วันเสาร์สบายๆต้อนรับปิดเทอมวันนี้มาคุยถึงกิจกรรมดีๆที่น่าส่งเสริมให้เด็กนักเรียนทำในช่วงปิดเทอมกันดีกว่า สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ร่วมกับเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม ได้จัดโครงการ “กิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ อัศจรรย์วันว่าง” เพื่อเปิดโอกาสให้เด็กไทยทุกคนมีทางเลือกที่จะใช้เวลาว่างในช่วงปิดภาคเรียนให้เกิดประโยชน์

ปิดเทอมใหญ่ 3 เดือนครั้งนี้จะมีเด็กไทย 13 ล้านคนที่อยู่นอกห้องเรียน ท่านผู้อ่านลองเดาดูซิครับว่าเด็กส่วนใหญ่จะทำอะไรกันบ้าง?

เคยมีการเก็บข้อมูลเพื่อดูว่ากิจกรรมและวงจรชีวิตของเด็กนักเรียนในช่วงปิดเทอมเป็นอย่างไร ปรากฏว่า กว่าร้อยละ 80 นอนดึก ตื่นสาย กิจกรรมส่วนใหญ่คือ เล่นอินเตอร์เน็ตหรือเล่นเกมจนถึงเที่ยงคืน ผลที่ตามมานำไปสู่ โรคอ้วน สมองเฉื่อย และกระบวนการคิดไม่พัฒนา

การเล่นเกมไม่ใช่สิ่งไม่ดี เพียงแต่ต้องรู้จักแบ่งเวลา และหากิจกรรมอื่นทำควบคู่กันไป เด็กจะได้รับการพัฒนาทักษะหลายด้าน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเด็กยุคใหม่ที่สมาธิสั้นลง ความอดทนอดกลั้นน้อยลง และชอบยึดตัวเองเป็นศูนย์กลาง ดังนั้น การปรับตัวให้เข้ากับสังคม และสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้ถือเป็นสิ่งสำคัญ เด็กจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะปฏิบัติตามกฎกติกา รู้จักแบ่งปัน รู้จักอดทนรอคอยและควบคุมอารมณ์ เพื่อให้สามารถทำกิจกรรมร่วมกับผู้อื่นได้อย่างราบรื่น

นพ.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการกองทุน สสส. เผยว่า สสส.ได้ประมวลผลและถอดบทเรียนรูปแบบกิจกรรมที่เหมาะสมในแต่ละกลุ่มวัย พบว่ากิจกรรม 3 อันดับแรกที่เด็กสนใจ ได้แก่ เข้าค่าย 45% ท่องเที่ยว ทัศนศึกษา 22.4% และกิจกรรมกีฬา 21.9%

เมื่อแยกเป็นวัยต่างๆ เด็กประถม 4-6 ควรมุ่งเน้นกิจกรรมการสร้างความสัมพันธ์ ความสนุก น่าสนใจ เช่นการไปเที่ยวหรือการไปทัศนศึกษา เยาวชนระดับมัธยมต้น ต้องจัดกิจกรรมที่มีวัตถุประสงค์ที่ชัดเจน ออกแบบกิจกรรมให้เนื้อหารอบด้าน ไม่มุ่งเน้นเฉพาะความสนุกสนาน และต้องกระตุ้นความสนใจหรือส่งเสริมการมีส่วนร่วมให้มากขึ้น

...

เยาวชนระดับมัธยมปลาย ต้องเน้นวิชาการ สอดแทรกประเด็นทางสังคมเข้าไปด้วย เยาวชนระดับมหาวิทยาลัย ต้องเป็นกิจกรรมที่สามารถนำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวัน หรือนำไปพัฒนาตัวเองได้ ส่วนเยาวชนสายอาชีวะ ควรทำกิจกรรมแบบอบรมเชิงปฏิบัติการ (work shop) ไม่เน้นเรื่องความสัมพันธ์มาก แต่ให้เน้นทักษะที่จะนำไปใช้ในอาชีพได้

สำหรับกิจกรรมปิดเทอมสร้างสรรค์ที่ สสส.และภาคีจัดเตรียมไว้มีถึง 1,248 กิจกรรม กระจายไปทุกภูมิภาค แบ่งเป็นหมวดหมู่ได้ดังนี้

ตามหาความฝัน ร้อง เต้น เล่นดนตรี ศิลปะและกีฬา สันทนาการประเภทนี้เป็นการกระตุ้นจินตนาการและความฝันได้เป็นอย่างดี

แบ่งปันสังคม ด้วยการทำกิจกรรมจิตอาสาเพื่อผู้อื่น ถือเป็นการลดตัวตนของตนเองด้วยการเสียสละ

ค้นหาตัวตน ฝึกงานในอาชีพที่ใช่ เป็นการจุดประกายความคิด ได้ทบทวนสิ่งที่ตัวเองต้องการ แล้วยังมีรายได้พิเศษ (สสส.และเครือข่ายจัดหางานที่มีค่าตอบแทนไว้ให้กว่า 1 หมื่นตำแหน่ง) ถือเป็นการฝึกทักษะชีวิตไปในตัว

สนุก ฝึกฝน เปิดโลกเรียนรู้ เป็นการสร้างความผ่อนคลายด้วยกิจกรรม ทำให้ได้เรียนรู้โลก และเพิ่มจินตนาการ

เด็กนักเรียน หรือผู้ปกครองที่สนใจอยากให้ลูกหลานเปิดโลกนอกตำราเรียน สามารถเข้าไปดูข้อมูลได้ที่ www.ปิดเทอมสร้างสรรค์.com หรือ Facebook : HappySchoolbreak.

ลมกรด