เป็นเวลา 3 ปีแล้วที่ยานหุ่นยนต์โรเวอร์ เพอร์เซเวียแรนซ์ (Perseverance) เดินทางไปสำรวจดาวอังคารร่วมกับเฮลิคอปเตอร์อินเจนูอิตี (Ingenuity) ที่ทำการบินครั้งที่ 72 เป็นครั้งสุดท้ายเหนือพื้นผิวดาวอังคารเมื่อวันที่ 18 ม.ค.ที่ผ่านมา และยุติการบินไปเรียบร้อย ซึ่งเพอร์เซเวียแรนซ์ ที่มีขนาดเท่ารถยนต์และอัดแน่นไปด้วยเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ 7 ชิ้น หนึ่งในนั้นคือเรดาร์ที่ใช้ตรวจสอบโครงสร้างใต้พื้นผิวดาวอังคาร (RIMFAX) ด้วยการยิงสัญญาณเรดาร์ลงบนพื้นดาวทุกๆ 10 เซนติเมตร ตอนนี้ได้ให้ข้อมูลอันมีค่ากับงานสร้างแผนที่แรงสะเทือนที่สะท้อนจากความลึกราว 20 เมตร ใต้พื้นผิวแอ่งเยเซโร (Jerezo Crater) บนดาวอังคาร
แผนที่เรดาร์ได้เปิดเผยการมีอยู่ของตะกอนที่เคยสงสัยกันจากการศึกษาดาวอังคารในอดีต แต่เรื่องนี้ไม่เคยได้รับการยืนยันมาก่อน ซึ่งการมีอยู่ของตะกอนบ่งชี้ว่าครั้งหนึ่งแอ่งเยเซโรเคยมีน้ำท่วมเป็นทะเลสาบขนาดยักษ์ โดยตะกอนถูกพัดพาไปตามแม่น้ำและก่อตัวเป็นสามเหลี่ยมดินดอนขนาดใหญ่แบบเดียวกับที่เกิดบนโลก ก่อนที่ตะกอนจะสะสมเกาะตัวกัน และผุกร่อนจากการกัดเซาะใน 2 ช่วงที่แตกต่างกันในเวลาต่อมา การค้นพบตะกอนของทะเลสาบโบราณใต้ตำแหน่งของเพอร์เซเวียแรนซ์ อาจเป็นไปได้ว่ายานหุ่นยนต์จะขูดเอาฟอสซิลจุลินทรีย์ออกมา แต่ก็ต้องรอพิสูจน์จนกว่าจะได้ตัวอย่างกลับมายังโลก
ทั้งนี้ สิ่งมีชีวิตบนโลกต้องอาศัยน้ำในการดำรงอยู่ หากมีหลักฐานว่ามีน้ำบนดาวอังคารจริง ก็อาจเป็นเบาะแสสำคัญที่บ่งบอกว่าครั้งหนึ่งดาวเคราะห์สีแดงเคยเป็นที่อาศัยของสิ่งมีชีวิต หรือสิ่งมีชีวิตก็อาจยังอยู่ที่นั่น.
อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่