ประวัติศาสตร์อันเก่าแก่และวัฒนธรรมที่แตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคอันกว้างใหญ่ของอินเดีย ถือเป็นแม่เหล็กสำคัญที่ดึงดูดผู้คนทั่วโลกให้อยากไปเยี่ยมเยือนสักครั้ง และยังเป็นหมุดหมายการเปิดโอกาสทางธุรกิจ การลงทุน เนื่องจากเป็นประเทศที่มีทรัพยากรอันหลากหลาย
ซึ่งหนึ่งในภูมิภาคที่รัฐบาลอินเดียส่งเสริมในเรื่องธุรกิจ การค้า และการท่องเที่ยว มาอย่างต่อเนื่องก็คือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยในอีกมุมหนึ่งดินแดนในแถบนี้เปรียบเป็นสะพานเชื่อมกับภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่สำคัญไม่แพ้เส้นทางอื่นๆ
ในโอกาสที่ความสัมพันธ์การทูตไทย-อินเดียเดินทางมาครบรอบ 75 ปี สถานทูตอินเดียประจำประเทศไทยนำโดย เอกอัครราชทูตสุจิตรา ดูไร ได้จัดงาน “เทศกาลอินเดียตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 2” (Second Edition of North East India Festival in Thailand) เพื่อเป็นหนึ่งในกิจกรรมฉลองความสัมพันธ์ของทั้ง 2 ประเทศ และเป็นการตอกย้ำถึง นโยบายปฏิบัติการตะวันออก (Act East Policy) คือ การบูรณาการทางเศรษฐกิจและความมั่นคง เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ทางวัฒนธรรม และพัฒนาความสัมพันธ์เชิงกลยุทธ์กับประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมุ่งเพิ่มการเชื่อมต่อไปยังรัฐต่างๆของภาคตะวันออก เฉียงเหนือของอินเดีย
ซึ่งวันเปิดงานเทศกาลฯ นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย ระบุว่า เมื่อเส้นทางหลวงไตรภาคีที่เชื่อมจากไทย เมียนมา และอินเดียเสร็จสมบูรณ์ มูลค่าเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน รวมถึงการท่องเที่ยวจะเพิ่มมากยิ่งขึ้น
เห็นได้ชัดว่า เทศกาลอินเดียตะวันออกเฉียงเหนือ ครั้งที่ 2 ถือเป็นการต่อยอดและสอดคล้องกับงานเทศกาลฯ ที่จัดครั้งแรก บวกกับการปรากฏตัวของบุคคลสำคัญทั้งจากรัฐบาลกลางและระดับรัฐ อาทิ ดร.ราชกุมาร รันจัน ซิงห์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย และมุขมนตรีแห่งรัฐนาคาแลนด์ มุขมนตรีแห่งรัฐเมฆาลัย รองมุขมนตรีแห่งรัฐอรุณาจัลประเทศ และรัฐมนตรีรัฐอัสสัม พรั่งพร้อมด้วยบุคคลสำคัญจากภูมิภาคอื่นๆ ได้แสดงให้เห็นถึงการเน้นย้ำจุดแข็งและศักยภาพ รวมถึงความสำคัญของการฟื้นฟูส่งเสริมด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนในด้านการศึกษาและวัฒนธรรมของภาคตะวันออกเฉียงเหนือของอินเดีย
...
คนที่อยากสัมผัสอีสานอินเดีย ปักหมุดเล็งไว้ได้เลย.
ภัค เศารยะ