อาทิตย์ที่จะถึง 16 ธันวาคม 2561 เวลา 09.00-16.30 น. มีสัมมนาโอกาสการค้าการลงทุนไทยในอูกันดา ที่โรงแรมอัลมีรอซ ถนนรามคำแหง กรุงเทพฯ
สงครามสมัยใหม่ไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษกันเลยนะครับ ผู้มีอำนาจที่เป็นคนคดในข้องอในกระดูกให้เห็นมาตั้งแต่ยังเป็นหนุ่ม ถึงแม้มาได้เป็นผู้นำประเทศมหาอำนาจแล้ว นึกว่านิสัยใจคอจะเปลี่ยนไป กลับหางแกว่งไกวไปมาให้ชาวโลกรังเกียจ เดียดฉันท์ โดยเฉพาะเรื่องของการจับตัวนางเมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและลูกสาวผู้ก่อตั้งหัวเว่ยที่ถูกจับในแคนาดาเมื่อ 1 ธันวาคม 2561 ตามคำขอของสหรัฐฯ ที่กล่าวหานางเมิ่งว่าหลอกธนาคารข้ามชาติเกี่ยวกับการที่หัวเว่ยควบคุมบริษัทที่ดำเนินงานในอิหร่าน
ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ถามประธานาธิบดีทรัมป์ว่า ท่านจะเข้าไปแทรกแซงการทำงานของกระทรวงยุติธรรมในคดีของนางเมิ่งหรือไม่ นายทรัมป์ตอบว่า อะไรก็ตามที่ส่งผลดีต่อประเทศของเรา ผมจะทำ ถ้าการแทรกแซงกระทรวงยุติธรรมในคดีนี้มีส่วนช่วยผลักดันข้อตกลงการค้าขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา ซึ่งเป็นเรื่องที่ดีต่อความมั่นคงของประเทศ ผมจะต้องแทรกแซง
จากนั้นนายทรัมป์ก็บอกต่อว่า เรื่องคดีของนางเมิ่ง เจ้าหน้าที่รัฐบาลสหรัฐฯ ได้ปรึกษาหารือกับกระทรวงยุติธรรมและเจ้าหน้าที่ทางฝ่ายจีนแล้ว ทว่า ตัวของทรัมป์เองยังไม่ได้คุยกับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในเรื่องนี้
งานนี้มีหางโผล่จากก้นมาให้เห็นชัดเจนแล้วครับ ว่าทรัมป์ใช้การจับกุมผู้หญิงเพื่อเป็นข้อต่อรองกับข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-จีน ถ้าเล่นกันอย่างยุติธรรม สติปัญญาอย่างทรัมป์ไม่มีทางสู้นายสี จิ้นผิง และทีมงานทางฝ่ายจีนได้ ผู้อ่านท่านที่เคารพ เรื่องความอยุติธรรมที่ฝรั่งโยนใส่พวกเราชาวเอเชียและชาวแอฟริกันมีมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
ทว่าจีนเป็นประเทศที่ไม่ใช่จะยอมอะไรง่ายๆ จีนเล่นงานไอ้ปื๊ดที่ทำตามคำสั่งของนายทรัมป์ ผู้อ่านท่านคอยดูนะครับ ว่าแคนาดาจะตกที่นั่งลำบาก เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รอง แต่เอากระดูกมาแขวนคอ ผลประโยชน์การค้าระหว่างแคนาดา-จีน ที่มีมูลค่าหลายหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปีจะหายไป
...
ต่อไปคนสัญชาติแคนาดาจะเดินทางไปไหนมาไหนลำบากขึ้น อย่างนายไมเคิล คอฟริก เป็นอดีตนักการทูตสัญชาติแคนาดาและมีถิ่นพำนักพักอาศัยอยู่ในแผ่นดินจีน ทำงานให้กับอินเตอร์เนชั่นแนลไครซิสกรุ๊ป โดนทางการจีนจับกุมไปแล้วครับ ขณะที่ผมเขียนเปิดฟ้าส่องโลกรับใช้ผู้อ่านท่านที่เคารพอยู่ในขณะนี้ มีคำยืนยันว่านายคอฟริกโดนจับ แต่ยังไม่ทราบรายละเอียด นี่เป็นการตอบโต้เล็กๆ จากจีน ซึ่งของใหญ่ๆ ยังไม่มา เดี๋ยวของใหญ่มาแล้วแคนาดาก็คงจะรู้สึก
ตอนนี้นางเมิ่งได้ประกันตัวและอยู่ในกระบวนการการส่งผู้ร้ายข้ามแดนจากแคนาดาไปสหรัฐฯ ซึ่งการส่งตัวมีกำหนดเริ่มขึ้นในวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2562 หากนางเมิ่งถูกส่งไปสหรัฐฯ และศาลสหรัฐฯ พิพากษาว่านางเมิ่งมีความผิด นางเมิ่งจะโดนจำคุกนานมากกว่า 30 ปี
ผู้อ่านท่านคงนึกออกนะครับ ว่าถ้าเหตุการณ์เป็นไปตามนี้ ผมว่าสงครามระหว่างจีนกับสหรัฐฯ คงไม่มีทางจบง่ายๆ คนจีนจำนวนมากไม่สบายใจที่เห็นนางเมิ่งถูกคุมตัวอย่างเข้มงวดในระหว่างรอผลการพิจารณาส่งตัวในฐานะผู้ร้ายข้ามแดนไปสหรัฐฯ นางเมิ่งโดนยึดหนังสือเดินทาง โดนใส่เครื่องควบคุมตัวอิเล็กทรอนิกส์ และถูกจำกัดบริเวณให้อยู่แต่ในบ้านที่เมืองแวนคูเวอร์
สหรัฐฯชี้นิ้วว่าคนโน้นเป็นผู้ก่อการร้าย ประกาศว่าประเทศนั้นสนับสนุนผู้ก่อการร้าย แต่โดยแท้ที่จริง สหรัฐฯนั่นแหละที่เป็นผู้ก่อการร้ายที่กดดันประเทศต่างๆ บางครั้งก็ไปลงโทษตุรกี บางทีก็ไปข่มขู่รัสเซีย หลายครั้งก็เล่นงานจีน เล่นงานตรงๆไม่ได้ ก็เล่นงานผู้หญิง
ถึงคราวที่ประเทศเล็กชาติน้อยต้องร่วมมือกับจีน รัสเซีย อิหร่าน ฯลฯ จัดการกับสหรัฐฯ บ้างแล้วล่ะครับ.
นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัย
songlok1997@gmail.com