ปัจจุบันนกอัลบาทรอสหรือนกทะเลขนาดใหญ่ชนิดหนึ่งบินเคลื่อนไหวด้วยปีกกว้างเกือบ 3.5 เมตร แต่เมื่อเร็วๆนี้ มีการค้นพบซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิลนกยักษ์ที่มีปีกกว้างประมาณ 5-6 เมตร แสดงให้เห็นว่านกมีวิวัฒนาการอย่างมากหลังจากไดโนเสาร์ถูกกวาดล้างไป โดยเข้าครอบครองเหนือมหาสมุทรเป็นเวลาหลายล้านปีทีมนักวิทยาศาสตร์จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เบิร์กลีย์ ในสหรัฐอเมริกา และสถาบันด้านซากดึกดำบรรพ์สัตว์มีกระดูกสันหลังและการศึกษาทางบรรพมานุษยวิทยา (Institute of Vertebrate Paleontology and Paleoanthropology-IVPP) ของสภาวิทยาศาสตร์แห่งชาติจีน เผยว่าฟอสซิลนกอายุ 50 ล้านปีที่สูญพันธุ์ไปแล้ว ซึ่งพบในแถบแอนตาร์กติกาเมื่อทศวรรษที่ 1980 เป็นของนกยักษ์มีโครงกระดูกบนขากรรไกร ที่ชื่อว่า Pelagorni-thids พวกมันมีลักษณะคล้ายกับนกอัลบาทรอสมาก โดยจะเฝ้ามองเหยื่ออย่างปลาหมึก ปลา และอาหารทะเลอื่นๆ จากนั้นก็จับเหยื่อด้วยจะงอยปากที่เรียงรายไปด้วยฟันแหลมคม เชื่อกันว่านกชนิดนี้บินเคลื่อนไหวอย่างกว้างขวางเหนือมหาสมุทรของโลกเป็นเวลาอย่างน้อย 60 ล้านปีทีมนักวิทยาศาสตร์คิดว่า Pelagornithids มีวิวัฒนาการจนมีขนาดมหึมาค่อนข้างเร็วหลังจากการสูญพันธุ์ของไดโนเสาร์ นกตัวสุดท้ายของชนิดนี้มีชีวิตอยู่เมื่อประมาณ 2,500,000 ล้านปีก่อน ซึ่งตรงกับช่วงเวลาที่สภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไปเมื่อโลกเย็นลงและยุคน้ำแข็งเริ่มต้นขึ้น.Credit : UC Berkeley image by Peter Kloess