมา
ส่งผลให้น้ำมันปาล์มที่เคยล้นสต๊อก กดราคาผลผลิตของเกษตรกรมานานหลายปี จนหาคนแก้ปัญหาไม่ได้... กลับกลายเป็นตรงข้าม ทำให้พี่น้องเกษตรกรยิ้มหน้าบานยิ่งกว่าได้ของขวัญปีใหม่จากรัฐบาล
ถ้าการปรับเปลี่ยนรัฐมนตรีเป็นจริงตามกระแสข่าว อนาคตไม่รู้ว่าพี่น้องชาวสวนปาล์มจะต้องกลับไปเผชิญปัญหาเก่าอีกหรือไม่...ถ้ารัฐมนตรีคนใหม่มีการปรับเปลี่ยนนโยบาย หันไปให้คุณค่าของนายทุนค้าน้ำมันปิโตรเลียมมากกว่าเกษตรกร
พี่น้องชาวสวนปาล์มเป็นได้ฝันสลายแน่...เพราะ พ.ร.บ.กองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พ.ศ.2562 ยังค้ำคอ รอกระทืบซ้ำเกษตรกรได้ตลอดเวลา
อีกโครงการดีเด่นของ รมว.สนธิรัตน์ นโยบายโรงไฟฟ้าชุมชน 700 เมกะวัตต์ ที่บอกได้เลยว่า เป็นความหวังครั้งใหม่ที่ยิ่งใหญ่ในชีวิตของเกษตรกรไทย
...
เพราะไม่เพียงจะทำให้ชุมชนรอบโรงไฟฟ้าจะมีส่วนแบ่งจากการขายไฟฟ้า ยังเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพที่มั่นคงให้แก่เกษตรกร ด้วยการทำสัญญาคอนแทรกต์ฟาร์มมิง ปลูกพืชพลังงานขายส่งให้กับโรงงานไฟฟ้าในชุมชนของตัวเอง
ที่สำคัญ โครงการนี้กำลังจะเปิดให้ผู้สนใจยื่นข้อเสนอภายในเดือนนี้...ปรับ ครม. รมว.คนใหม่เปลี่ยนนโยบาย เกษตรกรคงฝันสลายซ้ำซาก.
สะ-เล-เต