เมื่อวันที่ 14 ก.พ. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานความคืบหน้าสถานการณ์ในประเทศเมียนมา หลังกองทัพก่อรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาลพลเรือนครบ 2 สัปดาห์ ระบุ พล.อ.อาวุโส มิน อ่อง หล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ได้ออกคำสั่งระงับกฎหมายความมั่นคง โดยหลังจากนี้จะอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องไม่จำเป็นต้องขอหมายศาลในการตรวจค้นที่อยู่อาศัยส่วนบุคคล พร้อมสั่งบังคับใช้กฎหมายเก่า ให้ลูกบ้านในชุมชนต้องแจ้งข้อมูลแก่ทางการท้องถิ่น เวลามีผู้มาพักอาศัยค้างคืน

ทั้งนี้ คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นระหว่างที่ทางการเมียนมาอยู่ระหว่างไล่จับกุมแกนนำเคลื่อนไหวต่อต้านการรัฐประหาร อย่างน้อย 7 คน ซึ่งรวมถึงนายมิน กอ เนียง อดีตแกนนำนักศึกษาผู้เคยจัดการชุมนุมต่อต้านเผด็จการเมื่อปี 2531 และเคยถูกตัดสินจำคุกนานกว่า 10 ปี ทั้งทางการเมียนมายังอนุญาตให้เจ้าหน้าที่ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยโดยไม่ตั้งข้อหาได้นานกว่า 24 ชั่วโมง อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีความคืบหน้าใดๆเกี่ยวกับชะตากรรมของนางอองซาน ซูจี ผู้นำโดยพฤตินัยของเมียนมา หลังมีรายงานว่าเจ้าตัวจะถูกคุมขังจนถึงวันที่ 15 ก.พ.

ขณะที่การชุมนุมในเมืองต่างๆของเมียนมา ยังเป็นไปอย่างเข้มข้นต่อเนื่องเป็นวันที่ 9 โดยเฉพาะในนครย่างกุ้ง ที่มีจำนวนหลายหมื่นคนแสดงจุดยืนหลักให้กองทัพคืนอำนาจสู่รัฐบาลพลเรือน และปล่อยตัวนางซูจี รวมถึงเรียกร้องให้ทางการยุติการลักพาตัวชาวบ้านในตอนกลางคืน ซึ่งกลุ่มเคลื่อนไหวในเมียนมาระบุว่า นับตั้งแต่เหตุรัฐประหารในเมียนมาเมื่อวันที่ 1 ก.พ. ได้มีผู้ถูกควบคุมตัวกว่า 384 คน ส่วนใหญ่เป็นการควบคุมตัวในเวลากลางคืน

กระนั้น สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานด้วยว่านับตั้งแต่ทางการส่งเจ้าหน้าที่ความมั่นคงบุกจับตัวนักเคลื่อนไหวในตอนกลางคืนนั้น ได้ส่งผลให้มีกลุ่มชาวบ้านในบางพื้นที่ออกมารวมตัวกันตั้งกลุ่มการ์ดอาสา เดินลาดตระเวนในเวลากลางคืน ท้าทายมาตรการเคอร์ฟิวหลัง 20.00 น. เพื่อแสดงจุดยืนอารยะขัดขืน รวมถึงสอดส่องป้องกันไม่ให้เจ้าหน้าที่บุกจับชาวบ้านในยามวิกาล กระนั้นยังไม่มีรายงานการปะทะกับเจ้าหน้าที่ หรือท่าทีว่าทางการเมียนมาจะใช้มาตรการใดกับกลุ่มคนเหล่านี้

...

ก่อนหน้านี้สภาสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ ได้ออกแถลงการณ์ที่อังกฤษและสหภาพยุโรปเป็นตัวตั้งตัวตี แสดงความติเตียนต่อการปลดรัฐบาลพลเรือน เรียกร้องให้ปล่อยผู้ที่ถูกควบคุมตัวอย่างไร้เงื่อนไข พร้อมยกเลิกประกาศภาวะฉุกเฉิน โดยแหล่งข่าวในที่ประชุมระบุด้วยว่า ทางการจีนยังมองเรื่องนี้เป็นเรื่องภายในของเมียนมา.