สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก กษัตริย์ภูฏาน เตรียมเข้าพิธีอภิเษกสมรสกับหญิงสามัญชน ในเดือน ต.ค. นี้...

เมื่อวันที่ 20 พ.ค. สำนักข่าวต่างประเทศรายงานอ้างการเปิดเผยของนายดาโช คินเลย์ ดอร์จิ รมว.สารสนเทศของประเทศภูฏาน ระบุว่าสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก แห่งราชวงศ์ภูฏาน พระชนมายุ 31 พรรษา ทรงตัดสินพระทัยสละโสดแล้ว และจะเข้าพิธีอภิเษกสมรสในเดือน ต.ค.นี้ แต่ยังมิได้ระบุวันเวลาที่ชัดเจน

นายดอร์จิ เผยว่า ข่าวพิธีมงคลนี้สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี นัมเกล วังชุก ทรงแถลงการณ์ต่อคณะรัฐมนตรีและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรระหว่างการเข้าร่วมการเปิดประชุมสภาในกรุงทิมพูของภูฏาน โดยตรัสว่าพระองค์ จะอภิเษกสมรสกับหญิงสาวสามัญชนรายหนึ่ง แต่มิได้ระบุรายละเอียดทั้งชื่อหรืออายุ ส่วนเรื่องพิธีอภิเษกสมรสนั้นพระองค์ทรงระบุว่าอย่าวางแผนจัดพิธีใหญ่โตนัก เนื่องจากประเทศมีทรัพยากรน้อยและทรงอยากได้พิธีแบบใกล้ชิดและเป็นกันเอง

ในเวลาต่อมา สื่อมวลชนท้องถิ่นเปิดเผยว่าหญิงผู้โชคดีว่าที่มเหสีกษัตริย์แห่งภูฏานรายนี้ เป็นสาวสามัญชนนามว่า น.ส.เจ็ตซุน เปมา ขณะที่นายเชอริง ทอบเกย์ หัวหน้าพรรคฝ่ายค้านในสภาภูฏาน เผยด้วยว่า น.ส.เจ็ตซุน เปมา เป็นนักศึกษาประจำมหาวิทยาลัยในกรุงทิมพู ซึ่งสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี นัมเกล วังชุกทรงคบหาดูใจกันมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว เป็นคนที่มีอัธยาศัยดีเข้ากับคนง่าย เป็นมิตร และเป็นคนหน้าตาสวยมีความงดงามหมดจด

อย่างไรก็ตาม สำนักข่าวเอเอฟพี รายงานด้วยว่าตามกฎหมายของภูฏาน สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี นัมเกล วังชุก ทรงมีพระชายาได้หลายคน พิธีอภิเษกสมรสของสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี นัมเกล วังชุกถือเป็นงานราชพิธีของราชวงศ์โลกครั้งที่ 3 ในปีนี้

โดยงานก่อนหน้าคือพิธีเสกสมรสของเจ้าชายวิลเลียม ดยุคแห่งแคมบริดจ์และแคทเธอรีน ดัชเชสส์แห่งแคมบริดจ์ แห่งราชวงศ์อังกฤษที่ผ่านพ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 29 เม.ย. ตามด้วยพระราชพิธีอภิเษกสมรสของเจ้าชายอัลเบิร์ตที่ 2 แห่งราชวงศ์โมนาโกกับ น.ส.ชาร์ลีน วิตต์สต็อค นักกีฬาว่ายน้ำเหรียญทองชาวแอฟริกาใต้ ที่คบหาดูใจกันมานานกว่า 4 ปี ในเดือน ก.ค. ที่จะถึงทั้งนี้

สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ นัมเกล วังชุก พระบรมราชสมภพเมื่อวันที่ 21 ก.พ. 2523  ในสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก และสมเด็จพระราชินีอาชิ เซอริง ยางดน วังชุก พระมเหสีองค์ที่ 3 โดยทรงมีพระขนิษฐาและพระอนุชาร่วมพระมารดา ซึ่งมีพระนามว่าเจ้าหญิงอาชิ เดเชน ยังซัม และพระอนุชามีพระนามว่าเจ้าชาย ดาโช จิกมี ดอร์จิ วังชุกพระองค์ทรงจบการศึกษาระดับมัธยมจาก “คุชชิง อะคาเดมี่” โรงเรียนประจำที่ก่อตั้งมานานกว่า 100 ปี ในรัฐแมสซาชูเสตส์ประเทศสหรัฐ ตามด้วยระดับปริญญาตรีที่วิทยาลัย “วีตัน คอลเลจ”ในรัฐเดียวกัน รวมถึงระดับปริญญาโท สาขาการทูตและวิชาการเมืองที่มหาวิทยาลัยชื่อดัง “ออกซ์ฟอร์ด” ประเทศอังกฤษ

...

นอกจากนี้ พระองค์ยังเสด็จไปเยือนต่างแดนและออกงานแทนพระราชบิดาหลายครั้ง และเคยเสด็จเยือนประเทศไทยทรงเข้าร่วมพระราชพิธีมหามงคลบรมราชาภิเษกพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี ในเดือน มิ.ย. ปี 2549  หลังสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ซิงเย วังชุก พระราชบิดา ประกาศสละราชสมบัติในปี 2549 ทำให้พระองค์ได้ขึ้นเป็นประมุขของภูฏานในที่สุด โดยทรงเป็นพระมหากษัตริย์ลำดับที่ 5 ในสายราชวงศ์วังชุก และจากนั้นในปี 2551 ประเทศภูฏานได้มีการเปลี่ยนแปลงจากระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ เป็นระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข 

สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี นัมเกล วังชุก ทรงเป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นที่ประทับใจของพสกนิกรทุกชนชั้นเนื่องจากทรงวางพระองค์อย่างเป็นกันเอง ทั้งยังทรงเป็นสัญลักษณ์สำคัญในการสร้างเอกภาพและเสถียรภาพในประเทศภูฏาน ซึ่งมีนโยบายมุ่งเน้นไปที่การดูแลความสุขของประชาชนกว่า 600,000 คน โดยมีการคิดค้นดัชนีมวลรวมความสุขประชาชาติ หรือ Gross National Happiness (GNH) มาใช้เป็นเครื่องชี้วัดแทนดัชนีชี้วัดผลิตภัณฑ์ประชาชาติ หรือ Gross National Product (GNP)