ญี่ปุ่นเปลี่ยนคำจำกัดความทางกฎหมายของ “ผู้ใหญ่” จากผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไปเป็นผู้ที่มีอายุ 18 ปี ตั้งแต่วันที่ 1 เม.ย.เป็นต้นไป ซึ่งเป็นการเปลี่ยนแปลงครั้งแรกในรอบ 140 ปี ย้อนหลังไปไกลถึงยุคเมจิ หลังจากมีการถกเถียงถึงประเด็นการปรับลดอายุบรรลุนิติภาวะในประเทศมานาน นับตั้งแต่ปี 2552ทั้งนี้ตามกฎหมายใหม่ของญี่ปุ่น กำหนดให้ผู้ที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป มี “สิทธิ” และ “ความรับผิดชอบ” ที่มาพร้อมกับการเป็น “ผู้ใหญ่” ตามกฎหมาย สามารถทำนิติกรรมสัญญาต่างๆ เช่น การสมัครบัตรเครดิต เงินกู้ และสัญญาเช่าอพาร์ตเมนต์ ได้เอง โดยไม่ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองอีกต่อไป รวมถึงขอหนังสือเดินทางที่มีอายุ 10 ปี จากเดิมที่ผู้เยาว์ได้รับเพียง 5 ปีเท่านั้น“ผู้ใหญ่” ยังมีอิสระในการตัดสินใจเรื่องต่างๆ ในชีวิตไม่ว่าจะเกี่ยวกับการศึกษา การทำงาน สถานที่อยู่อาศัย ไปจนถึงการแต่งงาน ซึ่งชายอายุ 18 ปีและหญิงอายุ 16 ปี จดทะเบียนสมรสได้โดยไม่ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้ปกครอง ส่วนผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคเกี่ยวกับ “อัตลักษณ์ทางเพศ” ยังสามารถยื่นขอเปลี่ยนเพศได้ตามกฎหมายเมื่ออายุ 18 ปี ขณะเดียวกันที่ต้องรับโทษที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น หากทำผิดกฎหมาย ก็ต้องรับโทษแบบ “ผู้ใหญ่” ไม่ใช่ “ผู้เยาว์” อีกต่อไปแรงจูงใจเบื้องหลังการเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ มาจากแนวคิดที่ว่าประชาชนควรมีส่วนร่วมในสังคมให้เร็วขึ้น จากอัตราการเกิดที่ต่ำของประเทศ ซึ่งปีที่แล้ว รัฐบาลญี่ปุ่นเผยว่าอัตราการเกิดในประเทศลดลง 2.8 เปอร์เซ็นต์จากปีก่อนหน้า เป็นอัตราการเกิดต่ำที่สุดนับตั้งแต่เริ่มมีการบันทึกในปี 2442 จึงหวังว่าการปรับเปลี่ยนครั้งนี้จะช่วยผ่อนคลายปัญหาสังคมผู้สูงอายุ และเพิ่มอัตราการเกิดในประเทศให้สูงมากขึ้นขณะที่หลายฝ่ายชี้ว่าการปรับเปลี่ยนครั้งนี้ อาจทำให้เกิดความสับสนต่อการจัดฉลองงาน “วันบรรลุนิติภาวะ” สำหรับประชาชนอายุ 20 ปี ซึ่งเป็นวันหยุดราชการของญี่ปุ่น ที่จัดขึ้นในเดือน ม.ค.ทุกปี เพื่อต้อนรับสู่วัยผู้ใหญ่อย่างเป็นทางการ ซึ่งคงต้องรอดูความคืบหน้าต่อไป อย่างไรก็ตาม แม้จะได้ชื่อว่าเป็น “ผู้ใหญ่” ตามกฎหมายแล้ว แต่ก็ยังไม่สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่ หรือเล่นการพนันได้ตามกฎหมาย เนื่องจากกิจกรรมดังกล่าวยังคงจำกัดไว้ ที่ผู้ที่มีอายุ 20 ปีขึ้นไป.อมรดา พงศ์อุทัย