มหาสมุทรเป็นพลังที่ทรงพลังที่สุดต่อสภาพภูมิอากาศโลก ทว่า 80% ของโลกใต้มหาสมุทรยังไม่มีการสำรวจ นี่จึงเป็นงานที่สำคัญยิ่งจึงต้องมีการพัฒนาเครื่องมือที่ทันสมัยมาช่วยไขความกระจ่าง

หนึ่งในเครื่องมือที่เป็นความหวังของนักวิทยาศาสตร์และเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่แล้วก็คือเรือ “Mayflower 400” เป็นผลงานความภูมิใจขององค์กรวิจัยทางทะเล ProMare และนักวิจัยจากไอบีเอ็ม ที่ร่วมปลุกปั้นนวัตกรรมนี้มา จนได้รับการยกย่องว่านี่คือเรืออัจฉริยะลำแรกของโลก “Mayflower 400” ออกแบบเป็นเรือไตรมาลัน (trimaran) มีลำตัวหลักอยู่ตรงกลางและมีคานด้านข้างทั้ง 2 ข้าง เรือขับเคลื่อนอัตโนมัติไร้คนขับ ติดตั้งคลุมด้วยแผงโซลาร์เซลล์ แน่นอนว่ายานยนต์ที่บรรทุกเทคโนโลยีสุดล้ำนี้จะเอาชนะสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยได้

ทีมวิศวกรหุ่นยนต์เผยว่าการพัฒนาเรือปัญญาประดิษฐ์ลำนี้ใช้เวลานานพอสมควร เนื่องจากคอมพิวเตอร์ต้องเรียนรู้วิธีระบุอุปสรรคทางทะเลโดยวิเคราะห์ภาพถ่ายหลายพันภาพ และยังต้องได้รับการสอนวิธีหลีกเลี่ยงการชนกันและการลงไปลอยลำในทะเลเป็นครั้งแรก ทีมสร้างสถานการณ์จำลองในการเผชิญกับคลื่น 50 เมตรเพื่อให้เรือเรียนรู้ว่าอะไรคือการกระทำที่ถูกต้อง อะไรคือการกระทำที่ไม่ถูกต้อง อะไรคือความปลอดภัยหรืออะไรไม่ปลอดภัย ซึ่งหากทำผิดพลาดเรือก็จะสามารถแก้ไขตัวเองได้แล้วก็เรียนรู้ด้วยตัวเอง เรียกว่าระบบที่ซับซ้อนของกล้อง 6 ตัวและเรดาร์จะทำหน้าที่เสมือน “ตา” และ “หู” ของเรือนั่นเอง

ในวันที่ 15 พ.ค.นี้ “Mayflower 400” พร้อมแล้วที่จะเดินทางข้ามมหาสมุทรเป็นครั้งแรก ตามเส้นทางประวัติศาสตร์ของเรือ “Mayflower” ในปี พ.ศ.2163 หรือราว 400 ปีก่อน ที่ผู้เคร่งศาสนาชาวอังกฤษกลุ่มหนึ่งรอนแรมข้ามน้ำไปเมืองพลีมัธ รัฐแมสซาชูเสตต์ สหรัฐอเมริกา โดย “Mayflower 400” จะออกจากท่าเมืองพลีมัธ ในอังกฤษไปยังเมืองพลีมัธ ในอเมริกา มีงานหลักคือศึกษามลพิษทางทะเลและวิเคราะห์พลาสติกในมหาสมุทร รวมถึงตรวจจับการมีอยู่ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมในทะเล ซึ่งจะบอกถึงเกี่ยวกับการกระจายของประชากรในมหาสมุทรเปิด

...

แต่ถึงจะล่องมหาสมุทรอย่างเดียวดาย “Mayflower 400” ก็ไม่โดดเดี่ยว เพราะทีมงานจะตรวจสอบเรือตลอด 24 ชั่วโมง จากฝั่งอังกฤษและพร้อมที่จะเข้าแทรกแซงจากระยะไกลในกรณีที่เกิดอันตรายขึ้นมา.

ภัค เศารยะ