หลังจากมีการทดสอบนับหลายร้อยครั้งเพื่อตรวจสอบการปรากฏตัวของเขม่าดำหรือมลพิษอื่นๆ ตามแนวเทือกเขาแอนดีส ที่ตั้งขนานทอดยาวประมาณ 7,000 กิโลเมตรไปตามแนวชายฝั่งตะวันตกของละตินอเมริกา ล่าสุด ผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อมจากมหาวิทยาลัยซานติอาโก ในประเทศชิลี เผยว่า หิมะที่ปกคลุมเทือกเขาแอนดีสน่าจะมีความสะอาดพอๆกันกับหิมะในแถบอาร์กติกของประเทศแคนาดา
การวิจัยดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของโครงการตรวจสอบการปรากฏตัวของเขม่าคาร์บอนสีดำหรือเขม่าดำ (black carbon) ในดินแดนที่เรียกว่า “หิมะภาค” (cryosphere) ซึ่งเป็นพื้นที่ส่วนหนึ่งของโลกที่มีทั้งหิมะและน้ำแข็งอยู่ใต้ผิวโลกและบนผิวโลก พื้นที่เย็นยะเยือกที่เต็มไปด้วยหิมะของเทือกเขาแอนดีสก็จัดว่าเป็นหิมะภาคแห่งหนึ่ง นักวิจัยพบว่าที่แห่งนี้มีเขม่าดำในปริมาณต่ำกว่า 14 นาโนกรัมต่อหิมะ 1 กรัม บ่งชี้ว่าอัตราส่วนเปรียบเทียบค่าการสะท้อนแสงของพื้นผิวกับปริมาณรังสีทั้งหมดที่ตกกระทบของหิมะมีน้อยกว่า 2% เปรียบเทียบแล้วก็นับว่าอยู่ในระดับเดียวกับหิมะในแถบรัฐอลาสกาของสหรัฐอเมริกา หรือพื้นที่อาร์กติกในแคนาดา
ทั้งนี้ เขม่าดำนั้นถูกปล่อยออกมาจากการเผาไหม้ของน้ำมัน ดีเซล เชื้อเพลิงจากไม้ และเชื้อเพลิงจากซากดึกดำบรรพ์หรือฟอสซิล (fossil) เป็นตัวที่ทำให้พื้นผิวหิมะหม่นดำและความสามารถในการสะท้อนแสงของพื้นผิวลดต่ำลง นั่นหมายความว่าหิมะจะละลายเร็วขึ้น ซึ่งการศึกษาความเข้มข้นของเขม่าดำอาจมีความสำคัญต่อการคาดการณ์อัตราการละลายของหิมะและน้ำแข็งในอนาคตได้.