ญี่ปุ่นเคราะห์ซ้ำกรรมซัด เครื่องบินแอร์บัสสายการบิน JAL พุ่งชนเครื่องบินตรวจการณ์หน่วยยามฝั่งที่เตรียมไปช่วยผู้ประสบเหตุแผ่นดินไหว ไฟลุกท่วมคาสนามบินฮาเนดะ ย่างสด 5 เจ้าหน้าที่ ส่วนผู้โดยสารและลูกเรือเครื่องบินพาณิชย์ 379 ชีวิตปลอดภัย ขณะที่เหตุแผ่นดินญี่ปุ่นเขย่าหนักรับปีใหม่ เบื้องต้นพบผู้เสียชีวิตแล้ว 48 ศพ ล่าสุดยังเกิดอาฟเตอร์ช็อกตามมาอีกมากกว่า 140 ครั้ง จ่อเกิดอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงในอีก 2-3 วัน
หลังจากประเทศญี่ปุ่นประสบเหตุวิปโยคจากแผ่นดินไหวครั้งใหญ่และเกิดสึนามิถล่มได้เพียงวันเดียว สำนักข่าวต่างประเทศรายงานเมื่อเย็นวันที่ 2 ม.ค.ว่า ญี่ปุ่นก็เกิดเหตุระทึกขวัญซ้ำสองรับปีใหม่ 2567 เมื่อเครื่องบินแอร์บัส 350-900 ของบริษัทเจแปน แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ JL516 บรรทุกผู้โดยสารและลูกเรือรวม 379 ชีวิต ออกเดินทางจากสนามบินชิโตเซะ ในฮอกไกโด ถึงสนามบินฮาเนดะ กรุงโตเกียว ประสบอุบัติเหตุชนกับเครื่องบินตรวจการณ์ชายฝั่ง รุ่นบอมบาร์เดียร์ MA722 ของหน่วยยามชายฝั่งญี่ปุ่น บนรันเวย์ ที่สนามบินฮาเนดะ กรุงโตเกียว เวลาประมาณ 17.50 น.ตามเวลาท้องถิ่น หลังแลนดิ้งแตะรันเวย์ได้เพียงไม่กี่วินาที ขณะที่เครื่องบินของหน่วยยามชายฝั่งญี่ปุ่นกำลังออกเดินทางไปยังสนามบินที่เมืองนีงาตะ เพื่อปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรง 7.6 แมกนิจูด ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 ม.ค. บริเวณคาบสมุทรโนโตะและบริเวณใกล้เคียงตามแนวชายฝั่งญี่ปุ่น โดยรายงานจากสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเคเผยแพร่ภาพขณะเปลวไฟขนาดใหญ่พวยพุ่งท่วมเครื่องบิน โดยเฉพาะบริเวณด้านล่างและด้านหลังของเครื่องบิน รวมถึงเห็นควันดำเต็มท้องฟ้าเป็นวงกว้าง ขณะที่เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งดับไฟ
นอกจากนี้ ภาพที่มีการแชร์บนโซเชียลมีเดียเผยให้เห็นบรรยากาศชุลมุน ขณะผู้โดยสารส่งเสียงกรีดร้องในห้องโดยสารที่เต็มไปด้วยควัน และต่างวิ่งหนีจากสไลเดอร์อพยพไปสู่ที่ปลอดภัย ต่อมามีรายงานยืนยันว่า ผู้โดยสารและลูกเรือของสายการบินเจแปน แอร์ไลน์ สามารถอพยพออกมาได้อย่างปลอดภัยทั้งหมด ขณะที่มีรายงานว่าลูกเรือของเครื่องบิน ยามฝั่ง เสียชีวิต 5 ราย ส่วนกัปตันเครื่องบินสามารถหลบหนีได้ทัน รอดชีวิตหวุดหวิด อุบัติเหตุดังกล่าวส่งผลให้สนามบินฮาเนดะต้องปิดรันเวย์ทั้ง 4 รันเวย์ และให้เครื่องบินเปลี่ยนไปลงที่สนามบินนาริตะแทน ขณะนี้กระทรวงคมนาคมญี่ปุ่นกำลังสอบสวนสาเหตุ ด้านนายคิชิดะ ฟุมิโอะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น สั่งการให้กระทรวงและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพยายามอย่างเต็มที่เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบเหตุ และเร่งประเมินความเสียหายโดยด่วน
...

