นกหว้า...ชื่อภาษาอังกฤษ Great argus, Double-banded argus เดิมทีเคยถูกจัดให้มีอยู่ด้วยกัน 2 ชนิด แต่ปัจจุบันได้ถูกรวมกันเป็นชนิดเดียวกัน
ใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Argusianus bipunctatus ตั้งโดยคาโรลัส ลินเนียส ตามชื่ออากัส ยักษ์ร้อยตาในเทพปกรณัมกรีก เพราะบนปีกมีลายจุดคล้ายตาเป็นจำนวนมาก
จัดเป็นสัตว์ในกลุ่มไก่ฟ้าขนาดใหญ่ มีขนสีน้ำตาล หัวและคอเป็นสีฟ้า มักพบในป่าของเกาะบอเนียว เกาะสุมาตรา และคาบสมุทรมลายู
ส่วนในบ้านเราถือว่ามีขนาดใหญ่ที่สุด พบอาศัยอยู่ในป่าดิบชื้นทางภาคใต้ ผู้คนที่ไปเที่ยวป่ามักจะได้ยินเสียงร้องดังกังวานมากกว่าจะได้เห็นตัวจริง เนื่องจากเป็นนกที่ขี้อาย เดินได้เงียบเชียบ และเปรียวมาก มักจะหนีไปล่วงหน้าก่อนที่เราจะเข้าใกล้
นกหว้าตัวผู้จะมีขนปีกยาวและมีลวดลายโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์มากกว่าตัวเมีย เลยถูกขนานนามว่า เป็นพญาระกา หรือเจ้าแห่งไก่
เมื่อเข้าสู่ฤดูผสมพันธุ์ นกตัวผู้จะเตรียมพื้นที่เต้นรำเพื่อจีบสาวเรียกว่า “ลานนกหว้า” โดยจะเป็นพื้นที่โล่งรูปวงกลมซึ่งไม่มีใบไม้สักใบบนพื้นดิน เพื่อที่เวลานกตัวผู้เต้นรำจีบสาวในป่าที่รกทึบ แสงน้อยๆ นกหว้าตัวเมียจะได้ร่ายรำชัดๆ และยอมตกล่องปล่องชิ้น ร่วมกันสร้างครอบครัวต่อไป
น.สพ.เกษตร สุเตชะ คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บอกว่า หลายสิบปีที่ผ่านมา นกหว้าถูกล่าเป็นอาหารอย่างมาก ลูกนกถูกจับมาขายเป็นสัตว์เลี้ยง ป่าดิบชื้นถูกแผ้วถางเพื่อเปลี่ยนเป็นสวนยาง สวนปาล์ม สวนมะพร้าว ทำให้จำนวนนกหว้าในธรรมชาติลดลงอย่างน่าใจหายและคาดว่าจะสูญพันธุ์ในไม่ช้า
ถ้าคนไทยไม่ช่วยกันรักษาป่าทางภาคใต้เอาไว้ “พญาระกา” คงต้องสูญสิ้นไปในที่สุด.
...