นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ไทรอยด์เป็นพิษ คือ ภาวะที่ต่อมไทรอยด์หลั่งฮอร์โมนไทรอยด์ออกมามากเกินไป เมื่อร่างกายมีปริมาณฮอร์โมนมากเกินความต้องการ จะมีสภาวะเป็นพิษจนส่งผลต่อร่างกายในด้านต่างๆ เป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการเจ็บป่วย โดยมักพบในผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ประมาณ 5-10 เท่า ทั้งนี้ หากผู้ป่วยมีภาวะที่ไม่รุนแรง อาจไม่มีอาการแสดงใดๆ โดยเฉพาะในผู้สูงอายุ ไม่ค่อยแสดงอาการอย่างชัดเจน จึงต้องหมั่นสังเกตและตรวจเช็กอาการป่วยที่ตัวเอง

นพ.สมเกียรติ ลลิตวงศา ผอ.โรงพยาบาลราชวิถี กล่าวว่า ไทรอยด์เป็นพิษ มักมีอาการคอพอก ซึ่งเป็นอาการที่ต่อมไทรอยด์โตขึ้น ผู้ป่วยจะรู้สึกหรือเห็นก้อนขนาดใหญ่ที่บริเวณคอ ส่วนในรายที่มีอาการตาโปนร่วมด้วยเรียกว่า โรคคอพอกตาโปน พบได้บ่อยที่สุดประมาณร้อยละ 60-80 ของผู้ป่วยไทรอยด์เป็นพิษทั้งหมด อาการโดยทั่วไปจะเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย นอนไม่หลับ ใจสั่น มือสั่น ขี้ร้อน อาจมีอารมณ์แปรปรวน หงุดหงิด ร่างกายมีการเผาผลาญสูงกว่าปกติ น้ำหนักตัวลดลงอย่างรวดเร็ว บางรายอาจมีอาการถ่ายเหลวบ่อยคล้ายท้องเสีย กล้ามเนื้ออ่อนแรง โดยเฉพาะต้นแขนและต้นขา ภาวะแทรกซ้อนของโรคนี้ ในบางรายที่เป็นเรื้อรังจะเกิดภาวะแคลเซียมในเลือดสูงทำให้กระดูกอ่อนแอ กลายเป็นโรคกระดูกพรุน เพราะร่างกายมีฮอร์โมนไทรอยด์มากไป จนส่งผลต่อความสามารถในการดูดซึมแคลเซียม นอกจากนี้ ผู้ป่วยบางรายที่ตรวจพบไประยะท้ายๆ อาจมีอาการกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด หัวใจวายด้วย.