สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสงครามยูเครน-รัสเซีย เมื่อวันที่ 13 เม.ย. อ้างข้อมูลกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ว่าการสู้รบในเมืองยุทธศาสตร์มาริอูโปล เมืองท่าเรือสำคัญทางภาคใต้ของยูเครน ที่ยืดเยื้อมากว่า 48 วัน อาจได้ถึงบทสรุปในไม่ช้า หลังล่าสุดทหารยูเครนสังกัดกองพลนาวิกโยธินที่ 36 ที่ตั้งมั่นอยู่ในพื้นที่ท่าเรือทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองได้ตัดสินใจ วางอาวุธยอมจำนน 1,026 นาย ในจำนวนนี้เป็นนายทหาร 162 นาย

การยอมจำนนครั้งนี้ ส่งผลให้ฐานที่มั่นของฝ่ายยูเครนเหลือเพียงแห่งเดียว คือย่านอุตสาหกรรมโรงงานเหล็กอาซอฟสตาล ทางตะวันออกของตัวเมือง ท่ามกลางการคาดคะเนของนักวิเคราะห์ความมั่นคงตะวันตกว่า มาริอูโปลนับถอยหลังสู่การแตกพ่าย หลังก่อนหน้านี้มีรายงานว่ากระสุนที่จะใช้ต่อสู้ร่อยหรอไปทุกขณะ ซึ่งสื่ออังกฤษระบุด้วยว่า มีทหารรับจ้างชาวอังกฤษยอมจำนนต่อฝ่ายรัสเซีย

สภาท้องถิ่นมาริอูโปลระบุว่า มีพลเรือนรอการอพยพออกจากเมืองกว่า 100,000 คน แต่การเจรจาขอเปิดช่องทางด้านมนุษยธรรมในวันที่ 13 เม.ย. ไม่เป็นผล โดยรัฐบาลยูเครนระบุว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะเปิดช่องทางมนุษยธรรมในวันนี้ เนื่องจากเส้นทางอันตรายเกินไป กองทัพรัสเซียไม่สามารถควบคุมทหารของตัวเองได้ ส่งผลให้มีการเปิดฉากยิงใส่พลเรือนที่พยายามหลบหนีออกจากเมือง อย่างไรก็ตาม ต่อมากองทัพรัสเซียได้อนุญาตให้สื่อต่างประเทศเข้าไปทำข่าวในเมืองมาริอูโปลแล้ว และรัสเซียได้มีการแจกจ่ายสิ่งบรรเทาทุกข์แก่ชาวบ้าน พร้อมชักธงชาติรัสเซียขึ้นสู่ยอดเสาตามอาคารสำนักงานต่างๆ

วันเดียวกัน นายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ วิจารณ์ว่าพฤติกรรมของรัสเซียในยูเครน คือการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ต้องการขจัดความเป็นยูเครน ขณะที่นายโวโลดิเมียร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวชื่นชมว่า เป็นคำพูดสัตย์จริงจากผู้นำที่แท้จริง นายเซเลนสกียังเผยด้วยว่า เจ้าหน้าที่ยูเครนได้จับกุมนายวิกเตอร์ เมดเวดชุก หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านของยูเครน พร้อมกล่าวหาว่าเป็นคนสนิทของนายวลาดิเมียร์ ปูติน ประธานาธิบดีรัสเซีย ทั้งเสนอให้มีการแลกเปลี่ยนนายเมดเวดชุกกับเชลยศึกชาวยูเครน

...

ขณะที่รัฐบาลชาติยุโรปตะวันออกแสดงพลังสนับสนุนยูเครน ประธานาธิบดีโปแลนด์ ลิทัวเนีย และลัตเวีย มีกำหนดพบนายเซเลนสกีในกรุงเคียฟ ส่วนฟินแลนด์ ชาติเพื่อนบ้านรัสเซียทางยุโรปเหนือ เผยว่าจะใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์ในการพิจารณาว่าจะเข้าร่วมองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (NATO) หรือไม่.