จากกรณีกองทัพอิสราเอลเปิดศึกกับอิหร่านรอบใหม่ ส่งฝูงบินกว่า 200 ลำไปทิ้งระเบิดสังหารแกนนำฝ่ายความมั่นคง ศูนย์พัฒนาโครงการนิวเคลียร์ และเป้าหมายอื่นๆ ในกรุงเตหะราน ได้ส่งผลให้กองทัพอิหร่านปฏิบัติการตอบโต้ในทันควันภายใต้รหัสปฏิบัติการ “คำสัญญาที่แท้จริง”

โดยดำเนินการยิงขีปนาวุธ พร้อมปล่อยฝูงโดรนพิฆาตสวนกลับสู่ดินแดนของอิสราเอล ปรากฏภาพข่าวขีปนาวุธร่อนลงกลางเมือง ที่เกือบจะเรียกได้ว่าแม่นยำ เนื่องจากจุดตกใกล้กับที่ตั้งของระบบต่อต้านอากาศยาน

ปฏิบัติการคำสัญญาที่แท้จริงของฝ่ายความมั่นคงอิหร่านรอบนี้ ไม่ใช่ครั้งแรกแต่ถือเป็น “ภาค 3” ปฏิบัติการคำสัญญาที่แท้จริง “ภาคแรก” เกิดขึ้นเมื่อเดือน เม.ย.2567 จากกรณีกองทัพอิสราเอลปฏิบัติการทิ้งระเบิดอาคารข้างสถานกงสุลอิหร่านในกรุงดามัสกัส ซีเรีย

ส่งผลให้นายทหารระดับผู้บัญชาการของอิหร่านเสียชีวิต 2 นาย และอิหร่านได้ตอบโต้ด้วยการผสมกำลังกับกองกำลังติดอาวุธเฮซบอลเลาะห์ในเลบานอน ยิงขีปนาวุธ จรวดร่อน และปล่อยโดรนพิฆาตใส่อิสราเอล จากนั้นต่อมาในเดือน ต.ค.2567 ปฏิบัติการคำสัญญาที่แท้จริง “ภาค 2” จึงเริ่มขึ้น

ภายหลังจากกองทัพอิสราเอลดำเนินการปลิดชีพ “อิสมาอิล ฮานิเยห์” แกนนำกองกำลังติดอาวุธปาเลสไตน์กลุ่มฮามาส ระหว่างเดินทางเยือนกรุงเตหะรานของอิหร่าน แถมพ่วงเอาชีวิตนายทหารระดับผู้บัญชาการของหน่วยรบหัวกะทิกองกำลังพิทักษ์การปฏิวัติอิสลามอิหร่านไปด้วย ซึ่งในปฏิบัติการภาคสองครั้งนั้น อิหร่านได้สาดขีปนาวุธเข้าใส่อิสราเอลกว่า 200 ลูก โดยมุ่งโจมตีฐานทัพอากาศ และเป้าหมายทางความมั่นคงของอิสราเอล

เรื่องนี้ยังดีที่อิสราเอลกับอิหร่านไม่มีพรมแดนติดกัน ถูกกั้นกลางด้วยประเทศอิรัก จึงไม่สามารถยกกำลังพลเข้าห้ำหั่นกันได้มีแต่ต้องใช้อาวุธระยะไกลโจมตีใส่กัน

...

แต่สถานการณ์ในภาพรวมถือว่ามีความดุเดือดเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผู้นำของทั้งสองประเทศก็ยังไม่มีท่าทีจะลดราวาศอก โดยต่างอ้างถึงความชอบธรรม ฝ่ายอิสราเอลต้องการสกัดกั้นไม่ให้อิหร่านครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ พร้อมกล่าวหาว่าอิหร่านมีเครือข่ายพันธมิตรที่ห้อมล้อมรอจังหวะโจมตีอิสราเอลอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ฝ่ายอิหร่านต้องการพัฒนานิวเคลียร์เพื่อพัฒนาพลังงานของประเทศ และยืนยันว่าตัวเองเป็นฝ่ายที่ถูกโจมตีก่อน

จึงแน่นอนว่าปฏิบัติการคำสัญญาที่แท้จริงอาจมีภาคต่อๆไป ขึ้นอยู่กับว่าจะเมื่อไรก็เท่านั้น.

ตุ๊ ปากเกร็ด

คลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม