จะอ่านเปิดฟ้าส่องโลกวันนี้ให้สนุกต้องย้อนกลับไปอ่านฉบับวันจันทร์เมื่อวานก่อนครับ ผมเรียนไปแล้วว่า ตั้งแต่พวกซานดีนีสตาล้มตระกูลโซโมซาซึ่งเป็นมือไม้ของสหรัฐฯเมื่อ พ.ศ.2522 สหรัฐฯก็ประกาศจะจัดการกับผู้นำฝ่ายซานดีนีสตามาโดยตลอด แต่ไม่เคยประสบความสำเร็จ

จนถึงวันนี้ 42 ปีแล้ว ผู้นำสหรัฐฯซัดนิการากัวมาทุกยุค ไม่ว่าจะเป็นเรแกน บุชผู้พ่อ คลินตัน บุชผู้ลูก โอบามา และทรัมป์ ตอนที่จะมีการเลือกตั้งประธานาธิบดีนิการากัวครั้งใหม่เมื่อ 7 พฤศจิกายน 2564 ส.ส.สหรัฐฯเสนอร่างพระราชบัญญัติว่าด้วยการส่งเสริมให้นิการากัวยึดมั่นต่อเงื่อนไขตามกระบวนการปฏิรูปเลือกตั้ง สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติก็คือต้องการใช้มาตรการคว่ำบาตรต่อรัฐบาลนิการากัวของประธานาธิบดีดาเนียล ออร์เตกา เพื่อที่จะกำจัดการเข้าถึงแหล่งทุนในการทำธุรกรรมระหว่างประเทศ

ระหว่างการหาเสียงเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่ 4 ของออร์เตกา สหรัฐฯต้องการจะดิสเครดิตเพื่อให้แกสอบตก พอร่างฯ ผ่านสภาผู้แทนราษฎร พวกสมาชิกวุฒิสภาก็โหวตผ่านกันใหญ่ ตามด้วยการลงนามบังคับใช้กฎหมายโดยไบเดน

แต่อาวุธที่สหรัฐฯโยนออร์เตกายังชนะเลือกตั้งเหมือนเดิม ออร์เตกาคนนี้นี่ละครับ เคยเป็นนักรบกองกำลังฝ่ายซ้ายซานดีนีสตาที่เข้าไปล้มรัฐบาลตระกูลโซโมซาซึ่งเป็นคอหอยลูกกระเดือกของสหรัฐฯ เมื่อ 42 ปีที่แล้ว นายออร์เตกาด่าสหรัฐฯว่า ‘จักรวรรดินิยมแยงกี้’ แถมเรียกนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามว่า ‘หมารับใช้ของสหรัฐฯ’

เมื่อวานผมรับใช้ค้างไว้อีกเรื่องหนึ่งซึ่งเป็นเรื่องในประวัติศาสตร์ แต่น่าสนใจตรงที่ทำให้เห็นวิธีการของซีไอเอ พ.ศ.2524 เรแกนให้ซีไอเอถือเงินไปจัดตั้ง ‘กอนตรา’ ตั้งกลุ่มล้มรัฐบาลซานดีนีสตา

ซีไอเอประสบความสำเร็จในการตั้งกอนตรากลุ่มแรกเมื่อ พ.ศ.2524 พวกนี้เป็นกองกำลังอาสาชาวไร่ชาวนา รวมกันกับพันธมิตรต่างๆ ตั้งชื่อพวกตัวเองว่า ‘กองกำลังประชาธิปไตยนิการากัว’ มีพันเอกเบร์มูเดซ เป็นผู้นำ

...

กลุ่มที่สองที่ซีไอเอตั้งคือกลุ่มของนายปัสโตรา ชื่อกลุ่มว่า ‘พันธมิตรปฏิวัติเพื่อประชาธิปไตย’ กลุ่มที่สาม ซีไอเอไปโยนเงินให้พวกพื้นเมืองอินเดียแดงแถวชายฝั่งทะเลแคริบเบียน กลุ่มที่สี่ ชื่อ ‘กลุ่มต่อต้านสหพันธ์นิการากัว’ และกลุ่มที่ห้าคือ ‘กลุ่มต่อต้านแห่งภาคใต้’

ตั้งกลุ่มแล้ว เรแกนก็อนุมัติให้ซีไอเอโจมตีเศรษฐกิจของนิการากัวด้วยการวางทุ่นระเบิดท่าเรือ ทำลายไร่นาและสหกรณ์ ทำลายโครงสร้างพื้นฐาน ทำให้เศรษฐกิจนิการากัวเสียหายหลายล้านดอลลาร์ ต้องไปกู้ยืมเงินจากธนาคารโลกมาแก้ไขสถานการณ์ สหรัฐฯก็ไปบีบธนาคารโลกไม่ให้ปล่อยเงินกู้ให้นิการากัว นิการากัวในยุคนั้นกลายเป็นประเทศที่ง่อนแง่นเตรียมล้ม

พรุ่งนี้มาต่อครับ

กอนตานี่เป็นเรื่องเก่า แต่ทุกวันนี้ใครที่เรียนประวัติศาสตร์และความสัมพันธ์ระหว่างประเทศจะต้องเข้าใจ เพราะถือว่าเป็นกรณีตัวอย่างที่มหาอำนาจทำลายประเทศเล็กชาติน้อย เหมือนกับเป็นสูตรสำเร็จของสหรัฐฯในการทำลายประเทศอื่น

รัฐบาลเรแกนห้ามคนอเมริกันและชาติพันธมิตรค้าขายกับนิการากัว (เหมือนที่ทำกับอิหร่าน) พร้อมทั้งโยนข้อหาว่ารัฐบาลซานดีนีสตาเป็นอันตรายต่อความมั่นคงของสหรัฐฯ คู่นี้สู้กันอย่างดุเดือดครับ พวกกอนตรามีเงินใช้มากมายมหาศาล ซึ่งเป็นเงินที่สหรัฐฯโยนให้ ส่วนรัฐบาลซานดีนีสตา ต้องนำเงินรายได้ของประเทศไปต่อสู้กับพวกกอนตรากลุ่มต่างๆ เงินภาษีและรายได้เหล่านี้แทนที่จะถูกใช้ในการพัฒนาเศรษฐกิจ สังคม และการศึกษา กลับต้องเอามาใช้รบกัน

สหรัฐฯมีนโยบายที่ประกาศชัดเจนมาตลอดว่าจะไม่มีการเจรจาตกลงกับผู้ก่อการร้ายหรือให้ความช่วยเหลือด้านอาวุธแก่ประเทศที่สนับสนุนการก่อการร้ายสากล แต่อันนั้นเป็นเรื่องที่ประกาศต่อโลก เพื่อให้โลกยกย่องบูชาตัวเอง

ทว่า ในความเป็นจริงคือ สหรัฐฯขายขีปนาวุธต่อสู้ป้องกันการโจมตีด้วยรถถังและอากาศยานแก่อิหร่าน เรื่องนี้เกี่ยวกับกอนตราและนิการากัวยังไง พรุ่งนี้มาว่ากันต่อครับ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com