ประชาคมโลกอยู่ระหว่างเร่งคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีอย่างต่อเนื่อง นายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ แถลงเมื่อ 19 เม.ย.เรียกร้องให้ต้องใช้ “ทุกวิถีทาง” แก้ปัญหาลดภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือทั้งเรื่องขีปนาวุธและโครงการพัฒนานิวเคลียร์ไม่ให้ส่งผลถึงความสงบสุขของประชาคมโลก ทั้งระบุถึงชาติแนวหน้าที่จะร่วมแก้วิกฤติครั้งนี้คือ จีน สหรัฐฯ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และรัสเซีย เพราะอันตรายจากเกาหลีเหนือกำลังส่งผลถึงสันติภาพในพื้นที่ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ขณะเดียวกัน สหภาพยุโรปแถลงระบุสถานการณ์ตึงเครียดบนคาบสมุทรเกาหลีจำเป็นอย่างยิ่งที่ชาติยุโรปกับจีนต้องร่วมมือกันแก้ปัญหาอย่างใกล้ชิด เช่นเดียวกับรัฐบาลญี่ปุ่นกับออสเตรเลียต่างแลกคำมั่นปรับระดับความสัมพันธ์ต่อกันแน่นแฟ้นยิ่งขึ้นเพื่อรับมือภัยคุกคามเกาหลีเหนือ

ส่วนท่าทีของสหรัฐฯ นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รมว.ต่างประเทศ แถลงที่กรุงวอชิงตัน ระบุรัฐบาลสหรัฐฯอยู่ระหว่างพิจารณากดดันและขึ้นบัญชีเกาหลีเหนือเป็นชาติสนับสนุนก่อการร้ายอีกครั้งจากพฤติกรรมก้าวร้าวยั่วยุ นอกเหนือจากรัฐบาลอยู่ระหว่างประเมินทางเลือกตอบโต้เกาหลีเหนืออย่างเหมาะสม

ก่อนหน้านี้ นายไมค์ เพนซ์ รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ เยือนญี่ปุ่นและประกาศต่อหน้าทหารอเมริกันบนดาดฟ้าเรือบรรทุกเครื่องบิน “ยูเอสเอส โรนัลด์ เรแกน” ซึ่งจอดทอดสมอ อยู่ที่เมืองโยโกซูกะ ระบุสหรัฐฯพร้อมตอบโต้เกาหลีเหนืออย่างเต็มรูปแบบถ้าเกาหลีเหนือหาญกล้าโจมตีสหรัฐฯ ทั้งระบุภัยคุกคามจากเกาหลีเหนือในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือถือว่าอันตรายอย่างยิ่งต่อทั้งภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก

ส่วนกองเรือรบของสหรัฐฯประจำภาคพื้นแปซิฟิก นำโดยเรือบรรทุกเครื่องบิน “ยูเอสเอส คาร์ล วินสัน” ซึ่งคาดว่าจะล่องเข้าพื้นที่ทะเลญี่ปุ่นและคาบสมุทรเกาหลีเพื่อกดดันปรามเกาหลีเหนือ อาจเดินทางเข้าถึงพื้นที่ภายในสัปดาห์หน้า โดยล่าสุดกองเรือกลับแล่นไปในทิศทางตรงกันข้ามเป้าหมายโดยมุ่งสู่มหาสมุทร อินเดียอยู่ระหว่างสิงคโปร์กับอินโดนีเซีย จนสร้างความสับสนแก่ชาวโลกถึงความเคลื่อนไหวคลุมเครือดังกล่าว.

...