ชาวเมียนมานับหมื่นคนยังคงทยอยออกมาร่วมการชุมนุมในเมืองมัณฑะเลย์อย่างไม่กลัวเกรง เมื่อวันที่ 21 ก.พ. แม้ 1 วันก่อนหน้านี้ได้เกิดเหตุความรุนแรงระหว่างเจ้าหน้าที่สลายการชุมนุม มีผู้ชุมนุมถูกยิงเสียชีวิตอย่างน้อย 2 คน บาดเจ็บราว 20 คน
ทั้งนี้ สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้า อ้างการเปิดเผยของพลจัตวาซอ มิน ตัน โฆษกกองทัพเมียนมา ระบุว่า การกระทำของเจ้าหน้าที่วันก่อนอยู่ในกรอบรัฐธรรมนูญ และได้รับการสนับสนุนจากคนส่วนใหญ่ พร้อมกล่าวหาว่ากลุ่มผู้ชุมนุมเป็นผู้ริเริ่มความรุนแรง ขณะที่สื่อของรัฐบาลเมียนมารายงานว่า กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำลายยานพาหนะของเจ้าหน้าที่ และทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจด้วยไม้ มีด และอุปกรณ์ยิงหิน มีตำรวจบาดเจ็บ 8 นาย ทหารบาดเจ็บ 2-3 นาย ทั้งมีตำรวจเสียชีวิตจากบาดแผลจากการถูก
ผู้ชุมนุมทำร้าย 1 นาย
กระนั้น สื่อรัฐบาลเมียนมาไม่รายงานข่าวกรณีผู้ชุมนุมถูกยิงเสียชีวิต 2 คน ระบุเพียงว่ากลุ่มผู้ชุมนุมที่มีพฤติกรรมก้าวร้าว ได้รับบาดเจ็บจากการใช้มาตรการทางความมั่นคงตามกฎหมาย นอกจากนี้ สื่อของกองทัพยังรายงานถึงกรณี น.ส.เมียะ ไคง์ วัย 20 ปี ผู้ชุมนุมรายแรกถูกยิงเสียชีวิตระหว่างการประท้วงเพียงว่า กระสุนที่สังหารหญิงรายดังกล่าว ไม่ได้มาจากปืนของตำรวจ แต่เป็นปืนจากภายนอกการชุมนุม
วันเดียวกัน เครือข่ายสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่ เฟซบุ๊ก ได้สั่งปิดเพจทัดมาดอว์ ทรู นิวส์ อินฟอร์เมชัน หรือเพจข่าวสารอย่างเป็นทางการของกองทัพเมียนมา เนื่องจากเข้าข่ายละเมิดการใช้งานของเฟซบุ๊ก ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความรุนแรงหลายต่อหลายครั้ง การประกาศปิดเพจกองทัพเมียนมามีขึ้นในขณะที่อินเตอร์เน็ตถูกขัดขวางการใช้งานเป็นคืนที่ 7 ติดต่อกัน ขณะที่เจ้าหน้าที่ความมั่นคงยังคงตระเวนจับกุมในยามวิกาล ผู้ที่สนับสนุนการต่อต้านรัฐประหาร โดยมีรายงานว่าลู มิน ดาราเมียนมาชื่อก้อง ผู้เคยผ่านการเล่นภาพยนตร์มากว่า 1,000 เรื่อง ได้ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมในช่วงเช้าตรู่วันเดียวกัน ขณะที่ภรรยาของเจ้าตัวระบุเพียงว่า เจ้าหน้าที่บุกเข้ามาในบ้าน และควบคุมตัวสามีไปโดยไม่พูดไม่จา ไม่ให้ข้อมูลอะไรเลยว่าพาสามีไปไหน
...
ด้านนายอันโตนิโอ กูเตอร์เรส เลขาธิการสหประชาชาติ ออกแถลงการณ์ประณามการใช้ความรุนแรงในเมียนมา การใช้กำลังที่รุนแรงถึงตาย การข่มขู่และการก่อกวนการชุมนุมที่เป็นไปอย่างสันติถือเป็นเรื่องยอมรับไม่ได้ และทุกๆคนมีสิทธิในการชุมนุมอย่างสงบ พร้อมขอเรียกร้องให้ทุกฝ่ายเคารพผลการเลือกตั้ง และหวนคืนสู่รัฐบาลพลเรือน ส่วน รมว.ต่างประเทศสหภาพยุโรปประชุมในวันที่ 22 ก.พ. เพื่อหารือมาตรการที่เหมาะสมต่อกองทัพเมียนมา.