การขุดค้นทางโบราณคดีที่ทำควบคู่กับการสร้างรถไฟเพื่อการท่องเที่ยวมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ทางตอนใต้ของเม็กซิโก ซึ่งออกแบบมาเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยี่ยมชมโบราณสถานของชาวมายาทางตอนใต้ รวมถึงมาพักผ่อนในรีสอร์ตริมชายหาดที่มีชื่อเสียงรอบๆเมืองกังกุน และทูลุมของเม็กซิโก หวังเป็นการกระตุ้นและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

ล่าสุดสถาบันมานุษยวิทยาและประวัติศาสตร์แห่งชาติ (INAH) ของเม็กซิโก เผยว่า นักโบราณคดีเม็กซิกันขุดพบซากมนุษย์ที่ตกแต่งอย่างวิจิตรในหลุมศพที่อาจมีอายุมากกว่า 1,000 ปี โดยค้นพบระหว่างการก่อสร้างโรงแรมใกล้กับซากปรักหักพังที่สำคัญของชาวมายาในเขตโบราณคดีปาเลงเก รัฐเชียปัสของเม็กซิโก นักโบราณคดีเผยว่า บริเวณนี้เคยเป็นที่ตั้งของศูนย์กลางเมืองที่ใหญ่ที่สุดและซับซ้อนที่สุดแห่งหนึ่งในอารยธรรมโบราณ ซากโครงกระดูกที่นักโบราณคดีพบนั้นอยู่ห่างจากใจกลางเมืองประมาณ 2 กิโลเมตร ฝังอยู่ในหลุมหิน ซากศพดังกล่าวน่าจะเกี่ยวข้องกับชาวเมืองที่เป็นชั้นสูง ซึ่งชาวมายาโบราณเรียกว่า “ลากัมฮา” (Lakamha)

นอกจากนี้ยังพบภาชนะทำจากดินเผา 3 ใบ เครื่องประดับหูทรงกลมขนาดใหญ่ และลูกปัดหินสีเขียวหนึ่งคู่นักโบราณคดีอธิบายว่า ผู้วายชนม์ที่อยู่ภายในหลุมศพ ถูกฝังแบบหงายขึ้นและหันศีรษะไปทางทิศเหนือ อย่างไรก็ตามจำเป็นต้องมีการทดสอบเพิ่มเติมเพื่อระบุอายุที่แน่นอนและลักษณะอื่นๆของแต่ละบุคคล.

...

อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่