เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา สถานเอกอัครราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย จัดกิจกรรมกระชับสัมพันธ์และสร้างเครือข่ายกับสื่อมวลชนไทย เปิดทำเนียบฯถนนวิทยุต้อนรับนายกสมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย และคณะ เพื่อแลกเปลี่ยนไอเดีย พร้อมแนะนำองค์การความร่วมมือต่างๆของญี่ปุ่น
ทางแหล่งข่าวสถานทูตได้อธิบายถึงภาพรวมของนโยบายการต่างประเทศของญี่ปุ่น โดยมีใจความสำคัญคือ การส่งเสริมให้ภูมิภาคอินโด-แปซิฟิกเสรีและเปิดกว้างภายใต้กรอบของกฎหมาย ระหว่างประเทศ การเสริมสร้างความร่วมมือกับพันธมิตรและชาติที่มีแนวคิดใกล้เคียงกัน การรับมือกับสถานการณ์ความมั่นคง
ไปจนถึงการผูกมิตรและบริหารความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อเสริมสร้างสันติภาพและความเจริญรุ่งเรืองของภูมิภาค และการรับมือกับความท้าทายของมวลมนุษยชาติไล่ตั้งแต่ปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลง อาหารขาดแคลน โรคอุบัติใหม่ การก่อการร้าย และการปลดอาวุธนิวเคลียร์
ในส่วนความร่วมมือกับประเทศไทยนั้น แหล่งข่าวระดับสูงสถานทูตญี่ปุ่นยังอธิบายถึงประเด็น ฟรีวีซ่าสำหรับชาวไทย ที่มีข่าวคราวว่าดีไม่ดีอาจถูกยกเลิก โดยระบุว่าการต่ออายุมาตรการฟรีวีซ่ามีขึ้นทุกๆ 3 ปี และกำลังจะหมดอายุในปีหน้า ยังไม่มีการคุยเรื่องนี้ในตอนนี้ กำลังดูสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง
ช่วง 1 ปีจากนี้ ญี่ปุ่นหวังอย่างยิ่งที่ความสัมพันธ์จะดีขึ้นไปเรื่อยๆ ขอขอบคุณนักท่องเที่ยวชาวไทยที่ให้ความสนใจญี่ปุ่นเป็นอย่างมาก แต่ยอมรับว่าการละเมิดกฎหมายคนเข้าเมืองถือเป็นประเด็นที่ซีเรียส
เมื่อถามถึงบรรยากาศการค้าการลงทุนกับประเทศไทย มีปัญหาอะไรหรือไม่ หลังจากมีหลายประเทศวิจารณ์ว่าเงื่อนไขการลงทุนของไทยมีความครอบจักรวาล และทำให้บริษัทต่างชาติอาจต้องลงทุนเพิ่มโดยไม่จำเป็น แหล่งข่าวระดับสูงของญี่ปุ่นตอบว่า เข้าใจในเรื่องนี้ เท่าที่พูดคุยกับบริษัทญี่ปุ่นต่างๆ ไม่ได้ยินเสียงบ่น เสียงวิจารณ์อะไร
...
แต่ท่ามกลางสถานการณ์ความวุ่นวายทั่วโลกในตอนนี้ ถ้าสถานการณ์บ้านเมืองมีเสถียรภาพ “การเมืองนิ่ง” ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะดีขึ้นเองเป็นลำดับ นี่คือสิ่งที่อยากเน้นย้ำตลอดครับ.
ตุ๊ ปากเกร็ด
คลิกอ่านคอลัมน์ "หน้าต่างโลก" เพิ่มเติม