ตั้งแต่รัฐบาลทหารเข้ามาบริหารประเทศ หนึ่งในวาระแห่งชาติที่ประกาศคือ การปราบปรามหนี้นอกระบบ!

ที่ขูดเลือดขูดเนื้อชาวบ้านที่ขัดสนชนิดเลือดซิบๆ บางคนถึงขนาดเสียบ้าน ที่ดินทำกิน ให้นายทุนเงินกู้นอกระบบเหล่านี้...

ที่ผ่านมา เห็นรัฐบาลนำโฉนดที่ยึดคืนมาจาก “นายทุน” คืนให้กับชาวบ้านแล้วน่าปลื้มใจแทน แต่ไม่น่าเชื่อในอีกมุมนึงของสังคม “เจ้าหนี้” นอกระบบเหล่านี้ยังทำนาบนหลังคนต่อไป!?

อย่างคดี นายณัฐศักดิ์ คำเขิน ก่อเหตุสะเทือนขวัญ ใช้มีดปาดคอเมียและลูกสาวอีก 2 คนจนเสียชีวิต และใช้มีดแทงตัวเองเพื่อให้ตายตกไปตามกันแต่ไม่สำเร็จ

พอเปิดปากให้การได้ สารภาพว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นการตกลงกันภายในครอบครัว เหมือนพร้อมใจกันฆ่าตัวตายเพราะหนีหนี้?!

เนื่องจากนายณัฐศักดิ์ไปกู้เงินนอกระบบจากแก๊งเงินกู้หลายเจ้า จนชักหน้าไม่ถึงหลังดินพอกหางหมูพัวพันกันไปหมด วันนึงต้องจ่ายดอกเบี้ยรวมแล้ว 8 พันบาท เดือนละ 240,000 บาท!

วิธีการปล่อยเงินกู้ของแก๊งพวกนี้มีหลายแบบ แต่ที่สำคัญเวลาทำสัญญาเงินกู้มันจะบังคับให้ลูกหนี้เซ็นสัญญา 2 ฉบับ ฉบับแรกเป็นแบบถูกต้องตามกฎหมาย ดูเหมือนบริสุทธิ์...ยุติธรรม...

แต่จะมีสัญญาอีกฉบับที่ไม่ถูกกฎหมาย โขกดอกเบี้ย “ลูกหนี้” ชนิดมหาโหด!

ฉบับนี้แหละที่นายทุนเงินกู้นอกระบบหวงนักหวงหนา ซุกได้ซุก ซ่อนได้ซ่อน เผาได้เผา เพราะมันผิดกฎหมาย

อย่างกรณีนายณัฐศักดิ์ตกเข้าไปในวังวนคือ กู้เงินมา 30,000 บาท คิดดอกเบี้ย 6,000 บาท รวมเป็นเงิน 36,000 บาท ต้องผ่อนจ่ายวันละ 1,500 บาท 24 วันหมดทั้งต้นทั้งดอก

อีกเจ้านึงที่พ่อโหดฆ่ายกครัวเป็นหนี้อยู่คือ ดอกเบี้ยลอย ลอยมาตามอารมณ์ของนายทุนขณะตกลงกับลูกหนี้ กรณีนี้ไปกู้มา 10,000 บาท ต้องจ่ายเฉพาะดอกเบี้ยวันละ 200 บาทจนกว่าจะเอาเงินต้นมาคืน?!

...

บวกลบคูณหารดูเองว่า ต้องหาเงินได้วันละเท่าไหร่ถึงจะจ่ายดอกเบี้ยพอ?

มันโหดร้ายกับชาวบ้านที่มีปัญหาด้านการเงินแบบนี้นี่เอง เค้าถึงตัดสินใจผิดๆจนกลายเป็นโศกนาฏกรรม!

ใครก็ได้มาช่วยลากคอไอ้พวกนี้มาลงโทษที...

"สหบาท"