ส่วนความคืบหน้าเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในญี่ปุ่น รับปี 2024 ด้วยความรุนแรงขนาด 7.6 แมกนิจูด ระดับความลึก 10 กิโลเมตร บริเวณคาบสมุทรโนโตะ จังหวัดอิชิคาวะ ภาคกลางตอนเหนือ บนเกาะฮอนชูของญี่ปุ่น สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ขณะนี้พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 48 ศพ ส่วนใหญ่อยู่ในพื้นที่เมืองวาจิมะและเมืองซูซุ ในจังหวัดอิชิคาวะ อีกทั้งยังสร้างความเสียหายในจังหวัด ใกล้เคียง เช่น จังหวัดนีงาตะ และจังหวัดโทยามะ ขณะที่กรมอุตุนิยมวิทยาญี่ปุ่นเผยว่าเกิดอาฟเตอร์ช็อกมากกว่า 140 ครั้ง และอาจเกิดอาฟเตอร์ช็อกรุนแรงในอีก 2-3 วัน
สำนักข่าวเอ็นเอชเคของญี่ปุ่นรายงานในวันเดียวกันว่า เกิดแผ่นดินไหวขนาดมากกว่า 5 แมกนิจูด อีกครั้งในจังหวัดอิชิคาวะ เมื่อเวลาประมาณ 17.13 น. ของวันที่ 2 ม.ค.ตามเวลาท้องถิ่น เบื้องต้นยังไม่มีรายงานความเสียหายและไม่มีคำเตือนภัยสึนามิ ก่อนหน้านี้ ทางการญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยคลื่นสึนามิพัดเข้าชายฝั่งทะเลญี่ปุ่น เร่งอพยพประชาชนกว่า 100,000 คนไปที่ปลอดภัย ต่อมาได้ยกเลิกคำเตือนภัยสึนามิในช่วงเช้าของวันที่ 2 ม.ค. ทำให้มีประชาชนบางส่วนเดินทางกลับบ้าน อย่างไรก็ตาม มีบ้านเรือนราว 33,000 หลังในจังหวัดอิชิคาวะไม่มีไฟฟ้าใช้ ขณะที่บ้านเรือนเกือบ 20,000 หลังขาดน้ำในการอุปโภคบริโภค นอกจากนี้สำนักข่าวเอ็นเอชเคยังเผยภาพอาคารขนาด 7 ชั้น โค่นล้มตะแคงอยู่บนถนนในเมืองวาจิมะ รวมถึงเกิดเหตุไฟไหม้อาคารบ้านเรือน และร้านค้ารวมกว่า 200 หลัง บริเวณถนนอาซะอิจิ ในตอนกลางของเมืองเดียวกัน ซึ่งต่อมาเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้
นายฟุมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ระบุว่า ได้สนธิกำลังกองกำลังป้องกันตนเองของญี่ปุ่นร่วมกับทีมกู้ภัยกว่า 3,000 คน ในการช่วยเหลือและค้นหาเหยื่อแผ่นดินไหวทีิ่อาจติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือน ส่วนกระทรวงคมนาคมของญี่ปุ่นเผยว่า จากเหตุระทึกขวัญดังกล่าวทำให้มีประชาชนราว 500 คน ติดอยู่ในลานจอดรถที่สนามบินโนโตะ จังหวัดอิชิคาวะ เนื่องจากแรงสั่นสะเทือนส่งผลให้ถนนและรันเวย์แยกตัว ไม่สามารถสัญจรเข้าออกจากสนามบินได้ โดยจะปิดสนามบินโนโตะจนถึงวันที่ 4 ม.ค.เพื่อซ่อมแซมความเสียหาย
ด้านสำนักข่าวเกียวโดนิวส์ของญี่ปุ่นเผยรายงานของบริษัทรถไฟญี่ปุ่นตะวันตกว่า ได้หยุดให้บริการรถไฟชินคันเซ็น สายโฮคุริคุ จำนวน 4 ขบวน ซึ่งเชื่อมต่อระหว่างสถานีโทยามะและสถานีคานาซาวะ เพื่อตรวจสอบความเสียหายของรางรถไฟและโครงสร้างอื่นๆ ทำให้มีผู้โดยสารตกค้างราว 1,400 คน นานกว่า 11 ชั่วโมง และได้กลับมาให้บริการอีกครั้งในช่วงเย็นของวันที่ 2 ม.ค.

แผ่นดินไหวที่เขย่าญี่ปุ่นอย่างรุนแรง ไม่เพียงแต่สร้างความเสียหายให้แก่ประชาชนและสาธารณูปโภคต่างๆของญี่ปุ่นเท่านั้น สำนักงานภูมิสารสนเทศเชิงพื้นที่ของญี่ปุ่นเผยว่า จากเหตุดังกล่าวยังทำให้แผ่นดินของจังหวัดอิชิคาวะอย่างเมืองวาจิมะ เมืองอานะมิซุและเมืองซูซุ เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกราว 1.3 เมตร 1 เมตร และ 80 เซนติเมตร ตามลำดับ ขณะที่เกาะโนโตจิมะ ในเมืองนานะโอะ เคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ 60 เซนติเมตร เช่นเดียวกับจังหวัดโทยามะและจังหวัดนีงาตะ แผ่นดินขยับไปทางตะวันตกเฉียงเหนือ 20 เซนติเมตร
...
วันเดียวกัน นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาลถึงความคืบหน้าเหตุการณ์แผ่นดินไหวในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 1 ม.ค.ที่ผ่านมาว่า ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลคนไทยไปแล้ว พูดคุยกับ รมช.ต่างประเทศไปแล้ว เท่าที่ทราบยังไม่ได้มีปัญหาอะไร กำชับให้ดูแลอย่างเต็มที่ และเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องของกระทรวงการต่างประเทศ ที่ต้องดูแลคนไทยที่พำนักอยู่ที่นั่น หรือนักท่องเที่ยวที่เข้าไปเที่ยวในประเทศญี่ปุ่นที่ตอนนี้น่าจะมีจำนวนมาก ถือเป็นเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง
ขณะที่นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายก รัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ โพสต์ข้อความผ่านแพลตฟอร์ม X ระบุว่า “ติดตามสถานการณ์แผ่นดินไหวในญี่ปุ่นอยู่ครับ ผมขอแสดงความห่วงใยและส่งกำลังใจให้ทางรัฐบาลและประชาชนญี่ปุ่นในการรับมือกับภัยพิบัติครั้งนี้ ขณะนี้สถานทูตไทยที่กรุงโตเกียวรายงานมาว่า ในส่วนของคนไทยในชั้นนี้ยังไม่มีรายงานเข้ามาว่าได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ขอให้พี่น้องคนไทยในพื้นที่ดูแลรักษาตัวและเฝ้าระวังสถานการณ์ โดยติดตามข่าวสารของทางการญี่ปุ่นอย่างต่อเนื่องนะครับ”
อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่