วัดมัชฌิมวัน (ดงกลาง) อ.เขาสมิง จ.ตราด จะมีงานทอดกฐินสามัคคี ในวันเสาร์ที่ 24 ตุลาคม 2563 เวลา 13.00 น. พ.ศ. 2563 ครบรอบ 50 ปี ที่วัดดงกลางได้รับวิสุงคามสีมาจากทางราชการ ขอเชิญพุทธศาสนิกชนร่วมทำบุญทอดกฐินในครั้งนี้ครับ

พ.ศ.2562 แม้ยังไม่มีวิกฤติโควิด-19 แต่สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน + การขาดความเชื่อมั่นในการบริหารของประธานาธิบดีทรัมป์ ทำให้กิจการขนาดใหญ่ของสหรัฐฯยื่นขอความคุ้มครองตามมาตรา 11 ของพระราชบัญญัติล้มละลายกันเป็นจำนวนมาก

พ.ศ.2563 วิกฤติโควิด-19 ผสมกับวิกฤติที่เกิดจากสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน ที่ทรัมป์สร้างขึ้น ทำให้มีกิจการที่มีหนี้สินมหาศาลยื่นศาลขอล้มละลายมากกว่าปีที่แล้วหลายเท่า เอาแค่เดือนกรกฎาคม-สิงหาคมของปีนี้ บริษัทอเมริกันขนาดใหญ่ล้มละลายมากกว่าช่วงนี้ของปีที่แล้วถึงร้อยละ 224

เท่าที่อ่านรายงานทางเศรษฐกิจ ผมเชื่อว่าปัญหาจากการล้มละลายที่เราได้ยินข่าวทุกวันนี้ยังเปิดเผยออกมาน้อย ที่กำลังเตรียมยื่นล้มละลายยังมีรออีกพะเนินเทินทึก ใครจะนึกเล่าครับว่าสหรัฐฯจะมีวันนี้ พวกที่รวยคือบริษัทกฎหมายที่ชำนาญการล้มละลาย ตอนนี้ทำงานกันทั้งคืนทั้งวันอย่างไม่มีวันหยุด

ที่น่าสงสารคือกลุ่มบริษัทที่ไม่มีเงินจ้างทนายความให้ยื่นคำร้องต่อศาลและจัดทำแผนฟื้นฟูกิจการ พวกนี้ตัดสินใจทำธุรกิจต่อไป ทั้งที่รู้แน่อยู่แก่ใจว่าอนาคตอันใกล้ยังไงก็ต้องล้ม การล้มแบบนี้จะถูกศาลสั่งและยึดทรัพย์ เจ้าของ พนักงาน และผู้ถือหุ้นทั้งหลายจะไม่ได้อะไรกลับไปเลย เท่าที่ติดตามถามข่าว ทราบว่าบริษัทสหรัฐฯที่ไม่มีเงินจ้างทนายความมีเป็นจำนวนมาก

รัฐบาลและธนาคารของสหรัฐฯพยายามอุ้มกิจการขนาดกลางและขนาดเล็กด้วยการเสนอโครงการโน่นนี่นั่น อย่างเช่น PPP หรือ Payroll Protection Program หมายถึง โครงการปกป้องค่าแรงหรือค่าตอบแทนของพนักงาน ถึงแม้ว่าจะได้ความช่วยเหลือ ทว่าผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินต่างทำนายทายกันว่าไม่รอด ความใฝ่ฝันปรารถนาของหลายบริษัทในเวลานี้คือ อยากมีเงินสักก้อนหนึ่งใช้จ้างทนายความ เพื่อให้บริษัทยังมีอะไรเหลือบ้างหลังล้มละลาย

...

ย้อนหลังไปสิบกว่าปีที่แล้ว เพื่อนชาวเยอรมันคนหนึ่งได้ทำงานในบริษัท เฮิรทซ์ ซึ่งเป็นบริษัทกิจการรถเช่าที่ตั้งเมื่อ พ.ศ.2461 (102 ปีมาแล้ว) และมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่รัฐฟลอริดา สหรัฐฯ ตอนนั้น ใครๆ ก็แสดงความยินดีกับเพื่อนผู้นี้ที่ได้ทำงานกับบริษัทที่มั่นคง ไม่มีใครนึกดอกครับ ว่า The Hertz Corporation จะยื่นขอล้มละลายเมื่อ 22 พฤษภาคม 2563 เพราะปีที่แล้วเฮิรทซ์ยังมีรายได้มากถึง 9.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ทรัพย์สิน 2.46 หมื่นล้านดอลลาร์ พนักงาน 3.8 หมื่นคน แต่เพราะฤทธิ์โควิด-19 ทำให้ปีนี้เฮิรทซ์ประคองธุรกิจต่อไปไม่ไหว

ก่อนหน้านี้ เพื่อนที่ทำงานในธุรกิจการบินต่างอู้ฟู่หรูหรา รายได้ดี มีงานมั่นคง เป็นที่อิจฉาชื่นชมของเพื่อนๆ ทว่าปัจจุบันไม่ใช่แล้ว สิ้นเดือนนี้ หากไม่มีเงิน 2.5 หมื่นล้านดอลลาร์เข้าไปเยียวยาสายการบินสหรัฐฯ สายการบินต้องปลดพนักงานกว่า 3 หมื่น หากรัฐบาลให้เงินช่วยเหลือก็จะทำให้สายการบินสามารถจ้างพนักงานกลุ่มนี้ต่อไปได้นานถึงเดือนมีนาคม 2564 หลังจากนั้นก็ตัวใครตัวมัน

บริษัทที่ยื่นล้มละลายที่ผ่านตาไปไวๆก็มีบรูก บราเธอร์ส ห้องเสื้อที่ตั้งมานานกว่า 200 ปี และมีลูกค้าประจำเป็นอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯหลายคน แคลิฟอร์เนีย พิซซ่า คิทเช่น ห้างสรรพสินค้าลอร์ด แอนด์ เทย์เลอร์ กิจการน้ำมัน เชสอะพีก เอนเนอร์จี กิจการผลิตเครื่องใช้ในครัวเรือน เซอร์ลาเทเบิล ฯลฯ

ดีที่สุดในยุคนี้คือ Small is beautiful. จิ๋วแต่แจ๋ว ทำกิจการขนาดเล็กที่ปรับตัวเข้ากับแนวโน้มของโลกได้อย่างรวดเร็ว การควบคุมต้นทุนอย่างมุ่งมั่นเคร่งครัด จำเป็นต้องหาจุดเด่นของตนเองในด้านใดด้านหนึ่ง อย่าทำงานครอบจักรวาล พวกที่ทำตัวยิ่งใหญ่ในตอนนี้มีโอกาสที่เผชิญหายนะภัยได้ทุกเมื่อ

“จิ๋วแต่แจ๋ว” ท่องไว้ทุกวันครับ.

นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com