สถาบันพระปกเกล้าเชิญ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย พูด ‘เศรษฐกิจ สังคม และการเมืองระหว่างประเทศที่ส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในปัจจุบัน’ 09.00-12.00 น. 15 มิถุนายน 2024 ที่สถาบันฯ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติฯ กรุงเทพฯ
เยรูซาเลมตั้งอยู่บนเนินหิน 2 เนิน สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลาง 762 เมตร ห่างชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียน 56 กม. ห่างจากเหนือสุดของทะเลเดดซี 20 กม. เป็นศูนย์กลางเส้นทางโบราณและเป็นเมืองศักดิ์สิทธิ์ของชาวยิว คริสต์ และมุสลิม มีโบสถ์ของศาสนาคริสต์ ศาสนายิว และมัสยิดจำนวนมาก เป็นเมืองสำคัญลำดับ 3 ของศาสนาอิสลาม
สหรัฐฯ อิสราเอล และอีกหลายประเทศที่เป็นเครือข่ายของพวกตะวันตกประกาศว่านครเยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล แต่มีผู้คนจำนวนมากไม่ยอมรับ หนึ่งในบรรดาคนที่ไม่ยอมรับคือ ร.ต.อ.ดร.นิติภูมิธณัฐ มิ่งรุจิราลัย เมื่อถามว่าที่ใดคือเมืองหลวงของอิสราเอล อาจารย์นิติภูมิธณัฐตอบอย่างฉะฉานทุกครั้งว่า ‘กรุงเทลอาวีฟ’
ครั้งหนึ่งได้รับเชิญให้ไปเยือนอิสราเอล เงื่อนไขของการเดินทาง ของอาจารย์นิติภูมิธณัฐและคณะที่ขอไว้กับผู้เชิญก็คือ อย่าให้ไปพักที่นครเยรูซาเลม และขอให้กิจกรรมที่เป็นทางการอยู่เฉพาะในกรุงเทล อาวีฟ ซึ่งเจ้าภาพรับปาก แต่เมื่อไปถึง ก็ถูกให้ไปพักและไปเยือนกระทรวง ต่างประเทศอิสราเอลที่นครเยรูซาเลม ไปแบบตกกระไดพลอยโจน
ผมเข้าใจความมุ่งมั่นของอิสราเอลที่พยายามดึงคนไปเยือนนครเยรูซาเลมเพื่อสร้างความชอบธรรมในการประกาศต่อโลกว่า ‘เยรูซาเลมเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล’ อาจจะเป็นเพราะชาวยิวเคยหนีตายกระจัดพลัดพรายไปพำนักพักอาศัยในดินแดนอื่นทั่วโลก ถูกกระทำย่ำยีจากเจ้าของประเทศจนต้องดิ้นรนเพื่อให้ตนอยู่รอด แม้ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล
...
ยังจำได้ถึงตอนที่เกิดสงครามระหว่างฮะมาสกับอิสราเอลใหม่ๆ อิสราเอลบอกให้ชาวปาเลสไตน์ย้ายอพยพจากทางเหนือของกาซาลงไปทางตอนใต้ พอปราบฮะมาสเสร็จแล้วก็จะให้ย้ายกลับมาที่เดิม แต่เมื่อชาวปาเลสไตน์อพยพลงใต้แล้ว อิสราเอลก็ถล่มบ้านเรือนจนพังยับเยิน ปาเลสไตน์ที่อพยพลงใต้หมดสิทธิ์กลับทางเหนือที่เป็นบ้านเกิดเมืองนอนของตน
ชาวปาเลสไตน์ที่บ้านแตกสาแหรกขาดอุ้มลูกจูงหลานเข้าไปหลบอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัย มั่นใจว่าตนและครอบครัวจะปลอดภัย ทว่าไม่ใช่เลยครับ กองทัพอิสราเอลยังตามถล่มจนผู้คนล้มตายหายนะ ทารกยังใส่แพมเพิร์สอยู่ แต่โดนอาวุธทำลายจนเหลือแต่ตัว หัวไม่มี
อิสราเอลใช้ฮะมาสเป็นข้ออ้าง จะถล่มโรงพยาบาลฆ่าหมอ ฆ่าพยาบาล ฆ่าคนป่วย ก็บอกว่ามีพวกฮะมาสไปนอนอยู่ จำเป็นต้องทิ้งระเบิด ถล่มโรงเรียนและบ้านเรือนของผู้คนเสร็จแล้วก็ตะโกนว่า ข้าฯ ต้องถล่มเพื่อตามล่าฆ่าพวกฮะมาส อ้างอย่างนี้มีไม่จบสิ้น สถานการณ์ที่ชาวปาเลสไตน์เจอก็เหมือนลูกแกะที่ถูกไล่ล่าจากฝูงหมาป่าอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน
เราะฟะห์หรือราฟาห์เป็นนครในฉนวนกาซาตอนใต้ของรัฐปาเลสไตน์ ก่อนเกิดสงครามมีประชากร 2.5 แสน แต่หลังจากเกิดสงครามมีประชาชนคนปาเลสไตน์อพยพมาอยู่มากถึง 1.5 ล้าน เป็นที่พักพิงแหล่งสุดท้ายของชาวปาเลสไตน์ผู้ชรา ผู้หญิง และเด็ก
26 พฤษภาคม 2024 อิสราเอลโจมตีทางตอนเหนือของเมืองราฟาห์โดยไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้า ระเบิดขนาด 900 กิโลกรัมถูกหย่อนลงไปถึง 7 ลูก พร้อมขีปนาวุธอีกบานเบอะเยอะแยะ มีคนตาย ในวันนั้น 45 คน ในจำนวนนั้น 23 คนเป็นคนชรา ผู้หญิง และเด็ก
28 พฤษภาคม 2024 อิสราเอลโจมตีเต็นท์ชั่วคราว ทำให้มีคนตายในวันนั้นอีก 21 คน และบาดเจ็บจำนวนมาก ระเบิดเหล่านี้เป็นระเบิดนำวิถีจีบียู-39 ของสหรัฐฯ
หลังจากนั้น อิสราเอลก็ประกาศความสำเร็จในการเข้ายึดพื้นที่เพื่อสร้างเขตกันชนเลียบตลอดชายแดนอียิปต์-ฉนวนกาซา แล้วก็เหมือนเดิมครับ อิสราเอลอ้างความชอบธรรมว่าต้องยึดพื้นที่เพราะเป็นเส้นทางที่ใช้ลักลอบขนอาวุธ
สหรัฐฯ อังกฤษ อิสราเอล และตะวันตกอีกหลายประเทศมีพฤติกรรมโหดร้ายทารุณกับมนุษยชาติเผ่าพันธุ์อื่นเหลือเกิน โลกมีความจำเป็นที่จะต้องสร้างมหาอำนาจกลุ่มใหม่เพื่อมาคานอำนาจกับมหาอำนาจโหดเหี้ยมอำมหิตพวกนี้.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com
คลิกอ่านคอลัมน์ “เปิดฟ้าส่องโลก” เพิ่มเติม