เฟซบุ๊กกับทวิตเตอร์ลงโทษนายโดนัลด์ ทรัมป์ กับทีมหาเสียงของเขา ฐานโพสต์ข้อมูลอันเป็นเท็จ โดยประธานาธิบดีอ้างว่า เด็กเกือบจะไม่ได้รับผลกระทบจากไวรัสโคโรนาเลย

สำนักข่าว บีบีซี รายงานว่า เมื่อวันพุธที่ 5 ส.ค. 2563 เฟซบุ๊ก ลบคลิปวิดีโอที่นายทรัมป์ให้สัมภาษณ์กับรายการ ‘Fox and Friends’ ของสำนักข่าว ฟ็อกซ์ นิวส์ เนื่องจากมีข้อมูลไม่ถูกต้องเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตราย ต่อมา ทวิตเตอร์ ก็ประกาศระงับบัญชีผู้ใช้ทีมหาเสียงของนายทรัมป์ จนกว่าจะมีการลบคลิปเดียวกันที่ทวีตบนทวิตเตอร์

ในการให้สัมภาษณ์ดังกล่าว นายทรัมป์ยืนยันว่า ตอนนี้ถึงเวลาที่จะเปิดโรงเรียนทั่วประเทศแล้ว “หากคุณมองไปที่เด็กๆ นะ เด็กน่ะเกือบไม่ได้รับผลกระทบจากโรคนี้เลย ผมเกือบจะพูดว่า แน่นอน ได้ด้วยซ้ำไป” “เด็กบางคนแข็งแกร่งขึ้น แม้จะเชื่อยาก ผมไม่รู้ว่าคุณรู้สึกอย่างไรกับเรื่องนี้ แต่พวกเขามีระบบภูมิคุ้มกันแข็งแกร่งกว่าที่พวกเรามี พวกเขาไม่มีปัญหาใดๆ ไม่มีปัญหาอะไรเลย”

...

อย่างไรก็ตาม โฆษกของเฟซบุ๊กแถลงเมื่อช่วงเย็นวันพุธว่า วิดีโอนี้มีคำกล่าวอ้างที่ไม่ถูกต้อง ว่าคนกลุ่มหนึ่งไม่ได้รับผลจากโควิด-19 ซึ่งเป็นการละเมิดนโยบายของเรา เรื่องการให้ข้อมูลไม่ถูกต้องเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 และอาจก่อให้เกิดอันตราย

นี่นับเป็นครั้งแรกที่เครือข่ายสังคมออนไลน์ยักษ์ใหญ่เจ้าหน้าที่ใช้มาตรการลบเนื้อหาที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ โพสต์ ตามนโยบายข้อมูลไม่ถูกต้องเกี่ยวกับไวรัสโควิด-19 แต่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เฟซบุ๊กลบคอนเทนต์ที่นายทรัมป์ โพสต์บนหน้าเพจของเขา

จากนั้นในคืนวันเดียวกัน ทวิตเตอร์ ก็ระงับบัญชีผู้ใช้ ‘@TeanTrump’ ของทีมหาเสียงของนายทรัมป์ เพราะโพสต์คลิปวิดีโอการสัมภาษณ์เดียวกันนี้ ก่อนที่บัญชีทวิตเตอร์ของนายทรัมป์ จะแชร์โพสต์นี้ต่ออีกทอดหนึ่งโฆษกของค่ายนกสีฟ้า ระบุว่า ทวีตของ @TeanTrump ละเมิดนโยบายข้อมูลไม่ถูกต้องเกี่ยวกับโควิด-19 และผู้ใช้ต้องลบคลิปดังกล่าว ก่อนที่บัญชีจะกลับมาเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง ซึ่งคลิปถูกลบไปในเวลาต่อมา

เมื่อเดือนก่อน ทวิตเตอร์เพิ่งระงับบัญชีของนาย โดนัลด์ ทรัมป์ จูเนียร์ ชั่วระยะเวลาหนึ่ง เนื่องจากแชร์คลิปวิดีโอสนับสนุนข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับไวรัสโคโรนา กับยาไฮดร็อกซีคลอโรควิน แต่ในเดือนมีนาคม อีลอน มัสก์ ซีอีโอบริษัทเทสลา ก็ทวีตข้อความบอกว่า เด็กไม่ได้รับผลจากไวรัสโคโรนา แต่ทวิตเตอร์กลับระบุว่าไม่ผิดกฎของพวกเขาแต่อย่างใด

ทั้งนี้ เด็กๆ สามารถติดเชื้อไวรัสโควิด-19 และส่งผ่านเชื้อไวรัสได้ แต่มีโอกาสต่ำมากที่เชื้อจะก่อให้เกิดอาการป่วย ขณะที่ผู้ใหญ่โดยเฉพาะผู้สูงอายุ มีโอกาสที่จะป่วยหนักและเสียชีวิตจากโรคแทรกซ้อนสูงกว่า

ผลวิจัยขนาดใหญ่ที่สุดที่มีการจัดทำมาจนถึงตอนนี้ ซึ่งศึกษาคนไข้โรงพยาบาลในสหราชอาณาจักรมากกว่า 55,000 คน พบว่า มีผู้ป่วยเพียง 0.8% ที่เป็นคนอายุต่ำกว่า 19 ปี และครึ่งหนึ่งของผู้ป่วยกลุ่มนี้ที่ต้องเข้าห้องไอซียู เป็นคนอายุ 60 ปี หรือมากกว่า

ด้านทีมวิจัยของสหรัฐฯ ศึกษาเด็กที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนา 7,780 คนใน 26 ประเทศ พบกว่า เกือบ 1 ใน 5 ไม่แสดงอาการป่วยเลย อีก 1 ใน 5 เกิดความผิดปกติที่ปอดในระหว่างการติดเชื้อ ขณะที่ 3.3% (ราว 256 คน) ต้องเข้าห้องไอซียู และเสียชีวิต 7 ราย